xs
xsm
sm
md
lg

ตรวจสอบกึ๋นยิ่งลักษณ์ ก่อน “นารีขี่ม้า” พาตกเหว!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ตอนแรกก็นึกว่าบังเอิญ พูดผิดก็พูดใหม่ได้ เพราะไม่ว่าใครๆ ถ้าลอง “ครั้งแรก” มันก็อดตื่นเต้นประหม่าไม่ได้ นานไปเมื่ออะไรก็ตามถ้า “บ่อยครั้ง” เข้ามันก็ย่อมเคยชิน เข้าที่เข้าทาง หรืออาจจะรู้สึกสนุกไปเสียด้วยซ้ำไป

เช่นเดียวกับกรณีของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งแรก ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองเพียงแค่ 48-49 วัน เคยบริหารแค่ธุรกิจในครอบครัว ซึ่งในความเป็นจริงก็ยังไม่รู้ว่าคนที่บริหารอยู่เบื้องหลังเป็นใครกันแน่ก็ตาม

อย่างไรก็ดีเมื่อเข้ามาบริหารบ้านเมือง เป็นผู้นำประเทศที่ “อาสา” เข้ามาก็ต้องพร้อมทุกอย่าง จะเข้ามาแบบ “นักศึกษาฝึกงาน” ไม่ได้ เพราะนี่คือภารกิจสำคัญ และยิ่งบ้านเมืองกำลังอยู่ในภาวะฉุกเฉิน เกิดภัยพิบัติแบบนี้ยิ่งต้องการคนที่มี “ภาวะผู้นำ” อย่างโดดเด่น เพื่อให้เกิดความอุ่นใจสำหรับคนที่ตามอยู่ข้างหลัง หรือคนที่เคยให้ความไว้วางใจมาก่อนหน้านี้

ที่ผ่านมาสำหรับ ยิ่งลักษณ์ ที่ได้ชนะเลือกตั้งจนได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ถือว่าเป็นเกียรติประวัติน่าภาคภูมิใจ แต่เมื่อเข้าสู่การบริหารประเทศอย่างเป็นทางการกลับกลายเป็นว่าด้วยระยะเวลาผ่านมาเพียงแค่เดือนกว่าเท่านั้น กลับทำให้ความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตัวเธอเริ่มลดทอนลงเรื่อยๆ อย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าในใจลึกๆหลายคนยังโต้แย้งว่า ก็เวลาสั้นแค่นี้จะไปพิสูจน์อะไรได้ ก็เห็นจะจริง แต่ไม่ว่าเวลาจะสั้นแค่ไหนหาก “เจ๋งจริง” มันก็ย่อมเห็นแววกันมั่งละ

แต่นี่ผลกลับออกมาตรงกันข้าม นอกจากไม่ฉายแววผู้นำ ทั้งในเรื่องความคิด ความเข้าใจแล้ว น่าจะมีปัญหาทั้งในเรื่องการพูดและการอ่านซ้ำเติมเข้ามาอีก แม้ว่าที่ผ่านมาจะใช้วิธีหา “ตัวช่วย” โยนภาระรับผิดชอบออกไปให้พ้นตัวให้มากที่สุดก็ตาม แต่ด้วยภาวะภัยธรรมชาติที่หนักหนาสาหัส ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่องมันก็ไม่อาจ “ปิดบัง” หรือใช้วิธีสร้างภาพแบบ “การตลาด” เหมือนกับโฆษณา “บ้านจัดสรร” หรือแม้แต่การประชาสัมพันธ์โทรศัพท์มือถือในภาคเอกชนก็ใช้ไม่ได้ผล นำมาใช้ในสถานการณ์จริงทางการเมืองไม่ได้

เมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีใช้เวลานานนับชั่วโมงเพื่อ “อ่าน” นโยบายรัฐบาลระหว่างแถลงต่อรัฐสภาก่อนบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ นั้นอาจพอเข้าใจได้ เพราะเมื่อต้องการแบบทางการ ก็ต้องให้ตรงตามตัวอักษร เป็นหลักเป็นฐาน

