xs
xsm
sm
md
lg

รมต.ฟินแลนด์แฉซ้ำรอบ 2 ชี้หลายชาติยุโรปเตรียมแผนลับหาก “เงินยูโร” ล่มสลาย เยอรมันหนุน “ECB” กว้านซื้อพันธบัตรสเปน-อิตาลี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แอร์กกิ ซาการิ  ทัวมิโอยา รัฐมนตรีต่างประเทศฟินแลนด์
เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐมนตรีต่างประเทศฟินแลนด์สร้างความฮือฮาอีกหน หลังออกมาเปิดเผยเป็นครั้งที่ 2 ว่า ขณะนี้หลายชาติในยุโรปกำลังเตรียมตัวอย่างลับๆ เพื่อรับมือกับการล่มสลายของเงินยูโร ส่วน ยอร์ก อัสมุสเซน บอร์ดบริหารชื่อดังจากเยอรมนีในธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เผยสนับสนุนแผนกว้านซื้อขนานใหญ่ต่อพันธบัตรของสเปนและอิตาลี โดยชี้วิธีการดังกล่าวอาจเป็นหนทางที่ช่วยป้องกันการพังทลายของเงินยูโรและอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อวิกฤตหนี้สินยุโรป

แอร์กกิ ซาการิ ทัวมิโอยา รัฐมนตรีต่างประเทศฟินแลนด์ วัย 66 ปี ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มิถุนายนปีที่แล้วยืนยันโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูตว่าขณะนี้หลายประเทศในยุโรปทั้งที่เป็นสมาชิกของกลุ่มยูโรโซน และชาติที่อยู่นอกกลุ่มดังกล่าว ต่างกำลังเตรียมตัวกันอย่างลับๆสำหรับ “จุดจบของเงินยูโร” เงินตราสกุลเดียวที่ 17 ประเทศในกลุ่มยูโรโซนเริ่มใช้งานร่วมกันมาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2002

รัฐมนตรีต่างประเทศฟินแลนด์ ซึ่งประเทศของเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกยูโรโซนเช่นกันเผยว่า ขณะนี้บรรดาผู้นำทางการเมืองของยุโรปต่างเริ่มตระหนักแล้วว่า การรวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเรื่องของสกุลเงิน ดูจะเป็นเรื่องที่มิอาจเป็นไปได้อีกต่อไปแล้ว

“เราขอยืนยันว่า ขณะนี้หลายประเทศในยุโรปกำลังมองหาหนทางรับมือสิ่งเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น หากจุดจบของเงินยูโรมาถึง แต่ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มิอาจนำออกมาเปิดเผยในต่อสาธารณชนได้ เพราะมันจะสร้างความตื่นตระหนกครั้งใหญ่ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเห็นมันเกิดขึ้น แต่หากทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ พวกเราก็คงหลีกเลี่ยงหายนะดังกล่าวไม่พ้น” ทัวมิโอยากล่าว

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทัวมิโอยาได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็นเดียวกันนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง กับหนังสือพิมพ์เดลี เทเลกราฟของอังกฤษโดยในครั้งนั้นเขาย้ำว่าผู้นำยุโรปต้องเตรียมแผนรับความเป็นไปได้ ที่กลุ่มยูโรโซนต้องแยกจากกัน แต่เขายังมิได้พูดถึงอย่างชัดเจนต่อการดำเนินการอย่างลับๆ ของประเทศต่างๆ เช่นในครั้งนี้

ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า ยอร์ก อัสมุสเซน บอร์ดบริหารชื่อดังจากเยอรมนีในธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ออกมาเปิดเผยผ่านทางหนังสือพิมพ์รายวัน “ฟรังก์ฟัวร์เทอร์ รุนด์เชา” ว่าเขาสนับสนุนแผนของมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีชาวอิตาเลียนที่ต้องการให้มีการกว้านซื้อขนานใหญ่ต่อพันธบัตรของสเปนและอิตาลี โดยอัสมุสเซนชี้ว่า วิธีการดังกล่าวอาจเป็นหนทางที่ช่วยป้องกันการพังทลายของเงินยูโร และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อวิกฤตหนี้สินยูโรโซน

ขณะที่นิตยสารข่าวชื่อดังของเยอรมนีอย่าง “แดร์ ชปีเกิล” รายงานว่า ขณะนี้ทางทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของอีซีบีกำลังศึกษาแผนการช่วยเหลือสเปนและอิตาลี โดยมีความเป็นไปได้ที่อาจมีการนำวิธีกำหนดเพดานผลตอบแทนพันธบัตรของทั้ง 2 ประเทศมาใช้ แทนการปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยขยับตามกลไกที่แท้จริงของตลาด

ก่อนหน้านี้ ยานนิส สตูร์นาราส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของกรีซ ออกมาเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (19) โดยยืนยันว่า กรีซจำเป็นต้องเดินหน้าตัดลดค่าใช้จ่ายและบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดอย่างเข้มงวดต่อไป เนื่องจากการเป็นสมาชิกภาพของกลุ่มยูโรโซนหรือกลุ่ม 17 ชาติที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลัก ถือว่ามีความสำคัญยิ่งต่อความอยู่รอดของกรีซ โดยท่าทีล่าสุดของขุนคลังกรีซมีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่ารัฐบาลกรีซอาจต้องเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้นในการตัดลดค่าใช้จ่ายให้ได้ตามเป้าหมาย ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่า ข้อสรุปของคณะผู้ตรวจสอบ 3 ฝ่าย หรือ “ทรอยกา” ที่ประกอบด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารกลางยุโรป อาจออกมาในลักษณะที่ว่า กรีซต้องตัดลดการใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 14,000 ล้านยูโร (ราว 544,570 ล้านบาท) ภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าที่เคยมีการประเมินไว้ถึง 2,500 ล้านยูโร (ราว 97,272 ล้านบาท) เพื่อฉุดยอดการขาดดุลงบประมาณของกรีซลงมาให้เหลือเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีให้ได้ภายในสิ้นปี 2014 จากระดับ 9.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อปีที่แล้ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสของกรีซ พร้อมคณะมีกำหนดจะเดินทางไปยังกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี เพื่อพบหารือกับนายกรัฐมนตรีหญิงอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนีในวันศุกร์ (24)ก่อนจะเดินทางต่อไปยังกรุงปารีสของฝรั่งเศส เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำเมืองน้ำหอม โดยประเด็นที่คาดว่าซามาราสจะหยิบยกไปหารือกับผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสครั้ง นี้น่าจะรวมถึงประเด็นความเป็นไปได้ในการขอยืดระยะเวลาอีก 2 ปี ให้กับการดำเนินการตามแผนรัดเข็มขัด รวมถึงประเด็นเรื่องเงินช่วยเหลือก้อนใหม่ 130,000 ล้านยูโร (ราว 5.1 ล้านล้านบาท)
ยอร์ก อัสมุสเซน
กำลังโหลดความคิดเห็น