เอเอฟพี--จีนตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ระดับเดิม เท่ากับ 7.5 เปอร์เซนต์ สำหรับปี 2556 นี้ และในขณะที่ค้นหามาตรการรักษาการฟื้นตัว ก็จะปรับเปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจมังกร ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับสองของโลก
ปัจจุบันการเจริญเติบโตด้านวัตถุที่กำลังขยายตัวไม่หยุดยั้ง เป็นสิ่งสำคัญที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ยกอ้างเป็นความชอบด้วยกฎหมายในการครองแผ่นดิน โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ช่วยให้ประชาชนหลายร้อยล้านหลุดพ้นจากความยากจนในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
ในปีที่แล้ว(2555) จีดีพีจีนโตเพียง 7.8 เปอร์เซนต์ เป็นระดับที่ตกต่ำที่สุดใน 13 ปีมานี้ สืบเนื่องจากความอ่อนเปลี้ยภายในและวิกฤตการเงินโลก ที่หั่นความต้องการหรืออุปสงค์ในสหรัฐอเมริกา และยุโรป คู่ค้ารายใหญ่ของจีน เศรษฐกิจจีนซึมลงในสองปีมานี้ ได้แก่ ปี 2553 ขยาย 10.4 เปอร์เซนต์ และปี 2554 ขยาย 9.3 เปอร์เซนต์
เศรษฐกิจมังกรเริ่มฉายแววสดใสขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กลุ่มนักวิเคราะห์เริ่มมองโลกในแง่ดีว่าตัวเลขการเติบโตจีนปีนี้(2556)จะกระเตื้องขึ้น บางกลุ่มคาดการณ์ว่าจะทะยานสูงถึง 8 เปอร์เซนต์ หรือมากกว่า
อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังคงท่าทีอนุรักษ์ ดังที่มักปฏิบัติเสมอมา โดยเป้าหมายจะสูงกว่าความเป็นจริง
“เราได้พิจารณาอย่างเหมาะสม และตั้งเป้าการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ไว้ที่ ราว 7.5 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นระดับที่เราต้องทำงานหนักสาหัสทีเดียว” นายกฯเวิน จยาเป่ากล่าวระหว่างการแถลงรายงานในที่พิธีเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (National People's Congress /NPC)หรือรัฐสภา ในวันนี้(5 มี.ค.)
ตัวเลขดังกล่าวเท่ากับเป้าหมายปี 2555 ทั้งนี้ จีนได้ตั้งเป้าการขยายตัวเศรษฐกิจที่ประมาณ 8 เปอร์เซนต์สำหรับ 7 ปี จากรายงานข่าวของสำนักข่าวซินหวา
นอกจากนี้ ผู้นำจีนยังได้สัญญาปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งในกว่า 30 ปีที่ผ่านมา เสาหลักของเศรษฐกิจจีน ได้แก่ การส่งออกและอภิมหาโครงการซึ่งเป็นการลงทุนโดยตรงของรัฐ ต่อไปนี้จีนจะผลักดันให้การบริโภคภายในเป็นเรี่ยวแรงหลักดันการเติบโตฯ
เวินย้ำว่า “เราต้องเปลี่ยนรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างจริงจังเสียที”
ด้านกลุ่มนักวิเคราะห์มองว่า เป้าหมายการเติบโตปี 2556 นี้ ไม่น่าประหลาดใจ และอาจไปถึงได้ง่ายๆ
“ตอนนี้เราอยู่ในขั้นเศรษฐกิจเพิ่งจะฟื้น ดังนั้น ภารกิจหมายเลขหนึ่งของรัฐบาลใหม่จะต้องมุ่งรักษาการฟื้นตัวต่อไป” ซุ่น จวินเหว่ย แห่งธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ในปักกิ่ง กล่าว
นายกฯเวิน ผู้กำลังลงจากตำแหน่ง บอกอีกว่า จีนตั้งเป้าหมายสร้างงานเพิ่มอีก ประมาณ 9 ล้านตำแหน่งงาน ในเขตเมืองต่างๆ เพื่อให้อัตราว่างงานคงเดิมหรือต่ำกว่า 4.6 เปอร์เซนต์ และประกันรายได้ต่อหัวประชากรทั้งของคนเมืองและชาวชนบทจะสูงขึ้น
