ไชน่าเดลี – บัณฑิตยสภาด้านสังคมศาสตร์ของจีนเผยรายงานระบุ ปีนี้ GDP จีนจะโตแค่ 7.7% ต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี จากความถดถอยของการส่งออกและการชะลอตัวในภาคอุตฯ ชี้ปี 2556 น่าจะโตได้ถึง 8.2% ส่วนอีกสิบปีข้างหน้าคาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างมีเสถียรภาพระหว่าง 7.5-8.0%
บัณฑิตยสภาด้านสังคมศาสตร์ของจีนเผยแพร่รายงานสมุดปกน้ำเงินเมื่อวันพุธ (5 ธ.ค.) ที่ผ่านมาระบุว่า ในปี 2556 (ค.ศ.2013) การเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของจีนนั้นน่าจะถึงร้อยละ 8.2 ซึ่งจะสูงกว่าอัตราการเติบโตของจีดีพีจีนในปีนี้ที่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ ร้อยละ 7.7
รายงานดังกล่าวระบุด้วยว่า อัตราการเติบโตของจีดีพีจีนในปี 2555 จะเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 (ค.ศ.2000) เนื่องจากความซบเซาของอุปสงค์สินค้าส่งออก และผลกระทบจากการชะลอตัวของการผลิตในภาคอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตามก็ระบุด้วยว่า ในช่วงหนึ่งทศวรรษนับจากนี้ไป อัตราการเจริญเติบโตของจีพีดีของจีนจะยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยเฉลี่ยจะปีน่าจะเติบโตอยู่ในช่วงร้อยละ 7.5 ถึง ร้อยละ 8 ทั้งนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่าในปี 2554 (ค.ศ.2011) จีดีพีจีนเติบโตที่ร้อยละ 9.3 ส่วนปี 2553 (ค.ศ.2010) เติบโตร้อยละ 10.4
ในปีนี้ ภาคอุตสาหกรรมรวมถึงภาคการผลิตและการก่อสร้างมีส่วนในการสร้างความเจริญเติบโตให้กับจีดีพีของจีนราวร้อยละ 4.1 ลดลงจากในปี 2554 ที่อยู่ในระดับร้อยละ 5.2 ขณะที่ภาคบริการช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจจีนในปีนี้เติบโตราวร้อยละ 3.3 เทียบกับร้อยละ 3.9 ในปี 2554 รายงานฉบับดังกล่าวระบุ
“การแก้ปัญหากำลังการผลิตที่ล้นเกินและการถดถอยของผลกำไร จำเป็นที่จะต้องแก้ไขด้วยการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสำคัญก็คือการสร้างเสถียรภาพให้กับการเติบโต” นายหลี่ เสี่ยว์ซง รองหัวหน้าสถาบันเศรษฐมิติและการวิเคราะห์เชิงเทคนิคของบัณฑิตยสภาด้านสังคมศาสตร์ของจีนระบุ และว่า การลดลงของอุปสงค์ต่อสินค้าส่งออกของจีน ประกอบกับสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอ เป็นตัวฉุดรั้งให้อัตราการเติบโตจีดีพีจีนในไตรมาสที่ 3 เหลือเพียงร้อยละ 7.4 โดยถือเป็นการถดถอยเจ็ดไตรมาส ติดต่อกันแล้ว
“การจะรักษาเสถียรภาพของการลงทุนเป็นวิธีที่ตรงเป้าและได้ประสิทธิภาพที่สุดในการควบคุมความเสี่ยงจากภาวะถดถอย และกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโตได้ในระยะสั้น” หลี่ระบุ
บัณฑิตยสภาด้านสังคมศาสตร์ของจีนคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในปีนี้จะถดถอยลงเหลือร้อยละ 20.4 จากที่เคยโตถึงร้อยละ 23.6 ในปี 2554 ขณะที่ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ การเติบโตของการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนอยู่ที่ ร้อยละ 20.5 หรือต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 4.4
นายจาง ฮั่นย่า ประธานสมาคมนักลงทุนแห่งปะรเทศจีน และนักวิจัยแห่งคณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งประเทศจีน (เอ็นดีอาร์ซี) ระบุว่า ในปี 2556 อัตราการเติบโตของการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 24 และจะมีส่วนในการช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของจีดีพีจีนในปีหน้าได้มากถึงร้อยละ 5