นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงแรงงานได้รับนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้แนวทางลงช่วยเหลือเชิงรุกนายจ้างและลูกจ้าง โดยให้โรงพยาบาลในเครือข่ายสำนักงานประกันสังคมบูรณาการทำงานเชิงรุกร่วมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ที่เข้าไปตรวจสถานประกอบการเพื่อตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ให้ผู้ใช้แรงงานในรูปแบบทางเดินหายใจ (PCR) ที่ จ.สมุทรสาคร ไปเบื้องต้นแล้ว ล่าสุด กระทรวงแรงงานจะทำงานตรวจเชิงรุกต่อไปใน 28 จังหวัด ที่มีการคำสั่งควบคุมสูงสุด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อไป โดยขณะนี้มีหลายโรงงาน/สถานประกอบการ ได้ยื่นเข้ามาจำนวนมาก โดยรอพิจารณาคำขอจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ สถานประกอบการ ที่ผ่านการอนุมัติ จะสามารถตรวจคัดกรองโควิด-19 ได้ฟรี ซึ่งสำนักงานประกันสังคมในสังกัดกระทรวงแรงงาน จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ตามนโยบายรัฐบาลและจากการกำชับของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลนโยบายของกระทรวงแรงงาน ได้ให้แนวทางการทำงาน ต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้การช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้าง ให้ภาคการผลิตเดินต่อ และด้านสุขภาพอนามัยของลูกจ้าง ให้ปลอดภัยจากโควิด-19
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ประกอบการใน 28 จังหวัดที่จะเข้ารับการตรวจนั้น จะต้องผ่านเกณฑ์พิจารณาต่างๆ โดยประการแรก ต้องยื่นความประสงค์ขอเข้าร่วมตรวจคัดกรองจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ประกันสังคมจังหวัด ภายใต้การอำนวยการของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้เห็นชอบขั้นตอนสุดท้าย โดยเงื่อนไขหลักๆ สถานการประกอบการจะต้องมีสถานกักกันในโรงงาน ที่มีความพร้อม Factory Quarantine (FQ) ในกรณีตรวจไม่ผ่าน ให้โรงงานไปปรับปรุงแก้ไขใหม่ และเมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว โรงพยาบาลในเครือข่ายสำนักงานประกันสังคมจะดำเนินการตรวจตามขั้นตอนการรักษาต่อไป
นายสุชาติ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานคาดหวังจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจเชิงรุกและป้องกันโควิด-19 โดยสถานประกอบการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจคัดกรองโควิด-19 จากเดิมที่นายจ้างต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ในการตรวจคัดกรองลูกจ้าง และที่สำคัญนโยบายรัฐบาลนี้ ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและลูกจ้าง ทั้งชาวไทย และต่างด้าว ไม่ต้องหยุดกิจการ ภาคการผลิต และลูกจ้างไม่ต้องหยุดงาน และการผลิตส่งออกเดินหน้าต่อไป เพื่อท่าจะมีเงินไปเลี้ยงชีพและดูแลครอบครัว อีกทั้งกระทรวงแรงงานถือว่าเป็นกองหนุน เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยการทำงานทุกภาคส่วนของภาครัฐ อาทิ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ที่เราเข้าไปลุยตรวจถึงโรงนั่นๆ ถือว่าเป็นการดูแล และห่วงใยผู้ประกอบการและลูกจ้างเพื่อให้ผ่านสถานการณ์เช่นนี้ไปด้วยกัน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องทำทุกมิติ เพื่อชาติ บ้านเมือง พี่น้องประชาชน ต้องผ่านวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 ไปด้วยกัน