เอเอฟพี - นช.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหนีโทษจำคุก เปิดแถลงข่าวในกรุงโซล เกาหลีใต้ วันนี้ (23) ยืนยันไม่มีแผนกลับประเทศไทยในเวลานี้ หลังจากช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลเพื่อไทยสาละวนกับร่างพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ ที่อาจแฝงเจตนาล้างความผิดให้บุคคลคนเดียว
ทักษิณ กล่าวในการแถลงข่าวว่า จะยังไม่กลับเมืองไทยจนกว่า “การปรองดองจะเกิดขึ้นจริง”
สำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อมวลชนไทยได้รายงานประเด็นร้อน กรณีร่างพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ ที่มีการแก้เนื้อหาสาระสำคัญ เพื่อช่วยให้ นช.ทักษิณ ชินวัตร เข้าข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามเงื่อนไขนักโทษ “มีอายุเกิน 60 ปี และมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี”
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ทักษิณ ชินวัตร มีอายุ 62 ปี และถูกพิพากษาโทษจำคุก 2 ปี ในคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาภิเษก การแก้ไขเนื้อหาสาระสำคัญเพื่อบุคคลคนเดียวดังกล่าวกลายเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่ กระทั่งมีการชุมนุมคัดค้านการถวายคำแนะนำร่าง พ.ร.ฎ.อภัยโทษเช่นว่า
นช.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวผ่านสื่อมวลชนระหว่างเยือนเกาหลีใต้เป็นการส่วนตัว ว่า เขาตกเป็น “เหยื่อ” ของการรัฐประหารปี 2006 “แต่ผมพร้อมเสียสละ และขออยู่ข้างนอก (ประเทศไทย) จนกว่าประเทศจะกลับสู่ความสมานฉันท์และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน”
“เพราะฉะนั้น ผมจะยังไม่กลับบ้าน จนกว่าการปรองดองจะเกิดขึ้นจริง” พี่ชายของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แถลงข่าวเป็นภาษาอังกฤษไว้เช่นนี้ “ผมไม่อยากเป็นตัวปัญหา แต่ผมต้องการร่วมแก้ปัญหา”
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ท่ามกลางเสียงคัดค้านร่างพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ ฉบับนี้ รัฐบาลเพื่อไทยก็ยอมถอยการแก้เนื้อหาสาระสำคัญเพื่อทักษิณ
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ยืนยันหนักแน่นเมื่อวันอาทิตย์ (20) ที่ผ่านมา ว่า (ทักษิณ) จะไม่ได้รับประโยชน์แน่นอน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย กำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤต หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงการรับมือปัญหาอุทกภัยที่คร่าชีวิตผู้คนไปไม่ต่ำกว่า 600 ราย
ในการแถลงข่าว ทักษิณกล่าวต่อว่า เขาไม่มีความทะเยอทะยานกลับสู่อำนาจ เนื่องจาก “นายกฯ ปู” น้องสาวของเขา ได้รับประกาศิตเหลือล้นในฐานะนายกรัฐมนตรี
“เมื่อความสมานฉันท์เกิดขึ้น ผมถึงจะกลับไป ผมไม่เกี่ยงว่าจะด้วยวิธีไหน นิรโทษกรรมหรือวิธีใดก็ตาม แต่มันต้องเป็นทางออกเพื่อความสมานฉันท์” ทั้งนี้ ทักษิณมีแผนเยี่ยมชมโครงการพัฒนาแม่น้ำ 4 สาย เพื่อควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมของเกาหลีใต้ ระหว่างการเยือนกรุงโซลเป็นเวลา 4 วัน
อดีตนายกรัฐมนตรีคนนี้สาธยายกับสื่อเกาหลีใต้ต่อว่า อุทกภัยครั้งนี้สร้างความเสียหายให้ประเทศไทยมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 470,000 ล้านบาท) แต่ความเสียหายจะไม่รุนแรงเท่านี้ หากไทยมีระบบการควบคุมแม่น้ำเหมือนกับโครงการของเกาหลีใต้
นักข่าวในห้องแถลงข่าวได้ฟังจากปากทักษิณว่า เขาได้วางแผนโครงการที่มีลักษณะใกล้เคียงกับโครงการของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2005
“แต่โชคร้าย ปี 2006 ผมถูกรัฐประหารเสียก่อน … ตอนนี้ พรรคของผมกำลังบริหารประเทศ เราต้องการรื้อฟื้นโครงการนี้ขึ้นมา ผมเชื่อว่ามันจะช่วยป้องกันน้ำท่วมและแก้ปัญหาภัยแล้งได้”