กลุ่มตัวแทนมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ,เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย , เครือข่ายนักปกป้องสิทธิมนุษยชนของชนเผ่าพื้นเมือง ,เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี ,เครือข่ายการจัดการสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง และสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน 6 องค์กร เดินทางมาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อยื่นหนังสือขอให้พักราชการ หรือสั่งให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และพวกออกจากราชการไว้ก่อน หวั่นเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนคดีฆาตกรรม นายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) แกนน้ำชาวบ้านกะเหรียง บ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เปิดเผยคดีฆาตกรรมนายพอละจี ว่า เมื่อได้พิจารณาพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ และได้มอบหมายพนักงานสอบสวนเดินทางไปยังศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับกุม นายชัยวัฒน์ และพวก รวม 4 คน โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้อนุมัติหมายจับแล้วในข้อหาจำนวน 5 ข้อหา เกี่ยวข้องอาชญากรรมที่ร้ายแรงต่อนายหอละซี ที่หายตัวไป เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 ภายหลังการถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ และหายไปเป็นเวลากว่า 5 ปี ซึ่งต่อมานายชัยวัฒน์ และพวก ได้มอบตัวต่อพนักงานสอบสวน แสะศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้วคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของดีเอสไอนั้น
ทั้งนี้ ทาง 6 องค์กรขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการดังนี้ 1. ขอเรียกร้องให้หน่วยงานต้นสังกัด คือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้พิจารณาและมีคำสั่งให้พักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อนกับนายชัยวัฒน์ และพวก ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน 2535 ประกอบกฎ กพ. ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2538 ข้อ 3 ที่ระบุว่า ข้าราชการพลเรือนที่ได้ถูกกล่าวหาหรือถูกฟ้องคดีอาญาหรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา เว้นแต่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ทั้งนี้เพราะแม้ปัจจุบันนายชัยวัฒน์ จะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่แก่งกระจาน อันเป็นพื้นที่เกิดเหตุ แต่ก็เป็นถึงผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) มีอำนาจในการสั่งการใดๆ ในทางที่อาจจะกระทบต่อการสอบสวนได้ และเพื่อป้องกันมิให้ใช้อิทธิพลในการแทรกแซงคดี และหากพบว่ามีกระทำผิดตามฟ้องของกรมสอบสวนคดีพิเศษต้องถูกลงโทษทางวินัยและทางอาญาตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานราชการ
2.ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการปกป้อง คุ้มครอง และให้ความช่วยเหลือพยาน โดยเฉพาะกับครอบครัวของบิลลี่ ให้พ้นจาการข่มขู่คุกคามจากอิทธิพลใดๆทั้งสิ้น
3.ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไปโดยสุจริต เพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงานของพนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับการยื่นหนังสือดังกล่าวได้มีนายมนต์สังข์ ภู่ศิริวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี มาเป็นผู้รับมอบและส่งเรื่องตามลำดับชั้น เมื่อมีผลความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป