เอเอฟพี - วอลล์สตรีท ดีดตัวต่อเนื่องเมื่อวันพฤหัสบดี(26) ท่ามกลางสัญญาณในทางบวกที่มีมากขึ้นสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่น้ำมันก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังนักลงทุนมีความหวังว่าภาวะถดถอยของสหรัฐฯกำลังคลี่คลาย
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 174.75 จุด (2.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,924.56 จุด ทะยานกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ดิ่งลงไปต่ำสุดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 18.99 จุด (2.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 832.86 จุด ขณะที่ แนสแดก ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 58.05 จุด (3.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,587.00 จุด
เมื่อวันพฤหัสบดี(26)ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าเศรษฐกิจของประเทศในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2008 หดตัวลง 6.3 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังน้อยกว่า 6.6 เปอร์เซ็นต์ ตามที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้
ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกของสหรัฐฯในช่วงต้นปี 2009 ยังไม่มีออกมาในเดือนนี้ แต่นักวิเคราะห์บางคนบอกว่ามีสัญญาณหลายอย่างปรากฎขึ้นว่าอย่างน้อยขอบเขตบางส่วนของเศรษฐกิจอเมริกาได้ดิ่งถึงจุดต่ำสุดแล้วและอาจพร้อมที่จะดีดตัวกลับมา
แม้ว่าในรายงานอีกอันจะระบุถึงยอดคนว่างงานสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 1.2 เปอร์เซ็นต์ เป็น 652,000 ตำแหน่งช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มีนาคม แต่นักวิเคราะห์บอกว่าจากข้อมูลที่มีความหวังอื่นๆและแผนกอบกู้ต่างๆมากมายของรัฐบาลกำลังเดินหน้า "มีแนวโน้มในทางบวกว่าจุดร้ายแรงที่สุดของภาวะเศรษฐกิจถดถอยอยู่เบื้องหลังเราแล้ว"
ด้านราคาน้ำมันเมื่อวันพฤหัสบดี(26) ก็ได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้น ทำให้ปิดตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 2 ดอลลาร์ ในความหวังว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลกกำลังคลี่คลาย
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"ปัจจัยหลักดูเหมือนว่าเป็นผลมาจากตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น" เอลลิส อัคแลนด์ นักวิเคราะห์อิสระกล่าว "มีความเป็นไปได้ที่มันจะตรึงอยู่เหนือ 50 ดอลลาร์ และนานเท่าที่ตลาดทุนจะสามารถดีดตัวขึ้นไปกว่านี้ ราคาน้ำมันก็จะอยู่เหนือ 50 ดอลลาร์และอาจจะขยับไปถึง 60 ดอลลาร์เลยก็เป็นได้"
