xs
xsm
sm
md
lg

เบอร์ลี่ยุคเกอร์ไล่เทกโอเวอร์ 2ดีลในเวียดนามสรุป3-6เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – เบอร์ลี่ ยุคเกอร์เร่งเจรจาซื้อกิจการในเวียดนามทั้งเทรดดิ้งและโรงงานผลิตขวดแก้ว แย้มภายใน 3-6 เดือนได้ข้อสรุปทั้ง 2ดีล ส่วนในประเทศก็มีการเจรจาซื้อกิจการหลายราย ตั้งเป้าปีหน้ารายได้โต 10 %โดยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศขยับขึ้น 10 % และ5ปีข้างหน้ารายได้ต่างประเทศเป็น 50%ของรายได้รวม

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการในเวียดนามจำนวน 2 ธุรกิจ คือธุรกิจเทรดดิ้ง ที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 300 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 3 เดือนข้างหน้านี้ โดยโครงการดังกล่าวล่าช้ากว่ากำหนดเล็กน้อยเนื่องจากติดปัญหาการขอใบอนุญาตจากทางราชการเวียดนม ส่วนอีกโครงการหนึ่งเป็นโรงงานผลิตขวดแก้วคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 6 เดือนนี้ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมที่ดำเนินการอยู่

จากการลดค่าเงินด่องของเวียดนามครั้งนี้ น่าจะเป็นโอกาสดีในการลงทุนที่เวียดนาม เพราะค่าเงินบาทแข็งค่ากว่า ทำให้ลดการใช้เงินลงทุนลง

ส่วนการลงทุนในประเทศปีหน้าจะไม่มีโครงการใหญ่ เนื่องจากมีการขยายกำลังการผลิตขวดแก้วไปก่อนหน้านี้ แต่มีโอกาสที่จะซื้อกิจการใหม่เข้ามา โดย บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อหลายบริษัทในไทย โดยให้ความสำคัญในธุรกิจสินค้าอุปโภค-บริโภค และเทรดดิ้ง

นายอัศวิน กล่าวต่อไปว่า การซื้อกิจการ 2แห่งในเวียดนามนั้น บริษัทฯจะใช้กระแสเงินสดในการดำเนินการ ขณะที่พม่าก็มองโอกาสความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุนเช่นกันแต่ยังมีปัจจัยการเมืองที่ต้องดูอย่างรอบคอบ ส่วนการซื้อกิจการในประเทศไทยนั้น หากบริษัทฯเข้าไปลงทุนในระดับหมื่นล้านบาทก็จะพิจารณาแนวทางการเพิ่มทุนจดทะเบียน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาฟรีโฟลตหุ้นBJCด้วย

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้ขยายตัวแค่ 5%จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว แต่จะมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 5%จากปีก่อนที่มีอัตรา 4.5% ของรายได้รวม เนื่องจากบริษัทฯมีการควบคุมค่าใช้จ่าย และมีการขยายสินค้าใหม่เพิ่ม โดยปีหน้ารายได้ของบริษัทฯคาดว่าจะเติบโต 10%จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก รวมทั้งมีการเพิ่มสินค้าใหม่ๆเข้าสู่ตลาด เช่น เครื่องสำอางค์ที่บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนา ภายใต้แบรนด์ตัวเอง โดยเน้นเจาะตลาดวัยรุ่น คาดว่าสินค้าดังกล่าวจะวางตลาดได้ในกลางปีหน้านี้

ในปีหน้าบริษัทฯยังมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมากขึ้นโ ดยตั้งเป้าหมายรายได้จากต่างประเทศขยับเป็น 10%ของรายได้รวมหรือประมาณ 2 พันล้านบาท จากปีนี้ที่มีสัดส่วนไม่ถึง 5%ของรายได้รวม ซึ่งรายได้จากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นนี้ยังไม่ได้รวมรายได้จากการซื้อกิจการที่เวียดนาม และบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายว่าบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 50%ใน 5-6 ปีข้างหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น