ผู้จัดการรายวัน360-อธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมชุดสอบสวนคดีฆาตกรรม "บิลลี่" ก่อนขอศาลอนุมัติหมายจับ "ชัยวัฒน์" อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวกรวม 4 ราย ล่าสุดอนุมัติหมายจับ 8 ข้อหาหนัก "มึนอ" ภรรยาบิลลี่ ยื่นรมว.ยุติธรรม ขอให้ "กรวัชร์" ทำคดีต่อ ลั่นคนผิดถ้ากล้าทำ ต้องกล้ารับ ด้านชัยวัฒน์โผล่รับ "บิ๊กป้อม" ยันไม่หนี พร้อมทำตามกระบวนการยุติธรรม ขออย่าสร้างกระแส ทส. ยันไม่ย้าย ปล่อยให้สู้คดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11 พ.ย.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เรียกประชุมหารือชุดพนักงานสอบสวนคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำนักปกป้องมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยได้พิจารณาพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ และได้มอบหมายพนักงานสอบสวนเดินทางไปยังศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับกุม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และพวก รวม 4 ราย
ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติหมายจับ นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1 , นายบุญแทน บุษราคำ ผู้ต้องหาที่ 2 , นายธนเสฏฐ์ หรือนายไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 ใน 8 ข้อหาหนัก ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง , ร่วมกันมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่น , ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดี , ร่วมกันเบียดบังทรัพย์เป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต , ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวระหว่างลงพื้นที่ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก อ.ดำเนินสะดวก ถึงกรณีที่ดีเอสไอเตรียมขอหมายจับว่า ได้รับรายงานแล้ว เป็นเรื่องของคดีก็ว่ากันไป
ที่อาคารจิตรภักดี วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี อ.เมืองฯ จ.ราชบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และน.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ ภรรยาของนายพอละจี เพื่อขอให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดี ดีเอสไอ เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนคดี
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่อง 3 ประเด็น คือ 1.ขอให้พ.ต.ท.กรวัชร์ ทำคดีต่อจนถึงส่งฟ้องศาล เพราะเป็นหัวหน้าชุดคดีบิลลี่มากว่า 5 ปี 2.เสนอร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดยเร็ว และ 3.เร่งดำเนินมาตรการในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน
ด้าน น.ส.พิณนภา กล่าวว่า ขอบคุณดีเอสไอที่ติดตามคดีจนนำไปสู่การออกหมายจับ 4 คน อยากให้ยอมรับผิดและขอโทษต่อสังคม เพราะคดีดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของครอบครัว ซึ่งเมื่อก่อนตนรู้สึกไม่มีเป้าหมายในการติดตามคดี ส่วนการยื่นเรื่องวันนี้ ขอให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนจนคดีถึงที่สิ้นสุด
ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวตอบว่า พ.ต.ท.กรวัชร์จะทำงานเสร็จทันตามที่รับปากไว้ 3 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 2 ธ.ค.นี้ และอาจจะเสร็จก่อนกำหนด โดยตอนนี้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ยังเป็นรองอธิบดี ดีเอสไอ เมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ จึงจะขาดจากตำแหน่งเดิม ถือว่ายังดูแลคดีอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้สบายใจได้ และคดีนี้ ทำงานเสร็จไปแล้ว 99% คดีถึงขั้นขออนุมัติหมายจับจากศาลแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ ระหว่างที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจเยี่ยมอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ปรากฎว่า นายชัยวัฒน์ ได้เดินทางมาต้อนรับด้วย และยังมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่อื่นๆ ตามปกติ พร้อมระบุว่า การออกหมายจับ เห็นมีเพียงข่าว ตนไม่ได้หนีไปไหน แต่จริงๆ ใช้หมายเรียกก็ได้ ตนมีที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่เมื่อออกหมายจับ ก็ยินดีไปให้ความร่วมมือ และทำตามกระบวนการยุติธรรม ขออย่าสร้างกระแส เพราะไม่ได้ทำและไม่รู้เรื่อง ขอให้ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม หลักฐานชัดเจนแค่ไหน ก็ให้ว่าไปตามนั้น ไม่อยากให้ที่อะไรที่เป็นเท็จ หรือถูกสร้างขึ้นมา
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงฯ ต้องรอคำสั่งศาลว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร น้อมรับคำสั่งศาล ส่วนคดี ก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย หน่วยงานก็ต้องให้ไปสู้คดีในชั้นศาล หากศาลมีคำตัดสินอย่างไร ก็น้อมรับ ไม่ปกป้องคนผิด