“เป็นความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มการใช้จ่าย เพื่อประกันความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและรักษาแรงหนุนการเติบโตเศรษฐกิจและการปรับโครงสร้าง” เวิน ว่า
ทั้งนี้ ในรายงานอีกฉบับที่ออกโดยกระทรวงการคลัง ระบุว่าจีนจะแบกรับยอดขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น เท่ากับ 1.2 ล้านล้านหยวน (193,000 ล้านเหรียญสหรัฐ)ในปีนี้ โดยตัวเลขนี้มากกว่ายอดขาดดุลเมื่อปีที่แล้ว 400,000 ล้านหยวน หรือ ราว 2 เปอร์เซนต์ของจีดีพี
ธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินซ์ (Bank of America Merrill Lynch) ซึ่งทำนายว่าเศรษฐกิจจะโตที่ 8.1 เปอร์เซนต์ในปีนี้ ชี้แนวโน้มการขยายตัวอันเนื่องมาจากนโยบายการคลัง “เชิงรุก”
จีนยังได้ตั้งเป้าอัตราเงินเฟ้อสำหรับปีนี้ที่ 3.5 เปอร์เซนต์ ซึ่งต่ำกว่าเป้า4.0 เปอร์เซนต์ของปีที่แล้ว ด้านอัตราเงินเฟ้อจีนปี 2555 อยู่ในระดับต่ำที่ดีมาก ที่ 2.6 เปอร์เซนต์
อย่างไรก็ตาม “จีนยังคงเผชิญแรงกดดันเงินเฟ้ออย่างมากทีเดียว” เวิน กล่าว โดยอ้างอิงราคาสินค้าที่ยังสูง แต่กลุ่มวิเคราะห์กลับไม่วิตกนัก เช่น นักวิเคราะห์ซุ่นชี้ว่าการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ณ ขณะนี้ อยู่ในขั้น “เบาะๆมาก” การเพิ่มสูงของราคาดูไม่ไปไกลเกินมือ และยังคาดการณ์ว่าตัวเลขจะอยู่ที่ราว 3 เปอร์เซนต์ในปีนี้
นอกไปจากการแถลงรายงานด้านเศรษฐกิจแล้ว เวินได้ประกาศคำมั่นด้วยเสียงดังก้องว่า จักพิทักษ์อธิปไตย ความมั่นคง และบูรณภาพดินแดนจีน
ความล้มเหลวที่กลัวของรัฐบาลเวิน
การปราศรัยและแถลงรายงานต่อผู้แทนประชาชนราว 3,000 คนในวันเปิดการประชุมรัฐสภาจีนนี้ นับเป็นการแถลงทางการเมืองครั้งสุดท้ายของเวิน จยาเป่า ซึ่งเป็นพ่อบ้านดูงานการปฏิบัติงานรายวันของรัฐบาล ในการประชุมรัฐสภามังกรซึ่งกินเวลาเกือบสองสัปดาห์ครั้งนี้ จะประทับตรารับรองการถ่ายโอนอำนาจผู้นำรุ่นใหม่ โดยจะรับรองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ สี จิ้นผิง ขึ้นตำแหน่งประธานาธิบดี และหลี่ เค่อเฉียงเป็นนายกรัฐมนตรี แทนที่หู จิ่นเทา และเวินจยาเป่า ตามลำดับ เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการถ่ายโอนอำนาจผู้นำจีน
กลุ่มวิจารณ์การเมืองโลกชี้สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดในการนำรัฐบาลของเวิน คือ ไม่สามารถลดช่องว่างรายได้ของกลุ่มประชาชน และปฏิรูปการเมือง จากข้อมูลสถิติทางการเผยเมื่อเร็วๆนี้ แสดงถึงความไม่เท่าเทียมในสังคมขยายกว้าง แม้เวินประกาศคำมั่นลดช่องว่างรายได้ระหว่างคนเมืองและคนชนบท
เวินยังล้มเหลวการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ชะลอตัวในไม่กี่ปีมานี้ กลุ่มวิเคราะห์ชี้เศรษฐกิจมังกรพึ่งพิงการส่งออกและการลงทุนอย่างน่าอันตรายมาก.
ภาพบรรยากาศในวันเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีน ณ มหาศาลาประชาคม กรุงปักกิ่ง วันที่ 5 มี.ค. (ภาพเอเอฟพี)