จีนยอมรับปีหน้าแย่ ย้ำทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเศรษฐกิจ

เอเจนซี่ – รัฐบาลจีนประกาศพร้อมใช้มาตรการทุกอย่างเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ สู้กับวิกฤตการเงินโลก นักวิชาการพรรคฯชี้ถึงเวลาเดินทางสายใหม่ ปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจ ขณะที่รายงานเศรษฐกิจชี้ ปีหน้าอสังหาฯตกต่ำต่อเนื่อง อาจถึงขนาด “ล้างไพ่” นักศึกษา 1 ล้านคนหางานทำไม่ได้

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา กรมการเมือง คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ได้ประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนการทำงานในปีหน้า โดยที่ประชุมได้เน้นย้ำว่าทางการจีนจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

“ทางการจีนจะใช้มาตรการทุกอย่างเพื่อรักษาตลาดส่งออก และบุกเบิกตลาดใหม่ เพื่อชดเชยผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะขาลง” หวัง ฉีซัน รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าว
รองนายกฯจีน บอกว่า รัฐบาลจะช่วยให้บริษัทธุรกิจเข้าถึงเงินกู้ได้ง่ายขึ้น ช่วยสร้างศูนย์จำหน่ายสินค้า รวมทั้งสนับสนุนการขายเครื่องใช้ในครัวเรือนไปยังชนบท

นอกจากนี้ยังคาดกันว่า ทางการจีนจะรักษาค่าเงินหยวนให้อ่อนค่าต่อไป เพื่อสนับสนุนการส่งออก โดยเรื่องค่าเงินหยวนนี้จะเป็นประเด็นถกเถียงสำคัญในการประชุมหารือยุทธศาสตร์เศรษฐกิจจีน-สหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4-5 ธ.ค.นี้ ที่กรุงปักกิ่ง โดยฝ่ายสหรัฐฯ มีนายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังเป็นหัวหน้าทีม

เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกอย่างมาก เศรษฐกิจที่เคยเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักลดลงเหลือเพียง 9.8% GDP ลดลงต่อเนื่อง 5 ไตรมาสตั้งแต่ปีที่แล้ว ยอดสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศก็ลดลงต่ำที่สุด นับจากเดือนกรกฎาคมปี 2005

“ทำไมเมื่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเกิดปัญหา จีนจึงได้รับผลกระทบด้วย? เหตุผลก็คือ แนวทางการพัฒนาของเรายังมีปัญหาอยู่ เราต้องปรับระบบใหม่ ทั้งในส่วนของบริษัทต่างๆและทิศทางการพัฒนาโดยรวมของประเทศ” อู๋ จิง เหลียน นักเศรษฐศาสตร์จีน กล่าว

นักเศรษฐศาสตร์ เห็นว่า มาตรการเฉพาะหน้าของรัฐบาล เช่น การลดภาษี ให้เงินอุดหนุน และเพิ่มสวัสดิการสังคมนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำอยู่แล้ว แต่การแก้ปัญหาในระยะยาวต้องมีชุดมาตรการที่สมบูรณ์แบบกว่านี้ โดยทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และกระจายรายได้อย่างเป็นธรรมมากขึ้น

รัฐบาลจีนตั้งเป้าจะผลักดันเศรษฐกิจภายในประเทศ และใช้พลังของผู้บริโภคมากระตุ้นเศรษฐกิจ และที่ประชุมโปลิต บูโร ยังเน้นย้ำว่า ปี 2009 จีนจะต้องปฏิรูปในหลายด้าน ทั้งการปฏิรูปภาคชนบท, ระบบภาษี, การจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ, ระบบการเงิน รวมทั้งระบบควบคุมตรวจสอบ และรัฐวิสาหกิจต่างๆ

“นี่เป็นสัญญาณว่า ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจจีนจะเดินบนทางสายเก่าอีกไม่ได้แล้ว รัฐบาลจีนจะต้องใช้วิกฤตครั้งนี้เพื่อเปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจที่สร้างความได้เปรียบจากแรงงานราคาถูก ไปสู่การผลิตสินค้าระดับสูงขึ้น” จาง หลี่หยาง นักวิจัยจากสภาสังคมศาสตร์แห่งชาติจีน กล่าว

ในวันเดียวกัน สภาสังคมศาสตร์แห่งชาติจีน ได้ออก “รายงานปกสีน้ำเงินว่าด้วยเศรษฐกิจจีนปี 2009” โดยในรายงานดังกล่าว ระบุว่า ปีหน้าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตที่ 9% โดยระดับเงินเฟ้อจะถูกควบคุมให้ต่ำกว่า 5% ทั้งนี้รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการมหภาคเพื่อรักษาการเจริญเติบโต และช่วยให้เศรษฐกิจปรับตัว　　
　　　
ทางด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ รายงานเศรษฐกิจปกสีน้ำเงิน ระบุว่า อสังหาริมทรัพย์ปี 2009 จะซบเซาต่อเนื่อง ผู้ประกอบการจะต้องอดทนผ่านความลำบากไปให้ได้ หรือบางกรณีอาจถึงขนาดต้อง “ล้างไพ่” กันใหม่ ราคาบ้านและที่ดินจะยังคงลดลงในระยะสั้นๆ แต่จะปรับตัวจนมีความนิ่งได้ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล จะทำให้ตลาดบ้านขนาดกลางและเล็กจะคึกคักมากขึ้น

รายงานของสภาสังคมศาสตร์ฉบับนี้ ยังเตือนว่า ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำจะทำให้มีผู้ที่ขาดส่งค่างวดชำระผ่อนบ้านมากขึ้น และจะมีโครงการก่อสร้างจำนวนหนึ่งต้องทิ้งงาน สร้างไม่เสร็จอีกด้วย

รายงานเศรษฐกิจปกสีน้ำเงิน ยังระบุว่า ในปีหน้านักศึกษาจบใหม่กว่า 1 ล้านคนจะประสบความยากลำบากในการหางานทำ นอกจากนี้ยังจะมีคนตกงาน รวมทั้งทหารที่ปลดประจำการอีกจำนวนหนึ่งที่รัฐบาลต้องเข้าไปช่วยเหลือสร้างงานให้ โดยสภาสังคมศาสตร์ แนะนำว่า นักศึกษาจบใหม่หรือคนที่ตกงานไม่ควรแต่จะรอพึ่งพิงบริษัทต่างๆ แต่ควรใช้โอกาสนี้สร้างงานในรูปแบบที่ตัวเองถนัด