เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เศรษฐกิจอิตาลีหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน เมื่อช่วงไตรมาสที่ 2ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
รายงานซึ่งอ้างสำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี หรือ “Istat” ในกรุงโรมระบุว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของแดนมะกะโรนีในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมาหดตัว 0.7 เปอร์เซ็นต์ ลดลงถึง 2.5 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และถือเป็นการหดตัวของเศรษฐกิจอิตาลีติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 ส่งสัญญาณว่า อิตาลียังคงไม่มีแนวโน้มที่จะหลุดพ้นจากวิกฤตหนี้สินกลุ่มยูโรโซน
ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลอิตาลีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติได้บังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อตัดลดค่าใช้จ่ายคิดเป็นวงเงินกว่า 20,000 ล้านยูโร (ราว 781,752 ล้านบาท) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณของประเทศให้ลงมาอยู่ที่ระดับ 2 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีให้ได้ภายในปีนี้ แต่ทว่าเมื่อปราศจากการใช้จ่ายของภาครัฐ เศรษฐกิจของอิตาลีจึงไม่มีการเติบโต และอาจส่งผลให้อัตราการว่างงานของประเทศพุ่งสูงตามมาอีก
ด้านมาร์โก วัลลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภาคพื้นยุโรปของสถาบัน “ยูนิเครดิต โกลบอล รีเสิร์ช” ออกมาเปิดเผยที่เมืองมิลาน โดยระบุว่า รัฐบาลอิตาลีคงเหลือทางเลือกไม่มากนักในการเยียวยาเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ และคาดว่ารัฐบาลอาจต้องประกาศใช้มาตรการขึ้นภาษี และตัดลดค่าใช้จ่ายทางสังคมเพิ่มเติมอีก ซึ่งอาจส่งผลให้ภาวะทางเศรษฐกิจของอิตาลีเลวร้ายยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีมอนติซึ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ยังคงมั่นใจว่า เศรษฐกิจของอิตาลีซึ่งได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของกลุ่มยูโรโซนน่าจะมีการหดตัวเฉลี่ยทั้งปีนี้ไม่เกิน 1.2 เปอร์เซ็นต์