รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามานั่งบริหารประเทศยังไม่เข้าที่เข้าทางดี ก็เปิดฉากลุยแหลก จัดหนักทำเรื่องเสี่ยงๆ ท้าทายสังคมไปแล้วหลายต่อหลายช็อต
ไม่รู้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ใช้ชัยชนะเลือกตั้ง ใช้เสียงประชาชนส่วนใหญ่เป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็ก ตีเหล็กกำลังร้อนหรืออย่างไร
การเดินเกมเร็วสุ่มเสี่ยงของรัฐบาลเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จนระคายหูว่า มันเหมาะมันควรแล้วหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแท่นแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบฟาส แทรค บรรจุไว้ในนโยบายเร่งด่วนต้องทำทันที ลุยถั่วแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
ไม่ย้อนนึกถึงอดีตที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่นานนี้ ที่หลายครั้งหลายหนความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญล้วนเป็นชนวนเหตุให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง ถึงขั้นฆ่าแกงกัน หลงลืม ความจำสั้นกันไปดื้อๆ
การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ก็ส่อเค้าว่าจะล้างบางกันในหลายกระทรวง ทบวง กรม ไม่สนเสียงท้วงติงว่าขัดหลักสโลแกน “แก้ไข ไม่แก้แค้น” ที่พร่ำเพ้อมาตลอด หรือสุดท้ายสโลแกนดังกล่าวจะเป็นเพียงคำโก้เก๋บนกระดาษที่แปะข้างฝา “ดีแต่โม้” ไปซะฉิบ
ถึงวันนี้ ยังไม่เห็นเค้ารางการเดินหน้าทำนโยบายสมานฉันท์ปรองดองจากรัฐบาลแต่อย่างใด สักแต่ท่องคาถาลมปาก แล้วอ้างถึงการทำงานของคณะกรรมการชุดที่มีนาย คณิต ณ นคร เป็นประธาน แก้บนไปวันๆ ยังไม่เห็นการริเริ่มลงมือ หรือแม้แต่จะคิดทำอย่างจริงใจ
เรื่องที่จริงจัง ตั้งใจทำเห็นจะมีแต่เรื่องของพรรคพวกเพื่อนพ้อง ญาติสนิทมิตรสหาย ปูนบำเหน็จคนเสื้อแดง เอื้ออาทรกันระเบิดเถิดเทิง พร้อมเดินเกมทุกวิถีทางเพื่อให้พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ตลอดกาล ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ กลับสู่มาตุภูมิ ให้ได้ในเร็ววัน
ยิ่งผ่านวัน ยิ่งผ่านเดือน ภาพลักษณ์ตัวตนของ “ยิ่งลักษณ์” ยิ่งเลือนหาย กลายเป็นเงาของพ.ต.ท.ทักษิณที่ปรากฏเด่นขึ้นมาซ้อนทับ ขับเคลื่อนแทน ภาพที่เห็นตรงหน้าเริ่มขยายแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ถึงความเป็นนอมินีพี่ชายตัวจริงเสียงจริง
เมื่อมีการชงเรื่องนิรโทษกรรม ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็โดดคว้าหมับ มาหยั่งเชิงกระแสสังคมทันที เพราะนับเป็นความพยายามแรงกล้าที่ปูทางมาอย่างต่อเนื่อง เมื่ออำนาจอยู่ในมือก็ไม่ลังเลที่จะนำประเด็นนี้มาขยายซ้ำอีกครั้ง
แม้บางคนบางฝ่ายในรัฐบาลเองก็รู้ดีว่า ยากที่จะทำให้สำเร็จ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในขอบข่ายพระราชอำนาจโดยแท้จริง อีกทั้งมีระเบียบวางไว้ชัดเจนว่าผู้ที่จะขอพระราชทานอภัยโทษนั้นต้องรับโทษ รับผิดเสียก่อน จะบิดพลิ้วเป็นอื่นไม่ได้ และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือเป็นญาติทางตรง เช่นพ่อ แม่ ลุก เมีย เท่านั้น ที่จะสามารถเป็นผู้ร้องขอพระราชทานอภัยโทษได้
แต่แล้วก็มีความพยายามบิดเบือน บิดเบี้ยวจากหลักเกณฑ์ แก้ลำว่าผู้หลบหนีคดีที่ยังไม่ได้รับโทษก็สามารถได้รับการอภัยโทษได้ ซึ่งนั่นก็หมายความถึงพ.ต.ท.ทักษิณนั่นเอง
แน่นอนว่า คนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีทางที่จะยอมกลับมารับโทษติดคุก ติดตะรางก่อนเป็นแน่แท้ อีกทั้งยังตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่าอยากจะกลับประเทศไทยช่วงปลายปีนี้เพื่อมาร่วมแต่งงานลูกสาว “พินทองทา ชินวัตร”
