เอเจนซีส์ - ฝ่ายต่อต้านและกลุ่มนักเคลื่อนไหวระบุ กลุ่มจงรักภักดีรัฐบาลซีเรียก่อการสังหารหมู่ครั้งใหญ่อีกครั้งแล้ว โดยที่มีเหยื่อเสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า 50 คน จำนวนมากเป็นเด็กและผู้หญิง อย่างไรก็ตาม กรุงดามัสกัสปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างแข็งขัน ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน ของสหรัฐฯ ออกมาประณามและบอกว่าประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ต้องถ่ายโอนอำนาจและออกไปจากซีเรีย ทว่ารัสเซียจับมือค้านคัดค้านการแทรกแซงเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ตลอดจนการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อดามัสกัส
กลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ ระบุเมื่อวันพฤหัสฯ (7) ว่า ชาบิบา กลุ่มทหารบ้านที่ภักดีต่อประธานาธิบดีอัสซาด ได้บุกเข้าสังหารชาวบ้านในหมู่บ้านอัล-คูเบียร์ในจังหวัดฮามาเมื่อวันพุธ (6) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยที่สุด 55 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงและเด็ก 18 คน ขณะที่ก่อนหน้านั้น สภาแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่มีฐานอยู่นอกประเทศ ระบุตัวเลขเหยื่อที่ตายว่ามีประมาณ 80 ราย
หากรายงานดังกล่าวถูกต้อง การสังหารหมู่ครั้งล่าสุดนี้จะถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในรอบ 15 เดือนนับจากที่ชาวซีเรียลุกขึ้นประท้วงระบอบของอัสซาด
ออบเซอร์วาทอรีที่มีฐานอยู่ในลอนดอนสำทับว่า กลุ่มชาบิบาปฏิบัติการสังหารหมู่รอบใหม่ หลังจากกองทัพซีเรียระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่หมู่บ้านดังกล่าว พร้อมกันนี้ออบเซอร์วาทอรียังเรียกร้องให้คณะผู้สังเกตการณ์ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จัดทีมเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ทันที
วันเดียวกัน รัฐบาลซีเรียออกคำแถลงทางทีวีปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยโทษว่าการสังหารหมู่ในอัล-คูเบียร์เป็นฝีมือกลุ่มก่อการร้าย และอ้างว่ามีผู้เสียชีวิตเพียง 9 รายเท่านั้น
เหตุการณ์ล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากมีประชาชนอย่างน้อย 108 คนเสียชีวิตในเหตุการณ์สังหารหมู่ 2 วันที่เริ่มต้นวันที่ 25 เดือนที่แล้วใกล้เมืองฮูลา เหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
เกี่ยวกับการสังหารหมู่ล่าสุด รัสเซีย จีน และประเทศเอเชียกลางในนามองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (เอสโอซี) ได้ออกคำแถลงภายหลังการประชุม 2 วันที่จีนในวันพฤหัสฯ ระบุจุดยืนในการต่อต้านการแทรกแซงทางทหารต่อกิจการในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ การบังคับถ่ายโอนอำนาจ และการดำเนินการคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียว
“ชาติสมาชิกเน้นย้ำความจำเป็นในการยุติความรุนแรงในซีเรีย ไม่ว่าความรุนแรงนั้นจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม ทุกฝ่ายต้องเคารพการเจรจาที่อิงกับอิสรภาพ บูรณาภาพแห่งดินแดน และอธิปไตยของซีเรีย”
ทางด้าน คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งแสดงท่าทีไม่พอใจต่อจุดยืนของปักกิ่งและมอสโกมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังพยายามขอความสนับสนุนจากตุรกีและเรียกร้องนานาชาติตัดขาดเส้นเลือดเศรษฐกิจของซีเรีย
คลินตันที่อยู่ระหว่างการประชุมกับมหาอำนาจยุโรปและตะวันออกกลาง 16 ชาติที่ตุรกี ยังระบุถึงองค์ประกอบหลักและหลักการที่จะนำไปสู่ยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงหลังยุคอัสซาด ซึ่งรวมถึงการที่อัสซาดสละอำนาจโดยสิ้นเชิง การตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรม การหยุดยิงที่ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตาม และความเสมอภาคของประชาชนซีเรียภายใต้กฎหมาย
เธอยังออกมาแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี ประณามการสังหารหมู่ล่าสุดว่าเป็นความรุนแรงที่อุปถัมภ์โดยระบอบปกครองอัสซาด พร้อมกับบอกด้วยว่า “อัสซาดต้องถ่ายโอนอำนาจ และออกไปจากซีเรีย”
อย่างไรก็ดี เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้ทักท้วงตั้งแต่เมื่อวันพุธว่า การเปลี่ยนแปลงระบอบในซีเรียอาจนำไปสู่หายนะสำหรับตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ รัสเซียและจีนใช้สิทธิ์ยับยั้งมติประณามอัสซาดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นมาแล้ว 2 ครั้ง แต่สนับสนุนร่างพิมพ์เขียวของโคฟี อันนัน ผู้แทนของสันนิบาตอาหรับและยูเอ็น เพื่อยุติความขัดแย้งในซีเรียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 13,500 รายนับจากเดือนมีนาคม 2011
แผนการของอันนันเริ่มต้นด้วยการหยุดยิงนับจากวันที่ 12 เมษายน กระนั้น ความรุนแรงยังคงปะทุขึ้นเรื่อยมาแม้ยูเอ็นส่งคณะผู้สังเกตการณ์เข้าสู่ซีเรียเกือบ 300 คน
อันนันมีกำหนดรายงานสรุปต่อคณะมนตรีที่นิวยอร์กในวันพฤหัสบดีซึ่งนักการทูตในยูเอ็นคาดว่า อดีตเลขาธิการใหญ่ยูเอ็นผู้นี้จะเสนอข้อเสนอใหม่เพื่อกู้แผนการสันติภาพเดิมที่ล้มเหลว ด้วยการตั้ง “กลุ่มติดต่อ” ที่ประกอบด้วยมหาอำนาจระดับภูมิภาคและระดับโลก