ฝ่ายต่อต้านและกลุ่มนักเคลื่อนไหวระบุ กลุ่มจงรักภักดีรัฐบาลซีเรียก่อการสังหารหมู่ครั้งใหญ่อีกครั้งแล้ว โดยที่มีเหยื่อเสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า 50 คน จำนวนมากเป็นเด็กและผู้หญิง อย่างไรก็ตาม กรุงดามัสกัสปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างแข็งขัน ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน ของสหรัฐฯ ออกมาประณามและบอกว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ต้องถ่ายโอนอำนาจและออกไปจากซีเรีย ทว่ารัสเซียจับมือค้านคัดค้านการแทรกแซงเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ตลอดจนการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อดามัสกัส
กลุ่ม ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ ระบุเมื่อวันพฤหัสฯ (7) ว่า ชาบิบา กลุ่มทหารบ้านที่ภักดีต่อประธานาธิบดีอัสซาด ได้บุกเข้าสังหารชาวบ้านในหมู่บ้านอัล-คูเบียร์ในจังหวัดฮามาเมื่อวันพุธ (6) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยที่สุด 55 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงและเด็ก 18 คน ขณะที่ก่อนหน้านั้น สภาแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่มีฐานอยู่นอกประเทศ ระบุตัวเลขเหยื่อที่ตายว่ามีประมาณ 80 ราย
หากรายงานดังกล่าวถูกต้อง การสังหารหมู่ครั้งล่าสุดนี้จะถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในรอบ 15 เดือนนับจากที่ชาวซีเรียลุกขึ้นประท้วงระบอบของอัสซาด
ทางด้าน คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งแสดงท่าทีไม่พอใจต่อจุดยืนของปักกิ่งและมอสโกมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังพยายามขอความสนับสนุนจากตุรกีและเรียกร้องนานาชาติตัดขาดเส้นเลือดเศรษฐกิจของซีเรีย
คลินตันที่อยู่ระหว่างการประชุมกับมหาอำนาจยุโรปและตะวันออกกลาง 16 ชาติที่ตุรกี ยังระบุถึงองค์ประกอบหลักและหลักการที่จะนำไปสู่ยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงหลังยุคอัสซาด ซึ่งรวมถึงการที่อัสซาดสละอำนาจโดยสิ้นเชิง การตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรม การหยุดยิงที่ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตาม และความเสมอภาคของประชาชนซีเรียภายใต้กฎหมาย
เธอยังออกมาแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี ประณามการสังหารหมู่ล่าสุดว่าเป็นความรุนแรงที่อุปถัมภ์โดยระบอบปกครองอัสซาด พร้อมกับบอกด้วยว่า “อัสซาดต้องถ่ายโอนอำนาจ และออกไปจากซีเรีย”
อย่างไรก็ดี เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้ทักท้วงตั้งแต่เมื่อวันพุธว่า การเปลี่ยนแปลงระบอบในซีเรียอาจนำไปสู่หายนะสำหรับตะวันออกกลาง
กลุ่ม ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ ระบุเมื่อวันพฤหัสฯ (7) ว่า ชาบิบา กลุ่มทหารบ้านที่ภักดีต่อประธานาธิบดีอัสซาด ได้บุกเข้าสังหารชาวบ้านในหมู่บ้านอัล-คูเบียร์ในจังหวัดฮามาเมื่อวันพุธ (6) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยที่สุด 55 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงและเด็ก 18 คน ขณะที่ก่อนหน้านั้น สภาแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่มีฐานอยู่นอกประเทศ ระบุตัวเลขเหยื่อที่ตายว่ามีประมาณ 80 ราย
หากรายงานดังกล่าวถูกต้อง การสังหารหมู่ครั้งล่าสุดนี้จะถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในรอบ 15 เดือนนับจากที่ชาวซีเรียลุกขึ้นประท้วงระบอบของอัสซาด
ทางด้าน คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งแสดงท่าทีไม่พอใจต่อจุดยืนของปักกิ่งและมอสโกมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังพยายามขอความสนับสนุนจากตุรกีและเรียกร้องนานาชาติตัดขาดเส้นเลือดเศรษฐกิจของซีเรีย
คลินตันที่อยู่ระหว่างการประชุมกับมหาอำนาจยุโรปและตะวันออกกลาง 16 ชาติที่ตุรกี ยังระบุถึงองค์ประกอบหลักและหลักการที่จะนำไปสู่ยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงหลังยุคอัสซาด ซึ่งรวมถึงการที่อัสซาดสละอำนาจโดยสิ้นเชิง การตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรม การหยุดยิงที่ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตาม และความเสมอภาคของประชาชนซีเรียภายใต้กฎหมาย
เธอยังออกมาแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี ประณามการสังหารหมู่ล่าสุดว่าเป็นความรุนแรงที่อุปถัมภ์โดยระบอบปกครองอัสซาด พร้อมกับบอกด้วยว่า “อัสซาดต้องถ่ายโอนอำนาจ และออกไปจากซีเรีย”
อย่างไรก็ดี เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้ทักท้วงตั้งแต่เมื่อวันพุธว่า การเปลี่ยนแปลงระบอบในซีเรียอาจนำไปสู่หายนะสำหรับตะวันออกกลาง