xs
xsm
sm
md
lg

‘พวกสายกลาง’ในปากีสถานถูกปิดปากไปอีกราย

เผยแพร่:   โดย: ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)

Voice of moderation silenced in Pakistan
By Syed Saleem Shahzad
05/01/2011

ซัลมาน ตอเซียร์ ผู้ว่าการแคว้นปัญจาบ ซึ่งเป็นแคว้นที่มีประชากรมากที่สุดของปากีสถาน ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันอังคาร(4)ที่ผ่านมา โดยมือสังหารซึ่งเป็นหนึ่งในทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเขาเองให้เหตุผลว่า เป็นเพราะไม่พอใจที่ตอเซียร์ออกโรงคัดค้านกฎหมายห้ามการดูหมิ่นศาสนาอิสลามของปากีสถาน แรงจูงใจในการฆ่าโหดคราวนี้อาจจะเนื่องมาจากความปากกล้าโผงผางของผู้ว่าการจริงๆ ก็ได้ ทว่าการที่พวกกลุ่มพลังฝ่ายขวาแสดงท่าทีสนับสนุนปลุกเร้าให้สังหารตอเซียร์เรื่อยมา ก็เป็นพฤติกรรมที่ควรจะต้องถูกประณามด้วย

อิสลามาบัด – ผู้ว่าการแคว้นปัญจาบ (Punjab province) ซัลมาน ตอเซียร์ (Salman Taseer) ต้องชดใช้ด้วยชีวิตของเขาเองทีเดียว จากการที่เขาคอยคัดค้านพวกกลุ่มพลังฝ่ายขวาในปากีสถานอย่างไม่ยอมลดละเรื่อยมา เขาถูกลอบสังหารอย่างอุกอาจในเมืองหลวงอิสลามาบัดเมื่อวันอังคาร(4)ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเขาเอง

ตอเซียร์ นักการเมืองวัย 66 ปี สังกัดอยู่กับพรรคประชาชนปากีสถาน (Pakistan People's Party หรือ PPP) เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายข้อบัญญัติเรื่องการดูหมิ่นศาสนาอิสลามของปากีสถาน เนื่องจากเขาเชื่อว่ามันกำลังกลายเป็นเชื้อเพลิงให้แก่ลัทธินิยมความรุนแรง นอกจากนั้นเขายังพูดจาแสดงความคิดเห็นคัดค้านพวกตอลิบานและกลุ่มอัลกออิดะห์อย่างชนิดโผงผางตรงไปตรงมา รวมทั้งกล่าวหาพวกนักการเมืองฝ่ายขวาว่าทำงานประสานใกล้ชิดกับพวกหัวรุนแรง

ในอดีตที่ผ่านพ้นไปยังไม่นานเลย คอลิด คอวาจา (Khalid Khawaja) อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้หนึ่งของกรมประมวลข่าวกรองกลาง (Inter-Services Intelligence หรือ ISI) ก็ต้องประสบชะตากรรมในทำนองเดียวกันนี้ โดยเขาถูกลักพาตัวและจากนั้นก็ถูกสังหารเมื่อปีที่แล้วขณะกำลังไปเยือนพื้นที่ชาวชนเผ่าในเขตนอร์ทวาซิริสถาน (North Waziristan) เพื่อหาทางเป็นตัวกลางเปิดการเจรจาสันติภาพกับพวกหัวรุนแรง

มาลิก มุมตัซ กอดรี (Malik Mumtaz Qadri) ให้การรับสารภาพอย่างหน้าชื่นว่าเขาเป็นผู้ยิงสังหารตอเซียร์ในตลาดโคห์ซาร์ (Kohsar Market) ย่านธุรกิจการค้าระดับหรูของกรุงอิสลามาบัด กอดรีซึ่งเป็นที่ขึ้นชื่อรู้จักกันดีในเรื่องเคร่งศาสนา ทำงานสังกัดอยู่ในกองกำลังความมั่นคงชั้นนำของแคว้นปัญจาบ กองกำลังดังกล่าวขึ้นต่อคณะรัฐบาลท้องถิ่นของแคว้นปัญจาบ ที่ปัจจุบันนำโดยศัตรูคนสำคัญที่สุดของตอเซียร์ นั่นคือ มุขมนตรี ชาห์บัซ ชาริฟ (Shahbaz Sharif) แห่งพรรคสันนิบาตมุสลิมปากีสถาน-นาวาซ (Pakistan Muslim League-Nawaz หรือ PML-N) กอดรีระบุว่าการที่ตอเซียร์คัดค้านกฎหมายข้อบัญญัติห้ามการดูถูกดูหมิ่นศาสนาอิสลาม เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาลงมือสังหารคราวนี้ เขายังบอกด้วยว่าทีมรักษาความปลอดภัยที่เขาสังกัดอยู่ทั้งทีมเลยล้วนทราบดีว่าเขาวางแผนลอบปลิดชีวิตตอเซียร์

