ส.ว.สรรหาร้องรัฐบาลชี้แจงลงนามเจรจาสันติภาพบีอาร์เอ็นต่อรัฐสภา โดยเฉพาะรายละเอียดหนังสือ ตามช่องทางรัฐธรรมนูญมาตรา 179 เตรียมแถลงท่าทีจันทร์นี้หลังหารือ ส.ว.ปัตตานี และ กมธ.ภาคใต้ เชื่อไม่ว่าจะเจรจาหรือไม่ขึ้นอยู่กับนโยบาย
วันนี้ (1 มี.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก “คำนูณ สิทธิสมาน” ระบุถึงกรณีที่มีการลงนามเจรจาสันติภาพระหว่างเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับตัวแทนจากกลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจะต้องชี้แจงต่อประชาชนทั้งประเทศ และต่อรัฐสภา ถึงรายละเอียดในหนังสือที่ไปลงนามกับตัวแทนบีอาร์เอ็นในมาเลเซีย โดยมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาเลยเซียเป็นพยาน ขอชี้แจงต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 ดีที่สุด
“ไม่มีใครปฏิเสธจุดเริ่มของ Peace Talk ที่อาจจะนำไปสันติภาพหรอก แต่มันน่าจะต้องต้องมีกระบวนการที่โปร่งใสเป็นวิชาการกำกับอยู่พอสมควร ไม่อย่างนั้นก็จะเกิดข้อกังขาว่ารัฐบาลหรือผู้อยู่เหนือรัฐบาลไปแอบเจรจามุบมิบอะไรกันหรือไม่ อย่างไร การเริ่ม Peace Talk แม้จะเป็นเรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่ใหญ่กว่ามากคือทั้ง 2 ฝ่ายจะถอยกันได้คนละกี่ก้าว โดยเฉพาะฝ่ายรัฐไทย จะถอยได้ในแต่ละก้าวได้แค่ไหน อย่างไร ที่จะให้คนไทยทั้งประเทศยอมรับได้ ไม่มีอะไรดีกว่าชี้แจงต่อประชาชนผ่านรัฐสภาตามช่องทางมาตรา 179” นายคำนูณกล่าว
นายคำนูณกล่าวว่า ตนได้หารือกับนายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี และ พล.อ.เกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ ส.ว.สรรหา กรรมาธิการวิสามัญภาคใต้ของวุฒิสภา อาจจะมีท่าทีแถลงออกมาในวันวันจันทร์ที่ 4 มี.ค. 2556
ต่อมานายคำนูณโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กอีกความเห็นหนึ่ง ระบุว่า ในขณะที่ขบวนก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้พยายามยกระดับจากปัญหาภายในประเทศขึ้นเป็นปัญหาสากลมาโดยตลอด แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะยุทธวิธีฆ่าคนบริสุทธิ์ทั้งพุทธและมุสลิมนั้นยากที่สากลจะรับได้
ทั้งนี้ การลงนามเริ่มนับ 1 กระบวนการพีซทอล์กวานนี้ใช่เป็นการช่วยยกระดับขึ้นมาเป็นปัญหาสากลโดยรัฐไทยเองหรือไม่ และถึงที่สุดแล้ว มาเลยเซียอาจจะมีส่วนช่วยได้บ้าง แต่หลักจริงๆ แล้วการแก้ปัญหาจะได้ผลหรือไม่
“ไม่ว่าจะมีพีซทอล์กหรือไม่ ก็อยู่ที่การดำเนินนโยบายของรัฐไทยต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสำคัญ นั่นคือรัฐไทยจะปฏิรูปการปกครองให้ 3 จังหวัดเป็นอัตตาณัติ (Autonomy) ได้แค่ไหน อย่างไร ถ้ารัฐไทยตอบโจทย์นี้ได้ และทำให้คนทั้งประเทศยอมรับคำตอบร่วมกันนี้ได้ ไม่ว่าจะมี Peace Talk หรือไม่ ปัญหาก็จะได้รับการคลี่คลายลงโดยพื้นฐาน แต่ถ้ายังตอบโจทย์นี้ไม่ได้ ผลก็ตรงกันข้าม” นายคำนูณระบุ