เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพิ่งจะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ไม่ถึงเดือน อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ผู้พี่ก็เร่งเดินสายเปิดตัวในต่างประเทศ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ไม่ต่างจากการเล่นพนันครั้งใหญ่ ซึ่งจะยิ่งเป็นผลเสียต่อการกุมอำนาจของพรรคเพื่อไทย
อดีตมหาเศรษฐีหมื่นล้าน ซึ่งสูญเสียอำนาจจากการถูกปฏิวัติ เมื่อปี 2006 ชิงกลบกระแสนายกฯหญิง 2 สัปดาห์อย่าง ยิ่งลักษณ์ ด้วยการประกาศเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 22-28 สิงหาคมนี้ ทำเกิดคำถามร้อนๆ ว่า รัฐบาลชุดใหม่กำลังใช้อิทธิพลเข้าแทรกแซงเพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่ชายนายกฯหรือไม่
ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองไทยจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาในสิงคโปร์ ให้ความเห็นว่า ทักษิณ กำลังฮึกเหิมกับชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา และต้องการบอกให้ทราบว่า เขาต่างหากที่เป็น “นายกฯบัญชาการ” ตัวจริงของรัฐบาลนี้
อย่างไรก็ดี ปวิน มองว่า ทักษิณ เลือก “เดินเกมเร็วเกินไป” ซึ่งจะทำให้ “ชนชั้นสูงผู้มีอำนาจและกองทัพไทยโต้กลับอย่างแน่นอน”
นายทหารระดับสูงและผู้พิพากษาของไทย เคยมีประวัติแทรกแซงการเมืองมาแล้ว โดยเฉพาะกรณีของ ทักษิณ ซึ่งเป็นที่รักและเทิดทูนในกลุ่มคนยากคนจน ในขณะที่ชนชั้นสูงในกรุงเทพมหานคร มองว่า เขาเป็นเพียงจอมเผด็จการที่จ้องล้มล้างสถาบัน
การโค่นอำนาจทักษิณทำให้ประเทศไทยต้องตกอยู่ในวังวนความขัดแย้งนานถึง 5 ปี ทั้งในสภาและบนท้องถนน ซึ่งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านทักษิณต่างออกมาเดินขบวนประท้วงกันอย่างไม่ลดราวาศอก
ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ว่า การที่ทักษิณพยายามกลับมามีบทบาทอีกครั้ง ถือเป็น “การยั่วยุและไม่ฉลาดเลย หากเขายังอยากให้น้องสาวมีโอกาสบริหารบ้านเมือง”
การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยให้ครบ 4 ปีดูจะเป็นความสามารถพิเศษมากกว่าระเบียบปฏิบัติ ซึ่งที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้นำเพียงคนเดียวที่สามารถทำได้ แต่ ฐิตินันท์ บอกว่า “ศัตรูผู้มีอำนาจ” มีอิทธิพลพอที่จะขัดขวางไม่ให้พรรคของเขาปกครองประเทศ
รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังเผชิญแรงกดดันทางกฎหมายอย่างหนัก เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ โดยกล่าวหาว่า สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ กระทำผิดกฎหมายโดยให้ความช่วยเหลือแก่อดีตนายกฯที่มีคดีทุจริตและก่อการร้ายติดตัว และแม้รัฐบาลจะปฏิเสธว่าไม่เคยร้องขอให้ทางการญี่ปุ่นออกวีซ่าให้ทักษิณ แต่กรุงโตเกียวกลับประกาศอย่างไม่อ้อมค้อมว่า ได้รับคำร้องจากรัฐบาลไทยให้อนุญาตให้อดีตนายกฯเดินทางเข้าประเทศเป็นกรณีพิเศษ
พอล เชมเบอร์ส นักวิจัยอาวุโสจากมหาวิทยาลัยพายัพ ระบุว่า ท่าทีของ ยิ่งลักษณ์ ซึ่งแสดงออกว่า เต็มใจจะช่วยให้พี่ชายเข้าญี่ปุ่น กลายเป็นอาวุธหนักที่ฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์ใช้โจมตีรัฐบาลใหม่
เชมเบอร์ส ชี้ด้วยว่า แผนการแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 ของรัฐบาลมีจุดประสงค์เพื่อล้างมลทินต่างๆให้แก่ทักษิณ และเปิดทางให้อดีตนายกฯเดินทางกลับไทยได้ในที่สุด
“หากมีการแก้รัฐธรรมนูญหลายมาตรา และช่วยให้ทักษิณกลับมาได้จริง จะก่อให้เกิดการประท้วงต่อต้าน และสร้างความโกรธแค้นแก่นายทหารระดับสูงในกองทัพที่ไม่เอาทักษิณ”
การให้ความช่วยเหลืออย่างโจ่งแจ้งแก่อดีตนายกฯลี้ภัยผู้นี้ จะทำให้เกิดข้อวิจารณ์เรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของรัฐบาล จนอาจนำไปสู่การถอดถอนรัฐบาลทั้งชุดโดยกระบวนการยุติธรรมอีกครั้งหนึ่ง เชมเบอร์ส กล่าว