ศูนย์ข่าวศรีราชา – นายกเมืองพัทยา ยันไม่นิ่งนอนใจหลังวิกฤตโควิด-19 ทำสถานการณ์ท่องเที่ยวตกต่ำจนผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เร่งประสานกระทรวงมหาดไทย-สำนักงานประกันสังคม หามาตรการเยียวยาทุกระดับ
จากกรณีที่ 8 องค์กรธุรกิจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้ยื่น 6 ข้อเสนอเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล กำหนดมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกที่ 2 จนทำเมืองท่องเที่ยวใหญ่อย่างพัทยากลายเป็นเมืองร้าง โดยได้มีการระบุต้นตอของการระบาดครั้งใหม่ว่าไม่ใช่เพราะเหตุสุดวิสัย แต่เกิดจากรัฐบาลที่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่คอร์รัปชัน ทั้งรู้เห็นเรื่องการเปิดบ่อนพนัน และขบวนการขนแรงงานเถื่อนจนเกิดการกระจายเชื้อครั้งรุนแรง
ที่สำคัญยังทำให้ผู้ประกอบการเกือบทุกประเภทในเมืองพัทยา ไม่สามารถประกอบกิจการต่อไปได้และต้องปิดกิจการไปแล้ว
กว่า 80% จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่กลายเป็นศูนย์ และสุดท้ายหากรัฐบาลยังไม่มีมาตรการเยียวยาที่ชัดเจนก็อาจทำตัวเป็น“เด็กดื้อ”ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเอาตัวรอดนั้น
วันนี้ (12 ม.ค.) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า เมืองพัทยา ไม่นิ่งนอนใจนับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบแรกและปัจจุบันยังได้ร่วมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานประกันสังคม เพื่อหา มาตรการที่สามารถนำมาปรับใช้สำหรับช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับเดือดร้อน
โดยเน้นการดูแลผู้ได้รับผลกระทบในทุกทุกระดับชั้นแม้จะอยู่ใน 8 องค์กรภาคธุรกิจดัหรือไม่ก็ตาม
“ ในอีก 1-2 วันนี้เมืองพัทยา จะเชิญตัวแทนจากสำนักงานประกันสังคมเข้า ร่วมหารือว่าจะสามารถดูแลผู้ได้รับผลกระทบได้อย่างไร ทำได้ขนาดไหน และกฎหมายสามารถทำได้เช่นไร ซึ่งที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้แถลงถึงแนวทางการกำหนดมาตรการเยียวยาไปแล้ว ซึ่งการประชุม ครม.นัดล่าสุดน่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น”
นายสนธยา ยังกล่าวถึงกรณีที่ภาคเอกชนได้มีข้อเสนอให้ภาครัฐออกคำสั่งให้ปิดกิจการโรงแรมเพื่อที่จะได้รับเงินชดเชยประกันสังคม เป็นเรื่องที่ต้องหารือและขอรับความเห็นชอบเช่นเดียวกับการดำเนินมาตรการเยียวยาในครั้งแรก ที่เมืองพัทยา ได้เสนอให้มีสั่งปิดกิจการเพื่อขอรับการเยียวยามาแล้ว เพียงแต่จะต้องมีปัจจัยภายนอกมาสนับสนุนด้วย ยกตัวอย่างเช่นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและปัญหาในภาพรวมของประเทศ