xs
xsm
sm
md
lg

Feature: “ศรัทธา-ไสยศาสตร์” ในสังคมเอเชียยุคไฮเทค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำราอ่านลักษณะใบหน้าของคน ที่สำนักงานหมอดูแห่งหนึ่งในกรุงไทเป
เอเอฟพี - เมื่อใดที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต เสิ่นอี้ชิง จะต้องหันไปปรึกษาหมอดูเสมอ ตั้งแต่เรื่องคู่ครอง, เวลาแต่งงาน ไปจนถึงการตั้งชื่อลูก

“ที่ทำไปก็เพื่อความเป็นสิริมลคลและเพื่อความสบายใจค่ะ ฉันขอปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าเสียใจทีหลัง” เสิ่น อาจารย์ชาวไต้หวันวัย 38 ปี กล่าว แม้แต่ชื่อภาษาจีนของเธอ พ่อแม่ก็ยังไปขอให้หมอดูเป็นผู้ตั้งให้

แม้ทุกภูมิภาคในเอเชียจะก้าวเข้าสู่ความทันสมัยอย่างรวดเร็ว แต่พิธีกรรมและความเชื่อท้องถิ่นก็ยังคงได้รับการเชื่อถือปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวันของคนทุกระดับและทุกช่วงวัย

ในชุมชนชาวจีนและดินแดนที่ความเชื่อแบบจีนยังทรงอิทธิพล เช่น เกาหลีใต้ และไทย ผู้คนจำนวนมากยังเคารพในศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” เมื่อจะต้องก่อสร้างบ้านเรือน, สำนักงาน หรือแม้แต่ สุสาน

ตึกระฟ้าหลายแห่งบนเกาะฮ่องกง สร้างอย่างถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย ขณะที่ชิงช้าสวรรค์สูงที่สุดในโลก “สิงคโปร์ ฟลายเออร์” ต้องถูกหันเหทิศทาง เมื่อมีหมอดูเตือนว่า มันจะทำลายโชคลาภที่มาเยือนเกาะสิงคโปร์

“คนที่ทำการสิ่งใดไม่เจริญก็ต้องการขจัดปัดเป่าโชคร้ายออกไป ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้วก็อยากจะรักษาโชคลาภนั้นไว้” เดฟ ฮัม จากบริษัทที่ปรึกษาด้านฮวงจุ้ยในสิงคโปร์ กล่าว

บางครั้งความเชื่อทางไสยศาสตร์ก็อาจรุนแรงมาก เช่น กรณีของ นีน่า หวัง มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ชาวฮ่องกง ที่ยอมจ่ายเงินค่าพิธีฮวงจุ้ยหลายร้อยล้านดอลลาร์ เพื่อรักษามะเร็งระยะสุดท้าย

ต้นเดือนที่ผ่านมา ศาลฮ่องกงปฏิเสธไม่รับคำฟ้องของอดีตบริกรที่ผันตัวมาเป็นหมอดู ซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินมูลค่าราว 13,000 ล้านดอลลาร์ของ หวัง

ชาวจีนบางคนยอมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อให้ได้หมายเลขโทรศัพท์หรือทะเบียนรถยนต์ที่มีเลข 8 เพราะมีเสียงในภาษาจีนกลางและจีนกวางตุ้งที่พ้องกับคำว่า “โชคดี”

ในทางตรงข้าม ชาวจีนจะหลีกเลี่ยงหมายเลข 4 เนื่องจากมีเสียงพ้องกับคำว่า “ตาย” ในภาษาจีน

สายการบิน เสฉวน แอร์ไลน์ส เคยจ่ายเงินถึง 280,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อหมายเลขโทรศัพท์ 8888-8888 ขณะที่บ่อนกาสิโน มารินา เบย์ แซนด์ส และ รีสอร์ตส เวิลด์ เซ็นโตซา ในสิงคโปร์ ล้วนเปิดให้บริการในวันและเวลาที่ลงท้ายด้วยเลข 8 พอดี

ระบบจักรราศีของจีนโบราณยังมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจของผู้คน

