เอเอฟพี - ราคาน้ำมันไต่สู่ระดับสูงสุดในรอบปีวันพฤหัสบดี(15) ขยับเหนือ 77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังพบสต๊อกพลังงานสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลกลดลงอย่างรุนแรง ขณะที่วอลล์สตีท โดยเฉพาะดาวโจนส์ยังมุ่งหน้าต่อไปจากที่ทะยานผ่าน 10,000 จุดไปแล้ว จากรายงานผลประกอบการอันสวยงามของ โกลด์แมน แซคส์
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2008 ขณะที่เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การดิ่งลงอย่างรุนแรงของคลังน้ำมันเบนซินสำรองเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตามรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ช่วยผลักให้ราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง หลังจากช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
คลังน้ำมันเบนซินสำรองของสหรัฐฯ ลดลงถึง 5.2 ล้านบาร์เรล ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ตุลาคม สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น ขณะที่สต๊อกน้ำมันกลั่นก็ลดลงเช่นกัน มีเพียงสต๊อกน้ำมันดิบเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี(15) ดาวโจนส์ ยังปิดบวกต่อเนื่อง หลังจากขยับขึ้นเหนือ 10,000 จุดในวันพุธ(14) เหตุได้แรงขับเคลื่อนจากผลกระกอบการอันสดใสของโกลด์แมน แซกส์
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 46.63 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,064.49 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 1.06 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,173.29 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.45 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,096.47 จุด
วอลล์สตรีทขยับขึ้นตามข้อมูลทางบวกของเศรษฐกิจ และรายงานผลกระกอบการของบริษัทต่างๆ ที่เปิดเผยออกมาก่อนเปิดตลาด ขณะเดียวกันก็พบข้อมูลบวกเกี่ยวกับจำนวนผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานและดัชนีผู้บริโภคด้วย
โกลด์แมน แซกส์ กรุ๊ป อิงค์ รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง เนื่องจากธุรกิจเทรดดิ้งทำกำไรให้กับบริษัทได้อย่างงดงาม โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า แตะ 3.19 พันล้านดอลลาร์ หรือ 5.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากระดับ 845 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.81 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงไตรมาส 3 ปีก่อน ขณะที่ธุรกิจซื้อขายตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ และค่าเงิน สามารถช่วยผลักดันผลกำไรของบริษัทได้เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน