เอเอฟพี - ราคาน้ำมันทำสถิติสูงสุดรอบ 4 เดือนครั้งใหม่ หลังเมื่อวันอังคาร (24) ขยับขึ้นอีกเล็กน้อย 18 เซนต์ ท่ามกลางความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวจากแผนซื้อหนี้เสียธนาคารของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดตัวในแดนลบ เหตุนักลงทุนฉุกคิดว่ามาตการดังกล่าวจะประสบผลสำเร็จหรือไม่
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 53.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ ปิดที่ 53.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2008 เมื่อวันจันทร์ (23) สะท้อนตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้น หลังรัฐบาลสหรัฐแถลงแผนกำจัดหนี้เสียของธนาคารที่มีปัญหาเพื่อช่วยจุดเชื้อไฟแห่งการฟื้นคืนชีพของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร (24) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันตัวลงมาปิดในแดนลบอีกครั้ง หลังนักลงทุนฉุกคิดถึงโอกาสประสบความสำเร็จของแผนเข้าซื้อสินทรัพย์เน่าเสียธนาคารมูลค่ามหาศาลอันจะช่วยให้ภาคการเงินการธนาคารสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ปกติด้านการให้สินเชื่อได้อีกครั้ง หนึ่งวันหลังจากความอิ่มเอบแห่งการตอบรับแผนนี้ที่ส่งผลให้วอลล์สตรีททะยานขึ้นอย่างแรงเมื่อวันจันทร์ (23)
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 115.65 จุด (1.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,660.21 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 16.59 จุด (2.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 806.33 จุด ขณะที่ แนสแดก ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 37.43 จุด (2.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,518.34 จุด