อัตราการเกิดในไต้หวันลดลงอย่างฮวบฮาบในปีเสือ เพราะเชื่อกันว่าเด็กที่เกิดในปีเสือจะโชคไม่ดี และมีนิสัยกราดเกรี้ยวเหมือนเสือ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง

เช่นเดียวกับที่ชาวจีนถือฤกษ์ตามปฏิทินจันทรคติของตน ชาวชวาในอินโดนีเซียก็จะต้องดูฤกษ์ผานาทีจากปฏิทินโบราณ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านแห่งมะตะรัม ราวคริสตศตวรรษที่ 17 ก่อนตัดสินใจทำเรื่องสำคัญ
หมอดูคนหนึ่งกำลังนั่งรอลูกค้าที่สำนักงานในกรุงไทเป เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
อิหม่ามเซียเฟย์ ผู้รับเหมาก่อสร้างวัย 35 ปี เล่าว่า เขามักถือศีลอดในวันเกิดของตนเพื่อป้องกันโชคร้าย และดูฤกษ์ยามที่เป็นมงคลจากปฏิทินชวาก่อนเริ่มโครงการใหม่ๆ

“ถ้าเริ่มต้นดีแล้ว สิ่งดีๆ ก็จะตามมาครับ” เขาอธิบาย

กลุ่มบริษัทต่างๆ ในอินโดนีเซียมักส่งตัวแทนไปทำพิธีเซ่นสรวงบูชาที่ภูเขาคาวี ในจังหวัดชวาตะวันออก เพื่อขอให้ทำมาค้าขึ้น

ชาวอินเดียเป็นอีกชนชาติหนึ่งซึ่งนำความเชื่อทางโหราศาสตร์และตัวเลขมาใช้กับทุกกิจการ ตั้งแต่ทำสัญญาธุรกิจ ไปจนถึงตั้งชื่อภาพยนตร์ “บอลลีวูด”

ซานเจย์ จูมานี หมอดูตัวเลขในนครมุมไบ เล่าว่า เขาถูกจ้างให้ตั้งชื่อภาพยนตร์ดังหลายเรื่องในปี 2010 รวมถึงเรื่อง “Once Upon a Time in Mumbaai” ซึ่งเขาได้เพิ่มตัวอักษร a เข้าไปอีก 1 ตัวในคำว่า มุมไบ (Mumbai)

หมอผียังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในมาเลเซีย ขณะที่นักบวชชินโตในญี่ปุ่นได้รับเชิญให้ไป “เจิม” รถไฟหัวกระสุนอยู่บ่อยครั้ง นักธุรกิจแดนปลาดิบจำนวนไม่น้อยก็ยังขอคำปรึกษาจากหมอดูลายมือและดวงดาว

ทว่า ดูเหมือนจะไม่มีชาติใดที่เชื่อถือศาสตร์แห่งดวงดาวมากไปกว่าศรีลังกา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกเปลี่ยนนามเป็น “ชรีลังกา” (Shri Lanka) ในสมัยประธานาธิบดี รานาซิงเก ปรีมาดาซา หลังหมอดูทำนายว่า ตัวสะกดแบบเดิมเป็นลางอุบาทว์สำหรับท่าน

มีรายงานว่า กองทัพศรีลังกาและทหารเสือทมิฬ ซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ได้ปรึกษาหมอดูก่อนที่จะเริ่มปะทะกันอย่างรุนแรงในปี 2009

“คนเราไม่ได้มีอำนาจแก้ปัญหาได้เสมอไป พวกเขาจึงหาทางออกด้วยการพึ่งไสยศาสตร์” จุฑามณี บาสเน็ต นักสังคมวิทยาในเนปาล อธิบาย

จูมานี หมอดูชาวอินเดีย ยังเสนอแนะวิธีแก้ปัญหาความรุนแรงในแคชเมียร์ ดังนี้

“พวกเขาควรเปลี่ยนชื่อมันเป็น แคชมีอาร์ (Kashmiar) ในเมื่อที่ผ่านมายังไม่มีวิธีไหนได้ผล ทำไมไม่ลองดูสักตั้งล่ะ?”
กำลังโหลดความคิดเห็น