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ต้องปล่อยให้นายชัยวัฒน์ต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องการทำงาน จะให้ทำงานตามปกติ ไม่มีการย้ายใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11 พ.ย.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เรียกประชุมหารือชุดพนักงานสอบสวนคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำนักปกป้องมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยได้พิจารณาพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ และได้มอบหมายพนักงานสอบสวนเดินทางไปยังศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับกุม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และพวก รวม 4 ราย
ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติหมายจับ นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1 , นายบุญแทน บุษราคำ ผู้ต้องหาที่ 2 , นายธนเสฏฐ์ หรือนายไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 ใน 8 ข้อหาหนัก ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง , ร่วมกันมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่น , ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดี , ร่วมกันเบียดบังทรัพย์เป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต , ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวระหว่างลงพื้นที่ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก อ.ดำเนินสะดวก ถึงกรณีที่ดีเอสไอเตรียมขอหมายจับว่า ได้รับรายงานแล้ว เป็นเรื่องของคดีก็ว่ากันไป
ที่อาคารจิตรภักดี วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี อ.เมืองฯ จ.ราชบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และน.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ ภรรยาของนายพอละจี เพื่อขอให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดี ดีเอสไอ เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนคดี
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่อง 3 ประเด็น คือ 1.ขอให้พ.ต.ท.กรวัชร์ ทำคดีต่อจนถึงส่งฟ้องศาล เพราะเป็นหัวหน้าชุดคดีบิลลี่มากว่า 5 ปี 2.เสนอร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดยเร็ว และ 3.เร่งดำเนินมาตรการในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน
ด้าน น.ส.พิณนภา กล่าวว่า ขอบคุณดีเอสไอที่ติดตามคดีจนนำไปสู่การออกหมายจับ 4 คน อยากให้ยอมรับผิดและขอโทษต่อสังคม เพราะคดีดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของครอบครัว ซึ่งเมื่อก่อนตนรู้สึกไม่มีเป้าหมายในการติดตามคดี ส่วนการยื่นเรื่องวันนี้ ขอให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนจนคดีถึงที่สิ้นสุด
ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวตอบว่า พ.ต.ท.กรวัชร์จะทำงานเสร็จทันตามที่รับปากไว้ 3 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 2 ธ.ค.นี้ และอาจจะเสร็จก่อนกำหนด โดยตอนนี้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ยังเป็นรองอธิบดี ดีเอสไอ เมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ จึงจะขาดจากตำแหน่งเดิม ถือว่ายังดูแลคดีอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้สบายใจได้ และคดีนี้ ทำงานเสร็จไปแล้ว 99% คดีถึงขั้นขออนุมัติหมายจับจากศาลแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ ระหว่างที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจเยี่ยมอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ปรากฎว่า นายชัยวัฒน์ ได้เดินทางมาต้อนรับด้วย และยังมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่อื่นๆ ตามปกติ พร้อมระบุว่า การออกหมายจับ เห็นมีเพียงข่าว ตนไม่ได้หนีไปไหน แต่จริงๆ ใช้หมายเรียกก็ได้ ตนมีที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่เมื่อออกหมายจับ ก็ยินดีไปให้ความร่วมมือ และทำตามกระบวนการยุติธรรม ขออย่าสร้างกระแส เพราะไม่ได้ทำและไม่รู้เรื่อง ขอให้ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม หลักฐานชัดเจนแค่ไหน ก็ให้ว่าไปตามนั้น ไม่อยากให้ที่อะไรที่เป็นเท็จ หรือถูกสร้างขึ้นมา
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงฯ ต้องรอคำสั่งศาลว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร น้อมรับคำสั่งศาล ส่วนคดี ก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย หน่วยงานก็ต้องให้ไปสู้คดีในชั้นศาล หากศาลมีคำตัดสินอย่างไร ก็น้อมรับ ไม่ปกป้องคนผิด
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ต้องปล่อยให้นายชัยวัฒน์ต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องการทำงาน จะให้ทำงานตามปกติ ไม่มีการย้ายใดๆ ทั้งสิ้น