เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- กองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรียก่อเหตุสังหารหมู่รอบใหม่เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตราว 100 คน รวมทั้งผู้หญิงและเด็ก ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯเรียกร้องให้เกิดการถ่ายโอนอำนาจเต็มรูปแบบเกิดขึ้นในซีเรีย
รายงานข่าวซึ่งอ้างโมฮัมเหม็ด เซอร์มินี โฆษกของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่เรียกตัวเองว่า สภาแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) ระบุว่า เกิดเหตุสังหารหมู่ครั้งใหม่ที่หมู่บ้านอัล กูเบร์ ในเขตจังหวัดฮามาทางตอนกลางของประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้หญิง 20 คนและเด็กอีก 20 คนรวมอยู่ด้วย ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดการนองเลือดที่สุดในซีเรีย หลังเกิดการลุกฮือขึ้นต่อต้านระบอบการปกครองของประธานาธิบดีอัสซาดเมื่อ 15 เดือนก่อน
อย่างไรก็ดี รัฐบาลซีเรียออกโรงปฏิเสธในวันนี้ (7) โดยยืนยันว่ากองกำลังของฝ่ายตน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุสังหารหมู่ที่จังหวัดฮามาในครั้งนี้ โดยระบุว่า รายงานข่าวดังกล่าวเป็นเพียง “เรื่องลวงโลก” ที่ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด พร้อมเผยข้อมูลว่า มีกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งลงมือก่ออาชญากรรมอันชั่วร้ายในเขตจังหวัดฮามา ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปเพียง 9 รายเท่านั้น ไม่ใช่ 100 รายตามข้อมูลของฝ่ายต่อต้าน
ข่าวการสังหารหมู่ 100 ศพที่จังหวัดฮามามีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุสังหารหมู่อย่างน้อย 108 ศพที่เมืองฮูลา สร้างความสลดใจไปทั่วโลก
ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ รายหนึ่งออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ที่นครอิสตันบูลของตุรกีหลังจากที่ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าพบกับผู้แทนชาติในยุโรปและตะวันออกกลาง 16 คน โดยระบุ รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการเห็นการถ่ายโอนอำนาจเต็มรูปแบบเกิดขึ้นในซีเรีย และต้องการให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่จำเป็นสำหรับเตรียมความพร้อม หากเกิดการเปลี่ยนแปลงในซีเรียหลังจากที่ประธานาธิบดีอัสซาดสิ้นอำนาจ ซึ่งรวมถึง การตั้งรัฐบาลชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมในซีเรีย
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวทางการทูตเผยว่า ท่าทีล่าสุดของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ขัดแย้งกับจุดยืนของเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียที่ยืนกรานว่าการสิ้นสุดของระบอบการปกครองภายใต้การนำของบาชาร์ อัล อัสซาดในซีเรีย อาจนำไปสู่การเกิด “หายนะครั้งเลวร้าย” ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ขณะที่ท่าทีล่าสุดของรัฐบาลรัสเซียและจีนยังคงยืนยันคัดค้านท่าทีของโลกตะวันตกในการแทรกแซงต่อซีเรียอย่างแข็งขัน