เอเอฟพี - ขณะที่ปีกระต่ายตามปฏิทินจันทรคติของจีนกำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กลุ่มพิทักษ์สัตว์ก็ออกโรงเตือนถึงผลของความนิยมมอบกระต่ายเป็นของขวัญปีใหม่ นั่นก็คือ กระต่ายจำนวนมากถูกทอดทิ้ง
ผู้จำหน่ายสัตว์เลี้ยงทั่วเอเชียต่างสรรหาเจ้าสัตว์ขนปุกปุยและแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วมาวางขายต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ตามปฏิทินจีน
“ไม่มีช่วงไหนที่เหมาะแก่การช่วยเหลือกระต่ายมากไปกว่าปีกระต่าย คุณเองก็ทำได้โดยการไม่สนับสนุนการซื้อขายกระต่าย ซึ่งจะทำให้พวกมันต้องทุกข์ทรมาน” แม็กกี เฉิน นักเคลื่อนไหวจากกลุ่มประชาชนเพื่อการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม (PETA)กล่าว
“กระต่ายไม่เพียงมีขนปุกปุยน่ารัก แต่พวกมันยังต้องการความใส่ใจและการดูแลเป็นพิเศษ”
เอกมน เปรมพินิจพงศ์ ผู้ขายสัตว์เลี้ยงรายหนึ่ง เล่าว่า ยอดสั่งซื้อกระต่ายทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากลูกค้านิยมซื้อเป็นของขวัญแก่คนรัก
“ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นและนักศึกษา” เอกมน กล่าว
ในประเทศจีน การซื้อขายกระต่ายก็เป็นไปอย่างคึกคักเช่นกัน โดยเจ้าของร้านมักนำกระต่ายมาวางโชว์แทนที่สุนัขและแมว ในฐานะสัตว์เลี้ยงคู่บ้านที่ราคาไม่แพง สนนราคาตัวละ 3 ถึง 39.5 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
“ยอดขายตั้งแต่วันที่ 1 เป็นต้นมา จนถึงตอนนี้ ดีเกือบพอๆ กับปีที่แล้วตลอดทั้งปีทีเดียว เพราะกระต่ายเป็นสัตว์น่ารักและดูแลง่าย” ผู้ขายสัตว์เลี้ยงคนหนึ่งในตลาดหนานซาน เมืองชิงเต่า ให้สัมภาษณ์กับสื่อของจีน
ความนิยมมอบกระต่ายเป็นของขวัญในปีกระต่ายนี้เองที่สร้างความหวั่นวิตกแก่กลุ่มพิทักษ์สัตว์และสัตวแพทย์ ซึ่งระบุว่า คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่ากระต่ายเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย
“คนส่วนมากซื้อสัตว์ไปเลี้ยง เพราะความอยาก แต่ไม่เข้าใจว่าการเลี้ยงสัตว์จะต้องมีความรับผิดชอบขนาดไหน” เจสลีน เฮ็ง นายกสมาคมบ้านกระต่ายแห่งสิงคโปร์ (House Rabbit Society Singapore) กล่าว
“ปัญหานี้ยิ่งร้ายแรงเป็นพิเศษสำหรับกระต่าย เพราะคนมักเข้าใจว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย และเหมาะสำหรับเด็กที่เพิ่งหัดเลี้ยงสัตว์”
“ร้ายขายสัตว์เลี้ยงส่วนมากก็ขาดความเข้าใจในการดูแลกระต่าย และมักให้ข้อมูลผิดๆ กับลูกค้าที่เพิ่งเลี้ยงเป็นครั้งแรก”
ทศพร อนันตกุลนที สัตวแพทย์เฉพาะทางพิเศษจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นด้วยในเรื่องดังกล่าว
“บางคนเลี้ยงกระต่ายไม่เป็น ก็เลยเอามันไปทิ้ง หรือปล่อยไว้ตามวัด” เขากล่าว
“กระต่ายสามารถขยายพันธุ์ได้เร็วมาก ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาในการควบคุมประชากรของพวกมัน โดยเฉพาะสายพันธุ์ต่างประเทศ”
ในปี 1999 ซึ่งเป็นปีกระต่ายครั้งล่าสุด สมาคมป้องกันการทารุณกรรมสัตว์แห่งสิงคโปร์(SPCA)ต้องรับเลี้ยงกระต่าย 625 ตัวที่ถูกทอดทิ้ง หรือเจ้าของไม่ต้องการเลี้ยงอีกต่อไป
ในปีนี้ เอสพีซีเอ และ สมาคมบ้านกระต่าย ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนอย่าหลงซื้อกระต่ายไปเลี้ยงเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
“แม้เราจะคิดในแง่ดี แต่ประสบการณ์ในอดีตก็ทำให้ต้องระวังไว้ก่อนว่า ประชาชนอาจจะถูกยุให้ซื้อกระต่ายไปเลี้ยงโดยขาดความเข้าใจ” เดอีร์เดร มอส กรรมการบริหาร เอสพีซีเอ ให้สัมภาษณ์
“ก็หวังว่าปีนี้คงจะไม่เหมือน 12 ปีที่แล้ว หวังว่าคนที่จะซื้อกระต่ายไปเลี้ยงคงจะทบทวนให้ดีก่อน”
การถูกทอดทิ้งไม่ใช่ปัญหาเดียวที่เกิดกับกระต่ายในช่วงปีใหม่ แต่ภัตตาคารบางแห่งยังเสนอเมนู “เนื้อกระต่าย” เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข ซึ่งจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 3-17 กุมภาพันธ์นี้ด้วย
เซบาสเตียน โกะห์ พ่อครัวประจำภัตตาคาร เสฉวน คอร์ต ในสิงคโปร์ ได้สร้างสรรค์เมนู “สตูกระต่าย” ที่นำเอาเนื้อกระต่ายมาปรุงร่วมกับสุดยอดอาหารจีนอย่างหอยเป๋าฮื้อและหอยเชลล์
“ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะแนะนำให้ชาวจีนได้ลองรับประทานเนื้อกระต่ายกันดูบ้าง เนื่องจากอาหารจีนไม่ค่อยใช้กระต่ายเป็นส่วนประกอบ” โกะห์ กล่าว