การโยนเรื่องนี้ออกมากลางวงสังคมไม่แน่ใจว่าจะประเมินผลลัพธ์ไว้อย่างไร หวังจะให้เกิดผลสัมฤทธิ์จริงหรือไม่ บางเรื่องก็ไม่อาจรู้ หรือถ้ารู้ก็คงลงลึกไม่ได้
แต่ที่จับสัญญาณสังคมได้ชั่วโมงนี้ มองว่าสิ่งที่รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยดำเนินลงไปการล้วนเกิดผลในเชิงลบ เพราะมันได้ทำลายบรรยากาศการปรองดอง สร้างกระแสเกลียดชังให้กลุ่มคนทางการเมือง อาจลามปะทุเป็นความขัดแย้งรอบใหม่อีกหน ขณะเดียวกันมันอาจเป็นการทำให้คนเสื้อแดงเกิดอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาอีกหากการณ์ทุกอย่างไม่เป็นไปดั่งที่คาดหวังไว้
เรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้นี้ เผือกร้อนๆ จึงถูกโยนไปให้ พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานในสังกัด และต้องเป็นผู้จัดการเรื่องนี้ คาดว่าพล.ต.อ.ประชาที่มีคุณสมบัติพิเศษ เป็นหลิวที่ลู่ก่อนลม จับกระแสลมได้ดี ไม่น่าจะเล่นเกมนี้ง่ายๆ
กรมราชทัณฑ์ปกติเคยแต่เป็นธุระจัดการให้คนที่อยู่ในเรือนจำ แต่งานนี้ต้องมาคิดอ่านให้คนนอกคุก คงปวดหัวบรรลัย สุดท้ายอาจตีมึนไปดื้อๆ
กระนั้นกระทรวงยุติธรรมก็ต้องชี้แจงให้ชัด ต้องมีคำตอบให้สังคมใน แจกแจงทุกประเด็นว่าอะไรทำได้ และอะไรที่ทำไม่ได้ เพราะหากหลับหูหลับตาทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงหมิ่นเหม่แล้ว ภัยเงียบอาจมาถึงโดยไม่รู้ตัว
ผลสะท้านสะเทือนจากเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะภายนอกเท่านั้น ข้างในรัฐบาล ข้างในพรรคเพื่อไทย ตลอดจนคนเสื้อแดงเองก็กระทบกระเทือนไม่แพ้กัน การวางหมากเดินเกมสุ่มเสี่ยงตั้งแต่เคาะระฆังยก 1 หวังจ้วงหมัดเด็ด ไม้ตายพุ่งเข้าสู่เป้าหมาย ในทางกลับกันมันก็ได้เปิดคางเปราะๆ พร้อมโดนหมัดสวนเข้ามาหลับเอาง่ายๆ ได้เหมือนกัน
ตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์มา สิ่งที่ตกเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างสาหัส ล้วนเป็นเรื่องที่ขว้างงูไม่พ้นคอ ยิ่งออกแรงขว้างไปมากเท่าไหร่ ก็ย้อนกลับมารัดแน่นคอตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
ด้วยแรงบีบคั้นจากภายในเองที่ต้องทำเพื่อตอบแทนพวกพ้อง วงศาคณาญาติ ได้ขีดให้เส้นทางเดินของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ตีบตันลงทั้งเต็มไปด้วยขวากหนาม เสียงของคนเป็นกลาง เสียงของคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยมุ่งหวังมาให้แก้ไขปัญหาของประเทศ เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองแล้วว่าการตัดสินใจเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นั้นถูกต้องแล้วหรือไม่
หรือ แก้ไข ไม่แก้แค้น จะเป็นเพียงสัญญาลมปาก หรือ ปรองดอง สมานฉันท์ จะเป็นเพียงความหวังที่อยู่ไกลแสนไกล
วันนี้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ที่หลายคน หลายชีวิตมุ่งหมาย ให้มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสยามประเทศ ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความชัดเจนทางวิสัยทัศน์ คนไทยยังไม่สามารถล่วงรู้ได้ชัดแจ้งว่าอนาคตประเทศจะเดินหน้าไปอย่างไร
แต่ละเรื่องแต่ละราวที่พุ่งเข้าหาตัว “ยิ่งลักษณ์” ล้วนถูกบอกปัด ผลัดวันประกันพรุ่ง เอ่ยอ้างขอเวลาทำงานอยู่เรื่อยไป
ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ประชาชนจับต้องได้ถึงสิ่งที่คาดหวัง นอกจากการจับตาว่านายกรัฐมนตรีจะนั่งรถหมายเลขทะเบียนอะไรมาในวันหวยออก..
หรือว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จะเป็นได้เพียงนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่พ่วงท้ายแค่ว่าใบ้หวยแม่นที่สุด พร้อมนับถอยหลัง รอเวลาก้าวเดินออกจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของประเทศ โดยฝากรอยด่างดำไว้อีกจุดหนึ่งแค่นั้น!!