เมื่อปีที่แล้วเกิดกรณีของ อาซิยะ บีบิ (Asiya Bibi) แม่ชาวคริสเตียนที่มีบุตรรวม 5 คน เธอทะเลาะเบาะแว้งกับพวกเพื่อนบ้านที่เป็นมุสลิม และได้เอ่ยถ้อยคำที่เป็นการดูถูกดูเหมิ่นศาสดามุฮัมหมัดของศาสนาอิสลาม เธอถูกจับกุมถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และปรากฏว่าศาลตัดสินว่าเธอต้องถูกประหารชีวิตตามกฎหมายข้อบัญญัติเรื่องการห้ามการดูหมิ่นศาสนาอิสลามของปากีถสาน ตอเซียร์เป็นผู้หนึ่งที่ออกมาแสดงความเห็นอกเห็นใจคุณแม่ลูกห้าผู้นี้ อีกทั้งร้องเรียนวอนขอให้ปล่อยเธอเป็นอิสระ

ตอเซียร์ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการแคว้นปัญจาบตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2008 ได้เคยสร้างความโกรธแค้นให้แก่พรรค PML-N เป็นอันมาก จากการกล่าวหาว่าพรรคนี้มีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับกลุ่ม อาห์เล-ซุนนัต วัล จามาอัต (Ahle-Sunnat Wal Jamaat) อันเป็นกลุ่มที่มุ่งสร้างความแตกแยกทางนิกายศาสนาด้วยการต่อต้านพวกนิกายชิอะห์ นอกจากนั้นเขายังออกมาเตือนครั้งแล้วครั้งเล่า ให้มุขมนตรีชาริฟ ซึ่งสังกัดพรรค PML-N ด้วย จัดการเปลี่ยนตัว รานา ซอนาอุลเลาะห์ (Rana Sanaullah) รัฐมนตรีมหาดไทยในคณะรัฐบาลของเขา เนื่องจากซอนาอุลเลาะห์มีการติดต่อคบหาอย่างเปิดเผยกับ อาหมัด ลูธิอันวี (Ahmad Ludhianvi) หัวหน้าของ อาห์เล-ซุนนัต วัล จามาอัต ทั้งนี้ลูธิอันวีถูกตอเซียร์ระบุว่าเป็น “อาชญากรอันตราย”

การแสดงทัศนะอย่างโผงผางตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทำให้พวกฝ่ายขวาของปากีสถานกริ้วโกรธกันมาก ภาพตอเซียร์ขณะที่กำลังดื่มเหล้าไวน์ ตลอดจนภาพบุตรสาวของเขาในชุดเครื่องแต่งกายแบบตะวันตก ถูกนำออกมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต และรายการทอล์กโชว์ทางทีวีของหลายๆ สถานีมีการอภิปรายถกเถียงกันเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา มิตรภาพที่เขามีอยู่กับอดีตประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์รัฟ (Pervez Musharraf) ตลอดจนความเชื่อแบบไม่ยึดมั่นผูกพันกับศาสนาของเขา ก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาละเลงกล่าวร้ายกันอยู่บ่อยๆ

การรณรงค์ดังกล่าวเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายที่จะนำเอาตัวเขาขึ้นไปปรากฏอยู่บนจอเรดาร์ของพวกหัวรุนแรง และการที่เขาให้การสนับสนุนแก่บีบิคุณแม่ชาวคริสต์ ก็เปรียบได้กับ “ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้อูฐหลังหัก”

ตอเซียร์ ซึ่งโดยอาชีพแล้วเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ถือเป็นบุคคลผู้ประสบความสำเร็จในการสร้างตัวเองจนมีฐานะ เขาเคยเป็นประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ เฟิร์สต์ แคปิตอล ซีเคียวริตีส์ (First Capital Securities) บริษัทโบรกเกอร์ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์, เคยเป็นกรรมการผู้หนึ่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัทโทรคมนาคมใหญ่อย่าง เวิลด์คอลล์ กรุ๊ป (WorldCall Group), นอกจากนั้นยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเส้นใยนำแสง (ไฟเบอร์ออปติก), สถานีข่าวโทรทัศน์, และหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษ

เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งพรรค PPP โดยที่ก่อนหน้านั้นไปอีกในสมัยที่เขายังเป็นเยาวชน ตอเซียร์เคยเป็นผู้ที่มีแนวความคิดแบบมาร์กซิสต์อย่างมุ่งมั่นแน่วแน่ ในยุคของ พล.อ. เซีย อัลฮัก (General Zia al-Haq ประธานาธิบดีปากีสถานในช่วงปี 1977-1988) ตอเซียร์เคยถูกคุมขังและทรมานอยู่ที่ศูนย์กักกันค่ายเรดฟอร์ต (Red Fort) เมืองละฮอร์ อันฉาวโฉ่ของกองทัพ การที่เขาแต่งงานกับผู้ประกาศข่าวทีวีชื่อดังซึ่งเป็นสาวชาวซิกข์จากอินเดีย ก็เป็นชนวนทำให้เขาถูกกล่าวหาอยู่เสมอว่าเป็นสายลับทำงานให้แก่หน่วยข่าวกรองของแดนภารตะ

อย่างไรก็ตาม จากมิตรภาพที่มีอยู่กับมูชาร์รัฟ ได้นำพาเขาให้หวนกลับคืนสู่วงการเมืองอีกคำรบหนึ่ง และในคณะรัฐบาลชั่วคราวปี 2007-08 เขากลายเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่งของคณะรัฐบาลกลาง ต่อมามูชาร์รัฟได้แต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ว่าการแคว้นปัญจาบ แคว้นที่พำนักอาศัยของพลเมืองกว่าครึ่งหนึ่งของทั่วประเทศปากีสถาน

แต่การที่ตอเซียร์มีมารดาเป็นชาวเยอรมัน แล้วภรรยาของเขายังเป็นชาวอินเดียอีก ช่วยทำให้พวกฝ่ายขวาป้ายสีเขาได้ง่ายดายขึ้นว่า เป็นพวกนอกศาสนา เป็นพวกมีพฤติการณ์นอกรีตนอกรอย

เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาได้พูดถึงกฎหมายห้ามการดูหมิ่นศาสนาอิสลามว่า เป็นกฎหมาย “สีดำ” และระบุว่าควรที่จะถูกยกเลิกไป คำพูดดังกล่าวนี้เองซึ่งมือลอบสังหารอ้างว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องการฆ่าเขา มือปืนผู้นี้เพิ่งเข้ามาอยู่ในทีมรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้ว่าการแคว้นปัญจาบไม่นานนัก

หลายปีก่อน คอวาจา อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอเอสไอ ได้เคยเปิดโปงความเกี่ยวข้องโยงใยกันระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชาริฟ ของพรรค PML-N กับ อุซามะห์ บินลาดิน หัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะห์ (ดูเรื่อง The pawns who pay as powers play Asia Times Online, June 22, 2005)

เรื่องนี้ทำให้บุคคลผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสื่อฝ่ายขวาผู้หนึ่งตอบโต้ ด้วยการเผยแพร่เรื่องราวที่คอวาจาไปเกี่ยวพันกับพวกกลุ่มที่มิใช่ชาวมุสลิม (บนอินเทอร์เน็ตมีการเผยแพร่บทสนทนาที่แอบบันทึกกันไว้ และกลายเป็นเรื่องฮือฮาเป็นที่สนอกสนใจของสื่อทั้งระดับระหว่างประเทศและระดับชาติ)

พิจารณากันจากเปลือกนอก การสิ้นชีวิตของตอเซียร์คงจะทำให้เขาถูกตีตราว่าเป็นเพียงพวกนอกรีตนอกศาสนาที่ดูถูกดูหมิ่นศาสนาอิสลามอีกรายหนึ่ง ขณะที่มีความเป็นไปได้อย่างสูงมากว่า พวกพลังชั่วร้ายยิ่งกว่าซึ่งอยู่เบื้องหลังการตายของเขานั้น คงจะไม่ถูกเปิดโปงไม่ถูกลงโทษใดๆ ทั้งสิ้น

ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด เป็นหัวหน้าโต๊ะปากีสถานของเอเชียไทมส์ออนไลน์ เขาเป็นผู้เขียนหนังสือที่กำลังจะออกจำหน่ายในเร็วๆ นี้ซึ่งใช้ชื่อ Inside Al-Qaeda and the Taliban 9/11 and Beyond จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ Pluto Press สหราชอาณาจักร สำหรับที่อยู่ทางอีเมล์ของเขาคือ saleem_shahzad2002@yahoo.com
กำลังโหลดความคิดเห็น