เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี เวินเจียเป่า ของจีน และ นายกรัฐมนตรี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ขึ้นพูดในวันแรกของการประชุม “ดาวอส” ด้วยการโจมตีความเกินเลยไม่มีบันยะบันยังของทุนนิยมสหรัฐฯ ว่า เป็นตัวจุดชนวนให้เกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก
ระหว่างขึ้นพูดเมื่อวันพุธ (28) ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมเวทีเศรษฐกิจโลก (เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม - WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้นำของจีน กล่าวว่า “การแสวงหากำไรอย่างมืดบอด” คือ ตัวการทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930
ส่วน ปูติน ของรัสเซีย ก็บอกว่า “พีระมิดแห่งความคาดหวังนี้คงจะพังทลายลงมาในไม่ช้าก็เร็ว และที่จริงแล้ว มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ต่อห้าต่อตาเราแล้วด้วย”
เวิน ยังกล่าวโจมตีสหรัฐฯโดยอ้อมๆ ว่า มีบางประเทศใช้ “นโยบายเศรษฐศาสตร์มหภาคที่ไม่เหมาะสม” และ “มีการออมเงินต่ำแต่มีการบริโภคสูงมาอย่างยืดเยื้อยาวนาน”
นอกจากนั้น เขายังกล่าวโทษว่า วิกฤตการณ์เศรษฐกิจครั้งนี้เกิดขึ้น จาก “การขยายตัวของสถาบันการเงินอย่างเกินเลยเพื่อแสวงหากำไรอย่างมืดบอด และการขาดวินัยในตนเองของพวกสถาบันการเงินและหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ” ในขณะที่พวกผู้คุมกฎระเบียบกลับทำงาน “ล้มเหลว” และปล่อยให้พิษภัยทางเศรษฐกิจแผ่กระจายออกไป
ทั้งนี้ นายกฯจีน ยังได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศโดยเร็ว รวมทั้งจะต้องมี “การจัดระเบียบโลกใหม่” เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย
ส่วน ปูติน ซึ่งขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อจากผู้นำจีน ก็พูดถึงวิกฤตการณ์ครั้งนี้ว่าเป็น “มหาพายุอันเกิดจากปัจจัยร้ายต่างๆ มาประชุมพร้อมกัน” และเขายังโจมตีความล้นเกินของทุนนิยมด้วยว่า “แม้ว่าวิกฤตการณ์ลอยให้เห็นอยู่ต่อหน้าแล้ว แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมัวแต่พยายามแย่งชิงส่วนแบ่งของตนไว้ ไม่ว่าจะเป็นเงินแค่ดอลลาร์เดียวหรือหนึ่งพันล้านดอลลาร์ก็ตาม และไม่อยากจะมองดูคลื่นที่กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ”
ปูติน ยืนยันว่า เขาไม่ได้กำลังวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ แต่ก็เสริมว่า “ผมเพียงจะเตือนความจำของพวกท่านว่า เมื่อปีที่แล้ว ผู้แทนของอเมริกาที่มากล่าวในเวทีแห่งนี้ เคยย้ำว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีเสถียรภาพในระดับพื้นฐาน และมีทิศทางอนาคตต่างๆ ในทางที่ดีไม่มีปัญหา”
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว ผู้แทนจากสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมการประชุมที่เมืองดาวอส ก็คือ คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศในขณะนั้น
“แต่วันนี้พวกวาณิชธนกิจทั้งหลายซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจของวอลล์สตรีท ได้ล้มหายตายจากไป ภายในเวลาแค่ 12 เดือนกิจการเหล่านี้มียอดขาดทุนสูงเกินกว่ากำไรที่เคยทำได้ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ตัวอย่างนี้เพียงตัวอย่างเดียวก็สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่แท้จริงได้ดีเกินกว่าคำวิจารณ์ใดๆ ทั้งสิ้น” ปูติน กล่าว เขายังระบุด้วยว่า ระบบการเงินที่เป็นอยู่ในปัจจุบันล้มเหลว และการควบคุมกฎระเบียบที่หย่อนยานก็คือสาเหตุของวิกฤตการณ์ครั้งนี้
นอกจากนั้น ทั้ง เวิน และ ปูติน ต่างก็เรียกร้องให้ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้ความร่วมมือกับภารกิจในเวทีระหว่างประเทศให้มากขึ้น แต่ทั้งสองก็กล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับลัทธิกีดกันทางการค้าเช่นกัน โดยเชื่อว่า การแทรกแซงของภาครัฐมากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