ไม่รู้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ใช้ชัยชนะเลือกตั้ง ใช้เสียงประชาชนส่วนใหญ่เป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็ก ตีเหล็กกำลังร้อนหรืออย่างไร
การเดินเกมเร็วสุ่มเสี่ยงของรัฐบาลเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จนระคายหูว่า มันเหมาะมันควรแล้วหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแท่นแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบฟาส แทรค บรรจุไว้ในนโยบายเร่งด่วนต้องทำทันที ลุยถั่วแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
ไม่ย้อนนึกถึงอดีตที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่นานนี้ ที่หลายครั้งหลายหนความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญล้วนเป็นชนวนเหตุให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง ถึงขั้นฆ่าแกงกัน หลงลืม ความจำสั้นกันไปดื้อๆ
การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ก็ส่อเค้าว่าจะล้างบางกันในหลายกระทรวง ทบวง กรม ไม่สนเสียงท้วงติงว่าขัดหลักสโลแกน “แก้ไข ไม่แก้แค้น” ที่พร่ำเพ้อมาตลอด หรือสุดท้ายสโลแกนดังกล่าวจะเป็นเพียงคำโก้เก๋บนกระดาษที่แปะข้างฝา “ดีแต่โม้” ไปซะฉิบ
ถึงวันนี้ ยังไม่เห็นเค้ารางการเดินหน้าทำนโยบายสมานฉันท์ปรองดองจากรัฐบาลแต่อย่างใด สักแต่ท่องคาถาลมปาก แล้วอ้างถึงการทำงานของคณะกรรมการชุดที่มีนาย คณิต ณ นคร เป็นประธาน แก้บนไปวันๆ ยังไม่เห็นการริเริ่มลงมือ หรือแม้แต่จะคิดทำอย่างจริงใจ
เรื่องที่จริงจัง ตั้งใจทำเห็นจะมีแต่เรื่องของพรรคพวกเพื่อนพ้อง ญาติสนิทมิตรสหาย ปูนบำเหน็จคนเสื้อแดง เอื้ออาทรกันระเบิดเถิดเทิง พร้อมเดินเกมทุกวิถีทางเพื่อให้พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ตลอดกาล ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ กลับสู่มาตุภูมิ ให้ได้ในเร็ววัน
ยิ่งผ่านวัน ยิ่งผ่านเดือน ภาพลักษณ์ตัวตนของ “ยิ่งลักษณ์” ยิ่งเลือนหาย กลายเป็นเงาของพ.ต.ท.ทักษิณที่ปรากฏเด่นขึ้นมาซ้อนทับ ขับเคลื่อนแทน ภาพที่เห็นตรงหน้าเริ่มขยายแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ถึงความเป็นนอมินีพี่ชายตัวจริงเสียงจริง
เมื่อมีการชงเรื่องนิรโทษกรรม ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็โดดคว้าหมับ มาหยั่งเชิงกระแสสังคมทันที เพราะนับเป็นความพยายามแรงกล้าที่ปูทางมาอย่างต่อเนื่อง เมื่ออำนาจอยู่ในมือก็ไม่ลังเลที่จะนำประเด็นนี้มาขยายซ้ำอีกครั้ง
แม้บางคนบางฝ่ายในรัฐบาลเองก็รู้ดีว่า ยากที่จะทำให้สำเร็จ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในขอบข่ายพระราชอำนาจโดยแท้จริง อีกทั้งมีระเบียบวางไว้ชัดเจนว่าผู้ที่จะขอพระราชทานอภัยโทษนั้นต้องรับโทษ รับผิดเสียก่อน จะบิดพลิ้วเป็นอื่นไม่ได้ และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือเป็นญาติทางตรง เช่นพ่อ แม่ ลุก เมีย เท่านั้น ที่จะสามารถเป็นผู้ร้องขอพระราชทานอภัยโทษได้
แต่แล้วก็มีความพยายามบิดเบือน บิดเบี้ยวจากหลักเกณฑ์ แก้ลำว่าผู้หลบหนีคดีที่ยังไม่ได้รับโทษก็สามารถได้รับการอภัยโทษได้ ซึ่งนั่นก็หมายความถึงพ.ต.ท.ทักษิณนั่นเอง
แน่นอนว่า คนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีทางที่จะยอมกลับมารับโทษติดคุก ติดตะรางก่อนเป็นแน่แท้ อีกทั้งยังตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่าอยากจะกลับประเทศไทยช่วงปลายปีนี้เพื่อมาร่วมแต่งงานลูกสาว “พินทองทา ชินวัตร”
การโยนเรื่องนี้ออกมากลางวงสังคมไม่แน่ใจว่าจะประเมินผลลัพธ์ไว้อย่างไร หวังจะให้เกิดผลสัมฤทธิ์จริงหรือไม่ บางเรื่องก็ไม่อาจรู้ หรือถ้ารู้ก็คงลงลึกไม่ได้
