ฝ่ายต่อต้านอ้าง รุกคืบโจมตีเมืองหลวงซีเรีย โวลั่น รบ. “อัสซาด” ใกล้ถึงจุดจบ

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-รถถังของรัฐบาลซีเรียเปิดฉากยิงถล่มหลายพื้นที่ ในย่านใจกลางกรุงดามัสกัส เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือนที่มีเหตุการณ์ดังกล่าวในเมืองหลวงของประเทศ นับตั้งแต่เกิดการลุกฮือขึ้นของประชาชนเพื่อขับไล่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษออกโรงเปรียบเทียบสิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรียขณะนี้ว่าคล้ายกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในบอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา ในช่วงทศวรรษที่ 1990

รายงานข่าวระบุว่า เสียงยิงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องนานกว่า 12 ชั่วโมงในกรุงดามัสกัสตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ (9) ที่ผ่านมา หลังจากกองกำลังของฝ่ายต่อต้านที่นำโดยกองทัพซีเรียเสรี (เอฟเอสเอ) เปิดฉากโจมตีพื้นที่ 3 เขตของกรุงดามัสกัส ขณะที่กองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลพยายามโต้ตอบอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่เช่นกัน ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การสู้รบระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายต่อต้าน ได้ลามเข้ามาถึงใจกลางเมืองหลวงของซีเรียอันเป็นที่มั่นสำคัญของฝ่ายรัฐบาลแล้ว

ด้าน อับเดลบาสเซต ซายดา ผู้นำของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลออกมากล่าวอ้างว่า “วาระสุดท้าย” ของระบอบการปกครองภายใต้การนำประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดใกล้เข้ามาแล้ว พร้อมยืนยันฝ่ายต่อต้านจะโหมการโจมตีกรุงดามัสกัสให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น ท่ามกลางกระแสข่าวซึ่งไม่มีการยืนยันว่า ฝ่ายต่อต้านได้รับการสนับสนุนทั้งทางการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์จากประเทศอาหรับแถบอ่าวเปอร์เซีย ทำให้มีกำลังแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในระยะหลัง

ซายดาซึ่งให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่นครอิสตันบูลของตุรกี ยังเรียกร้องให้บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้ที่ทำงานรับใช้ระบอบการปกครองของประธานาธิบดีอัสซาดแปรพักตร์ รวมถึงขอให้ทหารในกองทัพซีเรียหันมาร่วมมือกับฝ่ายต่อต้านเพื่อล้มล้างรัฐบาล

ขณะที่ วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร เปิดเผยกับ “สกายนิวส์” โดยระบุว่า สถานการณ์ในซีเรียขณะนี้ใกล้เคียงกับภาวะสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ ดังเช่นที่เกิดขึ้นในบอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา ในช่วงทศวรรษที่ 1990

รัฐมนตรีต่างประเทศเมืองผู้ดี วัย 51 ปียังให้ความเห็นว่า แม้รัสเซียและจีนยังคงยืนหยัดปกป้องไม่ให้รัฐบาลซีเรียถูกลงโทษจากนานาชาติ แต่ในเวลานี้ทั้งรัฐบาลมอสโกและปักกิ่งเองก็เริ่มรู้สึกกังวลกับสถานการณ์ในซีเรีย ที่ดูเหมือนจะเลวร้ายลงทุกขณะ ทำให้นานาชาติไม่อาจตัดแนวทางการแก้ปัญหาด้วยการส่งกำลังทหารเข้าแทรกแซงในซีเรียทิ้งไปได้