เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กรีซจำเป็นต้องยืนหยัดอยู่ในกลุ่มยูโรโซนให้ได้ต่อไป เพื่อ “ความอยู่รอด” ทั้งนี้เป็นการแสดงท่าทีล่าสุดของรัฐมนตรีคลังกรีซ ขณะที่บรรดาผู้นำรัฐบาลเอเธนส์กำลังเตรียมเผชิญหน้ากับสัปดาห์แห่งความเป็นความตาย ในการพบหารือกับผู้นำจากกลุ่มยูโรโซน
ยานนิส สตูร์นาราส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของกรีซ ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ออกมาเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (19) โดยยืนยันว่า กรีซจำเป็นต้องเดินหน้าตัดลดค่าใช้จ่ายและบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดอย่างเข้มงวดต่อไป เนื่องจากการเป็นสมาชิกภาพของกลุ่มยูโรโซน หรือกลุ่ม 17 ชาติที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลัก ถือว่ามีความสำคัญยิ่งต่อความอยู่รอดของกรีซ
“เราจำเป็นต้องอยู่ภายใต้ร่มของกลุ่มยูโรโซนและเงินยูโรต่อไป เพราะนั่นเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะช่วยปกป้องเราจากปัญหาความยากจนข้นแค้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวกรีซไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน” สตูร์นาราสกล่าว
ท่าทีล่าสุดของขุนคลังกรีซมีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่ารัฐบาลกรีซอาจต้องเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้นในการตัดลดค่าใช้จ่ายให้ได้ตามเป้าหมาย ขณะที่ “แดร์ ชปีเกิล” นิตยสารข่าวชื่อดังของเยอรมนีรายงานโดยอ้างข้อสรุปของคณะผู้ตรวจสอบ 3 ฝ่าย หรือ “ทรอยก้า”ที่ประกอบด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารกลางยุโรป ที่ระบุว่า กรีซต้องตัดลดการใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 14,000 ล้านยูโร (ราว 544,570 ล้านบาท) ภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าที่เคยมีการประเมินไว้ถึง 2,500 ล้านยูโร (ราว 97,272 ล้านบาท) เพื่อฉุดยอดการขาดดุลงบประมาณของกรีซลงมาให้เหลือเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีให้ได้ภายในสิ้นปี 2014 จากระดับ 9.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อปีที่แล้ว
รายงานของสื่อดังเมืองเบียร์ยังระบุว่า สาเหตุที่บรรดาเจ้าหนี้รายใหญ่ของกรีซต้องการให้รัฐบาลเอเธนส์ตัดลดการใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกเป็นเพราะผลการประเมินของคณะผู้ตรวจสอบทรอยกาพบว่า เศรษฐกิจของกรีซอ่อนแอมากกว่าที่คิด อีกทั้งยังแทบไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสของกรีซ พร้อมคณะมีกำหนดจะเดินทางไปยังกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี เพื่อพบหารือกับนายกรัฐมนตรีหญิงอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนีในวันศุกร์ (24) ก่อนจะเดินทางต่อไปยังกรุงปารีสของฝรั่งเศส เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำเมืองน้ำหอม โดยประเด็นที่คาดว่าซามาราสจะหยิบยกไปหารือกับผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสครั้งนี้น่าจะรวมถึงประเด็นความเป็นไปได้ในการขอยืดระยะเวลาอีก 2 ปี ให้กับการดำเนินการตามแผนรัดเข็มขัด รวมถึงประเด็นเรื่องเงินช่วยเหลือก้อนใหม่อีก 130,000 ล้านยูโร (ราว 5.1 ล้านล้านบาท)