ถัดมาก็เป็นเรื่องการเลี่ยงตอบกระทู้ของสมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.จากพรรคฝ่ายค้าน หรือสมาชิกวุฒิสภา โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีคนอื่นมาตอบแทน ครั้งแรกก็อาจเห็นคล้อยตาม เพราะคิดว่าในฐานะนายกรัฐมนตรีคงมีภารกิจรัดตัว และบางครั้งก็ต้องยอมรับความจริงว่ามีพวก ส.ส.-ส.ว.บางคนมันก็จ้องป่วน จ้องหาเสียงแบบไร้สาระก็มีเหมือนกัน แต่เมื่อเกิดขึ้นซ้ำซ้อนหลายครั้ง บางครั้งก็เป็นเรื่องด่วนสำคัญ ต้องการคำชี้แจง ก็ไม่มา อย่างล่าสุดก็ไม่ยอมตอบกระทู้ของสมาชิกวุฒิสภาที่ยื่นกระทู้ถามด่วนเรื่อง “พระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ” เป็นการทั่วไป ซึ่งคราวนี้นอกจากไม่มาแล้วยังใช้วิธีออกเป็น “มติคณะรัฐมนตรีปฏิเสธตอบคำถาม” อ้างว่าเป็นเรื่องไม่ควรเปิดเผย เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน ว่าไปโน่นเสียอีก

ทั้งที่ที่ผ่านมาได้เคยแจ้งให้สมาชิกวุฒิสภาทราบว่าได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก มาเป็นผู้ตอบกระทู้แทน แต่ก็ได้ขอเลื่อนให้เหตุผลว่าติดภารกิจด่วน และล่าสุดก็ใช้วิธีออกเป็นมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีเรื่องปลีกย่อยอีกหลายเรื่องที่เริ่มทำให้ชาวบ้านหวั่นไหวว่าผู้นำของพวกเขานั้นมีภูมิความรู้ ความรู้รอบตัว เหมาะสำหรับตำแหน่งสำคัญหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีเรื่องการออกมาแถลงข่าวผิดพลาด ไม่รู้ว่ามีวาระสำคัญอะไรบ้างเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ตัวเองนั่งเป็นประธาน เช่นเรื่องการจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” ของกองทัพเรือ และต่อมาก็มีการแก้เกี้ยวว่า “เรือดันน้ำ” หรือล่าสุดเป็นเรื่องการปลูก “หญ้าแพรก” แทนที่จะเป็น “หญ้าแฝก” ซึ่งรับรองว่า “ตลกไม่ออก” แน่นอน

แม้ว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดที่ใครก็ตามสามารถเกิดขึ้นได้ และยิ่งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องบริหารเรื่องราวมากมายก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่เมื่อพิจารณาจากลักษณะท่าทีหลายอย่างมาประกอบกัน ต่างกรรมต่างวาระมันก็เริ่มเห็นแล้วว่าเธอ “อาจไม่เหมาะ” กับตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ทั้งปัญหาเฉพาะในเรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันยังมีปัญหาเศรษฐกิจที่เริ่มตั้งเค้าว่าจะหนักหนาสาหัสจากปัจจัยภายนอกนั่นคือวิกฤตในสหรัฐอเมริกา และยุโรป

อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงที่ตรงหน้า พิสูจน์ให้เห็นจากสารพัดนโยบายประชานิยมที่ปล่อยออกมาก็ยังสับสน ยังหาข้อสรุปไม่ได้ มันก็ยิ่งหวั่นไหว โดยเฉพาะเวลานี้ราคาข้าวของไม่ได้ “ถูกกระชาก” ลงมาแต่อย่างใด มีแต่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดผลการสำรวจนักธุรกิจสำคัญส่วนใหญ่ต่างให้ความเห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง มันก็ยิ่งใจแป้ว ดังนั้น น่าจะถึงเวลาตรวจสอบนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า “มีกึ๋น” พอสำหรับสถานการณ์หนักหน่วงในวันหน้าได้หรือไม่ ก่อนที่ “นารีจะขี่ม้าพาลงเหว” เสียก่อน!!
กำลังโหลดความคิดเห็น