ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ ฉีดยาฆ่าเชื้อโควิดวินรถตู้หนองจอก-บางกะปิ ขอรัฐเยียวยาผู้ประกอบการ

ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ ลุยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 วินรถตู้หนองจอก-บางกะปิ สร้างความเชื่อมั่น ปชช. ยืนยันใช้บริการได้ตามปกติ พร้อมขอรัฐช่วยเยียวยาผู้ประกอบการรถสาธารณะ เพราะต้องแบกภาระค่าผ่อนรถและดูแลครอบครัว

วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ท่าจอดรถตู้โดยสารหนองจอก-บางกะปิ นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม.เขตหนองจอก และ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ภายในรถตู้โดยสารและบริเวณท่าจอดรถ พร้อมมอบหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ให้กับผู้ประกอบการรถตู้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนผู้ใช้บริการ หลังปรากฏมีไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใช้บริการ ทำให้ผู้ประกอบการรถตู้ได้รับผลกระทบ

นายศิริพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงปลายปี 2563 มีผู้โดยสารที่ใช้บริการรถตู้จากหนองจอกไปบางกะปิติดเชื้อโควิด-19 ทางสาธารณสุขจึงได้เข้าตรวจหาเชื้อคนขับทุกคน ผลไม่พบเชื้อ นอกจากนี้ ยังได้ทำการฆ่าเชื้อบริเวณท่าจอด และรถตู้โดยสารทุกคัน เพื่อให้ผู้โดยสารมั่นใจ แต่จากการลงพื้นที่สอบถามคนขับและประชาชนในพื้นที่ก็ยังขาดความมั่นใจและกังวล ตนจึงอยากประชาสัมพันธ์ยืนยันว่า รถตู้วินบางกะปิ-หนองจอก-สุขาภิบาล 3 ได้ทำการฆ่าเชื้อแล้ว มีความปลอดภัยจากโควิด-19 จึงขอให้ประชาชนผู้ที่จะใช้บริการมั่นใจได้ เพราะตนเองลองใช้บริการมาแล้ว รถตู้ทุกคันปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด คนขับใส่หน้ากากอนามัยและเปลี่ยนหน้ากากวันละ 2 ครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจ มีการเว้นระยะห่างของที่นั่งภายในรถ ตรวจวัดอุณหภูมิ และให้ผู้โดยสารทุกคนสแกนไทยชนะ

“เห็นใจผู้ประกอบการ เพราะผู้โดยสารลดลงกว่า 50% ส่งผลต่อรายได้ ที่ต้องนำไปจ่ายค่างวดรถ และค่าดำรงชีวิตในแต่ละวัน เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าในบริเวณใกล้เคียงก็ขายของได้น้อยลง เพราะไม่ค่อยมีผู้โดยสาร ดังนั้น วันนี้จึงมาสร้างความมั่นใจว่า รถตู้สายบางกะปิ-หนองจอก-สุขาภิบาล 3 ปลอดภัยและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขทุกประการ” นายศิริพงษ์ กล่าว

ด้าน น.ส.ฐิติภัสร์ ยอมรับว่า หลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลต่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชนทั้งในเขตหนองจอกและบางกะปิ วันนี้เราจึงอยากมาสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน ว่า ทางผู้ประกอบการเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค ขณะเดียวกัน อยากให้กรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ให้ความรู้กับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะที่คอยให้บริการประชาชาชน เพราะพี่น้องประชาชนต้องใช้บริการในการไปทำงาน ทำธุระ และมาช่วยสนับสนุนในเรื่องของการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค

“ฝากรัฐบาลในเรื่องของการเยียวยาให้แก่ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างแน่นอน มีทั้งภาระในการดูแลครอบครัวและค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถด้วย” น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าว