xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯเร่งทำศึกบริเวณพรมแดนอัฟกาฯ-ปากีสถาน

เผยแพร่:   โดย: ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ออนไลน์www.atimes.com)

US fires off new warning in Pakistan
By Syed Saleem Shahzad
04/02/2010

สหรัฐฯกำลังแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาอันแรงกล้าอีกคำรบหนึ่ง ที่จะกำจัดกวาดล้างแหล่งหลบภัยของพวกตอลิบานและอัลกออิดะห์ตามพื้นที่ชายแดนระหว่างปากีสถานกับอัฟกานิสถาน เป็นต้นว่า พวกเขาได้ส่งเครื่องบินไร้นักบิน 9 ลำออกโจมตียิงจรวดเข้าถล่มเป้าหมาย 19 ลูกเพียงชั่วเวลาแค่ค่ำคืนเดียว นอกจากนั้น ความพยายามดังกล่าวนี้ยังมีการสนับสนุนด้วยเครือข่ายรวบรวมข่าวกรองเครือข่ายใหม่ ซึ่งมุ่งเน้นเจาะหาข้อมูลจากพวกชาวชนเผ่าทางอัฟกานิสถาน

อิสลามาบัด – สหรัฐฯเพิ่งส่งสัญญาณที่ชัดเจนยิ่งถึงความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแรงกล้าอีกครั้งที่จะทำลายแหล่งพักพิงหลบภัยของพวกตอลิบานและอัลกออิดะห์ ในพื้นที่ชายแดนระหว่างปากีสถานกับอัฟกานิสถาน ด้วยการเปิดการโจมตีด้วยเครื่องบินไร้นักบิน (drone) ครั้งใหญ่โตที่สุดเท่าที่เคยปฏิบัติการกันมาในปากีสถาน

พวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลปากีสถานเปิดเผยว่า เมื่อคืนวันอังคาร(2) เครื่องบินไร้นักบินของสหรัฐฯจำนวน 9 ลำ ได้ระดมโจมตียิงขีปนาวุธจำนวนรวม 19 ลูก เข้าใส่หมู่บ้านดัตตาเคล (Dattakhel) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดกัน (Degan) ของเขตนอร์ทวาซิริสถาน (North Waziristan) และอยู่ใกล้ๆ แต่คนละฟากพรมแดนกับจังหวัดโคสต์ (Khost) ของอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อยที่สุด 31 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก

ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงบอกกับเอเชียไทมส์ออนไลน์ว่า เป้าหมายสำคัญที่สุดของการโจมตีคราวนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็น สิรอจุดดีน ฮักกอนี (Sirajuddin Haqqani) ผู้นำคนหนึ่งของตอลิบานส่วนที่เป็นชาวอัฟกานิสถาน (Afghan Taliban)

“การโจมตีอย่างเอิกเกริกมโหฬารเป็นพิเศษ โดยใช้เครื่องบินไร้นักบินเข้ากระหน่ำกันมากมายขนาดนี้ สามารถทำได้ก็เพราะได้ข่าวกรองมาจากพื้นที่ตามแนวชายแดนเพิ่มขึ้นมากในช่วงหลังๆ มานั่นแหละ” เจ้าหน้าที่ความมั่นคงรายหนึ่งบอกกับเอเชียไทมส์ออนไลน์ โดยขอไม่ให้ระบุชื่อ

“พวกอเมริกันกำลังติดสินบนให้รางวัลก้อนโตแก่พวกชาวชนเผ่า (ที่เป็นชาวอัฟกานิสถาน) เพื่อให้คอยส่งข่าวเกี่ยวกับกลุ่มหัวรุนแรง ตลอดจนที่ซ่อนตัวของพวกนี้ตามแนวชายแดนส่วนที่อยู่ในเขตพื้นที่ชาวชนเผ่าของปากีสถาน อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ การปฏิบัติการแบบเดียวกัน (การโจมตีด้วยเครื่องบินไร้นักบิน) ก็น่าจะใช้ไปเล่นงานพวกเป้าหมายทั้งที่อยู่ในเขตโอรัคไซ (Orakzai Agency) , เขตไคเบอร์ (Khyber Agency) , บาจาอูร์ (Bajaur) , และโมห์มันด์ (Mohmand)” เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว

จากรายงานหลายกระแสที่เอเชียไทมส์ออนไลน์ยังไม่สามารถได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ ระบุว่าสหรัฐฯได้แจกจ่ายเงินทองเป็นจำนวนประมาณ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ชาวเผ่าชินวารี (Shinwari เป็นชนเผ่าที่มีอิทธิพลมากชนเผ่าหนึ่งของชนชาติปาชตุน Pashtun -ผู้แปล) ใน 6 อำเภอของจังหวัดนันการ์ฮาร์ (Nangarhar) ของอัฟกานิสถาน สิ่งที่พวกเขาจะต้องทำก็คือการให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับ กองกำลังอาวุธโตราโบรา (Tora Bora Brigade) ของกลุ่มตอลิบาน ซึ่งตั้งค่ายหลายๆ แห่งกระจายตัวจากอำเภอค็อกยานี (Khogyani) ของนันการ์ฮา ไปตามเทือกเขาโตราโบรา และข้ามชายแดนเข้าไปในหุบเขาเต-รา (Tera Valley) ในเขตไคเบอร์, ปาราชินาร์ (Parachinar) ในเขตคุร์รัม (Kurram Agency) และเขตโอรัคไซ ชาวเผ่าชินวารีนั้นตั้งถิ่นฐานอยู่ในทั้งสองฟากของเส้นดูรันด์ (Durand line) ที่เป็นเส้นแบ่งพรมแดนอัฟกานิสถานกับปากีสถาน และทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการทำการค้าที่มีเครือข่ายกว้างขวางมาก

วิธีการทำนองเดียวกันนี้ ยังกำลังนำมาใช้กับชาวชนเผ่าอัฟกานิสถานอื่นๆ ตามพื้นที่ชายแดน โดยมุ่งเน้นที่การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายที่เป็นพวกหัวรุนแรงต่อต้านฝ่ายตะวันตก

ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา กรมประมวลข่าวกรองกลาง (Inter-Services Intelligence หรือ ISI) ของปากีสถาน และสำนักงานข่าวกรองกลาง (Central Intelligence Agency หรือ CIA) ของสหรัฐฯ ได้พยายามที่จะจัดตั้งเครือข่ายผู้ให้ข่าว ขึ้นมาตามพื้นที่ชาวชนเผ่าของปากีสถาน ทว่าพวกผู้ให้ข่าวเหล่านี้กลับถูกเปิดโปงอย่างเป็นระบบแล้วก็ถูกสังหารทิ้งโดยกลุ่มหัวรุนแรง ด้วยเหตุนี้เองในเวลานี้จึงกำลังมีการเปลี่ยนมาใช้ชาวอัฟกานิสถานที่มีเครือข่ายติดต่อสัมพันธ์ในทั้งสองฟากของชายแดน

การโจมตีด้วยเครื่องบินไร้นักบิน และการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองดังที่กล่าวมาเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของวิธีการใน “แทร็กที่ 2” (track two) ของสหรัฐฯ โดยที่จุดสำคัญของแทร็กที่ 2 ก็คือการเพิ่มการปรากฏตัวทางทหารของสหรัฐฯภายในดินแดนปากีสถาน

เมื่อวันพุธ(3) ทหารอเมริกัน 3 คนถูกสังหาร และอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์คนร้ายโจมตีด้วยระเบิด ในพื้นที่ของเขตโลเวอร์ ดีร์ (Lower Dir) ซึ่งอยู่ประชิดเขตบาจาอูร์ การโจมตีคราวนี้ซึ่งมีทหารปากีสถานคนหนึ่งและนักเรียนหญิงอีก 3 คนถูกสังหารด้วย แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน นับเป็นการปฏิบัติการของพวกตอลิบานที่มุ่งเล่นงานทหารสหรัฐฯจนถึงระดับมีการบาดเจ็บล้มตายครั้งแรกที่เกิดขึ้นในดินแดนปากีสถาน ทั้งนี้คนร้ายจุดระเบิดขึ้นขณะที่ขบวนทหารคุ้มครองรักษาความปลอดภัย เดินทางไปถึงโรงเรียนแห่งหนึ่งที่กำลังเฉลิมฉลองการเปิดเรียนเปิดสอนขึ้นได้ใหม่ ภายหลังถูกทำลายเสียหายจากการถูกพวกหัวรุนแรงโจมตีก่อนหน้านี้

เวลานี้กองทัพปากีสถานกำลังทำการสู้รบอย่างหนักกับพวกหัวรุนแรงในบาจาอูร์ ซึ่งเป็นจุดสำคัญในเส้นทางลำเลียงของพวกตอลิบานชาวอัฟกานิสถานกลุ่มที่ตั้งฐานอยู่ในจังหวัดคูนาร์ (Kunar) และจังหวัดนูริสถาน (Nuristan) เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พวกตอลิบานสามารถแผ่อำนาจในนูริสถานอย่างชนิดที่เรียกได้ว่าเข้าควบคุมเอาไว้ได้ในทางเป็นจริง จนบังคับให้กองทหารอเมริกันต้องทิ้งค่ายหลัก 3 แห่งของพวกตนในจังหวัดนี้

ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในกรุงอิสลามาบัดแถลงว่า ทหารอเมริกัน 3 คนที่ถูกสังหารคราวนี้ ได้รับมอบหมายภารกิจให้เป็นครูฝึกประจำเหล่าทหารพรมแดนตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน (Pakistani Frontier Corps หรือ FC) หลักสูตรการฝึกอบรมในเรื่องการต่อสู้เอาชนะความไม่สงบของ FC นั้น ตามที่กำหนดกันเอาไว้จะจัดขึ้นในเมืองเปชวาร์ (Peshwar) เมืองเอกของแคว้นพรมแดนตะวันตกเฉียงเหนือ (North-West Frontier Province) และในเมืองบูเนอร์ (Buner) ซึ่งอยู่ในแคว้นเดียวกัน

การที่ทหารอเมริกันซึ่งเสียชีวิตจากการระเบิดคราวนี้ อยู่ในสถานที่ที่ห่างไกลมากพอดูจากศูนย์ฝึกอบรมที่พวกเขาได้รับมอบหมายให้ไปประจำปฏิบัติภารกิจ จึงทำให้อนุมานได้ว่า พวกเขาอาจจะกำลังคอยกำกับดูแลการปฏิบัติการของ FC ในเขตโลเวอร์ ดีร์ หรือไม่ก็ในเขตบาจาอูร์ ซึ่งกำลังเกิดการสู้รบปราบปรามพวกตอลิบานและอัลกออิดะห์อย่างดุเดือด โดยที่เกิดการบาดเจ็บล้มตายอย่างหนักกันทั้งสองฝ่ายในระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา

สหรัฐฯกำลังปฏิบัติการในแทร็กที่ 2 โดยประสานไปกับการริเริ่มหาทางเปิดการเจรจากับหลายๆ ส่วนภายในกลุ่มตอลิบานอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี กระบวนการเช่นนี้ยังจะต้องเดินหน้าไปอีกยาวไกลทีเดียว และการที่สหประชาชาติกำลังดำเนินการถอดชื่ออดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตอลิบานจำนวน 5 คน ออกมาจากบัญชีดำผู้ที่ถูกลงโทษคว่ำบาตรของตน โดยที่มีการประโคมข่าวว่าเป็นความคืบหน้าระดับผ่าทางตันนั้น แท้ที่จริงแล้วไม่ได้มีความสำคัญอะไรขนาดนั้นเลย เนื่องจากบุคคลทั้ง 5 คือพวกที่ประกาศแปรพักตร์ในทันที ภายหลังระบอบปกครองของตอลิบานล่มสลายลงในปี 2001

ยูเอ็นแถลงว่าบุคคลทั้ง 5 จะไม่ตกเป็นเป้าหมายถูกห้ามไม่ให้เดินทางไปมาระหว่างประเทศ รวมทั้งทรัพย์สินของพวกเขาก็จะไม่ถูกอายัดอีกต่อไป ทั้ง 5 คนนี้ต่างก็เคยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงอยู่ในคณะรัฐบาลตอลิบาน และถูกขึ้นบัญชีดำเมื่อปี 2001 โดยประกอบด้วย อับดุล วากิล มุตอวากิล (Abdul Wakil Mutawakil) อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ, ฟาอิซ โมฮัมหมัด ไฟซาน (Faiz Mohammad Faizan) อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์, ชามส์-อุส-ซอฟา (Shams-us-Safa) อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ, โมฮัมหมัด มูซา (Mohammad Musa) อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงวางแผน, อับดุล ฮาคิม (Abdul Hakim) อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงกิจการพรมแดน

ในบรรดาคนเหล่านี้ทั้งหมด ผู้ที่น่าสนใจที่สุดได้แก่ อับดุล ฮาคิม ซึ่งภายหลังหลบหนีออกจากอัฟกานิสถานแล้ว ได้จัดการแถลงข่าวขึ้นในปากีสถาน ร่วมกับอดีตผู้ว่าการจังหวัดของตอลิบานหลายต่อหลายคน โดยที่พวกเขาประกาศการจัดตั้งกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า จามิอัต คูดดามุล โกราน (Jamiat Khuddamul Koran) ขึ้นมา กลุ่มดังกล่าวนี้ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากกรมประมวลข่าวกรองกลาง(ไอเอสไอ)ของปากีสถาน ได้ประณาม มุลลาห์ โอมาร์ ผู้นำตอลิบาน ที่ให้ที่พักพิงหลบภัยในอัฟกานิสถานแก่อุซามะห์ บิน ลาดิน และพวกอัลกออิดะห์

แต่หลังจากเวลาผ่านไปไม่กี่เดือน จามิอัต คูดดามุล โกราน ก็อันตรธานหายวับไป และ อับดุล ฮาคิม ไปปรากฏตัวในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน โดยได้กลายเป็นบุคคลผู้ไว้เนื้อเชื่อใจของประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ สำหรับสมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่ได้หันไปเข้าร่วมกับพวกตอลิบาน ในการดำเนินการต่อสู้กับกองทหารต่างชาติในอัฟกานิสถาน

ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด เป็น หัวหน้าสำนักงานปากีสถานของเอเชียไทมส์ออนไลน์ สามารถติดต่อกับเขาได้ที่ saleem_shahzad2002@yahoo.com
กำลังโหลดความคิดเห็น