แต่ที่จับสัญญาณสังคมได้ชั่วโมงนี้ มองว่าสิ่งที่รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยดำเนินลงไปการล้วนเกิดผลในเชิงลบ เพราะมันได้ทำลายบรรยากาศการปรองดอง สร้างกระแสเกลียดชังให้กลุ่มคนทางการเมือง อาจลามปะทุเป็นความขัดแย้งรอบใหม่อีกหน ขณะเดียวกันมันอาจเป็นการทำให้คนเสื้อแดงเกิดอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาอีกหากการณ์ทุกอย่างไม่เป็นไปดั่งที่คาดหวังไว้
เรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้นี้ เผือกร้อนๆ จึงถูกโยนไปให้ พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานในสังกัด และต้องเป็นผู้จัดการเรื่องนี้ คาดว่าพล.ต.อ.ประชาที่มีคุณสมบัติพิเศษ เป็นหลิวที่ลู่ก่อนลม จับกระแสลมได้ดี ไม่น่าจะเล่นเกมนี้ง่ายๆ
กรมราชทัณฑ์ปกติเคยแต่เป็นธุระจัดการให้คนที่อยู่ในเรือนจำ แต่งานนี้ต้องมาคิดอ่านให้คนนอกคุก คงปวดหัวบรรลัย สุดท้ายอาจตีมึนไปดื้อๆ
กระนั้นกระทรวงยุติธรรมก็ต้องชี้แจงให้ชัด ต้องมีคำตอบให้สังคมใน แจกแจงทุกประเด็นว่าอะไรทำได้ และอะไรที่ทำไม่ได้ เพราะหากหลับหูหลับตาทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงหมิ่นเหม่แล้ว ภัยเงียบอาจมาถึงโดยไม่รู้ตัว
ผลสะท้านสะเทือนจากเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะภายนอกเท่านั้น ข้างในรัฐบาล ข้างในพรรคเพื่อไทย ตลอดจนคนเสื้อแดงเองก็กระทบกระเทือนไม่แพ้กัน การวางหมากเดินเกมสุ่มเสี่ยงตั้งแต่เคาะระฆังยก 1 หวังจ้วงหมัดเด็ด ไม้ตายพุ่งเข้าสู่เป้าหมาย ในทางกลับกันมันก็ได้เปิดคางเปราะๆ พร้อมโดนหมัดสวนเข้ามาหลับเอาง่ายๆ ได้เหมือนกัน
ตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์มา สิ่งที่ตกเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างสาหัส ล้วนเป็นเรื่องที่ขว้างงูไม่พ้นคอ ยิ่งออกแรงขว้างไปมากเท่าไหร่ ก็ย้อนกลับมารัดแน่นคอตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
ด้วยแรงบีบคั้นจากภายในเองที่ต้องทำเพื่อตอบแทนพวกพ้อง วงศาคณาญาติ ได้ขีดให้เส้นทางเดินของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ตีบตันลงทั้งเต็มไปด้วยขวากหนาม เสียงของคนเป็นกลาง เสียงของคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยมุ่งหวังมาให้แก้ไขปัญหาของประเทศ เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองแล้วว่าการตัดสินใจเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นั้นถูกต้องแล้วหรือไม่
หรือ แก้ไข ไม่แก้แค้น จะเป็นเพียงสัญญาลมปาก หรือ ปรองดอง สมานฉันท์ จะเป็นเพียงความหวังที่อยู่ไกลแสนไกล
วันนี้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ที่หลายคน หลายชีวิตมุ่งหมาย ให้มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสยามประเทศ ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความชัดเจนทางวิสัยทัศน์ คนไทยยังไม่สามารถล่วงรู้ได้ชัดแจ้งว่าอนาคตประเทศจะเดินหน้าไปอย่างไร
แต่ละเรื่องแต่ละราวที่พุ่งเข้าหาตัว “ยิ่งลักษณ์” ล้วนถูกบอกปัด ผลัดวันประกันพรุ่ง เอ่ยอ้างขอเวลาทำงานอยู่เรื่อยไป
ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ประชาชนจับต้องได้ถึงสิ่งที่คาดหวัง นอกจากการจับตาว่านายกรัฐมนตรีจะนั่งรถหมายเลขทะเบียนอะไรมาในวันหวยออก..
หรือว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จะเป็นได้เพียงนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่พ่วงท้ายแค่ว่าใบ้หวยแม่นที่สุด พร้อมนับถอยหลัง รอเวลาก้าวเดินออกจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของประเทศ โดยฝากรอยด่างดำไว้อีกจุดหนึ่งแค่นั้น!!