ผู้จัดการรายวัน360- "ชัยวัฒน์" พร้อมพวกเข้ามอบตัวคดีฆ่า "บิลลี่" ด้านอธิบดีดีเอสไอ ยันมีพยาน หลักฐานเชื่อมโยงมัดผู้ต้องหาแน่น รมว.ยุติธรรม เชื่อดีเอสไอ มีพยาน “บิ๊กตู่” ลั่นไม่ช่วยเหลือใครทั้งสิ้น 'ดีเอสไอ'บุกแก่งกระจาน ค้นไร่'ชัยวัฒน์'หาหลักฐาน ล่าสุดรอดนอนคุก ศาลให้ประกัน
วานนี้ (12 พ.ย.62) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุบลราชธานี อดีตหัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน เดินทางเข้ามอบตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติชอบกลาง ออกหมายจับนายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 4 คน ด้วยข้อหาหนักหลายข้อหา รวมถึงข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนในคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
"วันนี้ชีวิตข้าราชการผมต้องมายืนอยู่แบบนี้ ทั้งๆ ที่พวกผมเป็นผู้พิทักษ์ป่า รักษาป่ามาตลอดชีวิต ทุ่มเทชีวิต ร่างกาย และจิตใจเพื่อแผ่นดิน แต่กระแสข่าวที่ออกมาพวกผมเป็นจำเลยสังคมโดยเฉพาะโลกโซเชียลฯ ทำกันแบบนี้ให้ความเป็นธรรมกับพวกผมแค่ไหน" นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ ยืนยันว่า พร้อมจะสู้คดีและไม่หลบหนีไปไหน และยินดีที่จะเปิดเผยทุกเรื่อง หลังได้เห็นหลักฐานที่ใช้แจ้งข้อกล่าวหาตนของ ดีเอสไอ พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงความเร่งรีบของคดีว่าผ่านไป 6 เดือน ก็มีพยานหลักฐานครบถ้วนทั้งหมด
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า วานนี้ นายชัยวัตน์ พร้อมพวก 4 รายเดินทางเข้ามอบตัวหลังทางดีเอสไอขอศาลอนุมัติหมายจับ และอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งทางดีเอสไอดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาตลอด ทั้งพยานบุคคลที่สอบไปแล้วกว่า 100 ปาก พยานนิติวิทยาศาสตร์ พยานวัตถุ ภาพจากกล้องวงจรปิด พยานหลักฐานทางเทคนิค และบันทึกการใช้โทรศัพท์ รวมทั้ง สำนวนคดีจาก ปปท. พบว่า นายชัยวัฒน์ มีการจับกุมนายบิลลี่ไปแต่ไม่มีหลักฐานในการปล่อยตัว และนายบิลลี่ได้หายตัวไป
"นอกจากนี้ นายชัยวัตน์ ยังมีข้อพิพาท กับกลุ่มกะเหรี่ยงในพื้นที่ และเป็นคู่กรณีขัดแย้งกันมาตลอด สำหรับประเด็นการสอบสวนจะเน้นการเชื่อมโยงหลักฐานที่มีทั้งหมด ส่วนจะมีการออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ใดอีกหรือไม่ต้องดูพยานหลักฐาน ขอยืนยันดีเอสไอ ไม่ได้กลั่นแกล้งผู้ใดแต่ทำตามขั้นตอนและพยานหลักฐานที่มี"
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การดำเนินการก็ไปตามกระบวนการยุติธรรมที่มีการออกหมายจับ หมายค้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายชัยวัฒน์ ถูกออกหมายจับแล้ว ต้องระงับการปฏิบัติหน้าที่ หรือออกจากราชการก่อน หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากถูกออกหมายจับ บุคคลนั้นต้องมอบตัว หรือ ดีเอสไอ เข้าไปจับกุม ส่วนเรื่องการควบคุมตัวนั้นอยู่ที่ศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่
สำหรับรายละเอียดของคดีนั้นตนไม่ทราบ แต่เมื่อศาลออกหมายจับ ก็แสดงว่ามีมูล และพยานหลักฐานต่างๆ ที่ ดีเอสไอมีอยู่ก็มีความรัดกุม
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า เมื่อนายชัยวัฒน์ ได้เข้ามอบตัวแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และนายชัยวัฒน์ ก็ไม่ได้เข้ามาพูดคุยอะไรกับตนเป็นพิเศษ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของดีเอสไอ ที่ไปออกหมายจับไปขอกับศาล เป็นเรื่องของศาลที่จะพิจารณา และดำเนินการต่างๆ ตนคงไปสั่งการในเรื่องของกฎหมายไม่ได้
ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้นำหมายค้นจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เข้าตรวจค้น ไร่ชัยราชพฤกษ์ ตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเชื่อว่าเป็นของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมีนายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษร พี่ชายนายชัยวัฒน์นำตรวจค้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง พนักงานสอบสวน DSI และ น.ส.พิณนภา หรือมึนอ พฤษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจแทนบุตรสาวโดยชอบธรรม ยื่นคำร้องคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ ร่วมรับฟังการพิจารณาคำร้องฝากขัง ซึ่งศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านกระบวนการขอฝากขัง ศาลพิจารณาคำร้องแล้วจึงอนุญาตได้ ส่วนที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด คนละ 500,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้ ต่อมาศาลได้มีคำสั่งเรื่องการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยพิจารณา คำร้องขอปล่อยชั่วคราวและหลักทรัพย์ที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยื่นซึ่งเป็นเงินสดแล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดยตีราคาประกันคนละ 800,000 บาท
วานนี้ (12 พ.ย.62) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุบลราชธานี อดีตหัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน เดินทางเข้ามอบตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติชอบกลาง ออกหมายจับนายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 4 คน ด้วยข้อหาหนักหลายข้อหา รวมถึงข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนในคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
"วันนี้ชีวิตข้าราชการผมต้องมายืนอยู่แบบนี้ ทั้งๆ ที่พวกผมเป็นผู้พิทักษ์ป่า รักษาป่ามาตลอดชีวิต ทุ่มเทชีวิต ร่างกาย และจิตใจเพื่อแผ่นดิน แต่กระแสข่าวที่ออกมาพวกผมเป็นจำเลยสังคมโดยเฉพาะโลกโซเชียลฯ ทำกันแบบนี้ให้ความเป็นธรรมกับพวกผมแค่ไหน" นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ ยืนยันว่า พร้อมจะสู้คดีและไม่หลบหนีไปไหน และยินดีที่จะเปิดเผยทุกเรื่อง หลังได้เห็นหลักฐานที่ใช้แจ้งข้อกล่าวหาตนของ ดีเอสไอ พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงความเร่งรีบของคดีว่าผ่านไป 6 เดือน ก็มีพยานหลักฐานครบถ้วนทั้งหมด
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า วานนี้ นายชัยวัตน์ พร้อมพวก 4 รายเดินทางเข้ามอบตัวหลังทางดีเอสไอขอศาลอนุมัติหมายจับ และอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งทางดีเอสไอดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาตลอด ทั้งพยานบุคคลที่สอบไปแล้วกว่า 100 ปาก พยานนิติวิทยาศาสตร์ พยานวัตถุ ภาพจากกล้องวงจรปิด พยานหลักฐานทางเทคนิค และบันทึกการใช้โทรศัพท์ รวมทั้ง สำนวนคดีจาก ปปท. พบว่า นายชัยวัฒน์ มีการจับกุมนายบิลลี่ไปแต่ไม่มีหลักฐานในการปล่อยตัว และนายบิลลี่ได้หายตัวไป
"นอกจากนี้ นายชัยวัตน์ ยังมีข้อพิพาท กับกลุ่มกะเหรี่ยงในพื้นที่ และเป็นคู่กรณีขัดแย้งกันมาตลอด สำหรับประเด็นการสอบสวนจะเน้นการเชื่อมโยงหลักฐานที่มีทั้งหมด ส่วนจะมีการออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ใดอีกหรือไม่ต้องดูพยานหลักฐาน ขอยืนยันดีเอสไอ ไม่ได้กลั่นแกล้งผู้ใดแต่ทำตามขั้นตอนและพยานหลักฐานที่มี"
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การดำเนินการก็ไปตามกระบวนการยุติธรรมที่มีการออกหมายจับ หมายค้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายชัยวัฒน์ ถูกออกหมายจับแล้ว ต้องระงับการปฏิบัติหน้าที่ หรือออกจากราชการก่อน หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากถูกออกหมายจับ บุคคลนั้นต้องมอบตัว หรือ ดีเอสไอ เข้าไปจับกุม ส่วนเรื่องการควบคุมตัวนั้นอยู่ที่ศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่
สำหรับรายละเอียดของคดีนั้นตนไม่ทราบ แต่เมื่อศาลออกหมายจับ ก็แสดงว่ามีมูล และพยานหลักฐานต่างๆ ที่ ดีเอสไอมีอยู่ก็มีความรัดกุม
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า เมื่อนายชัยวัฒน์ ได้เข้ามอบตัวแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และนายชัยวัฒน์ ก็ไม่ได้เข้ามาพูดคุยอะไรกับตนเป็นพิเศษ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของดีเอสไอ ที่ไปออกหมายจับไปขอกับศาล เป็นเรื่องของศาลที่จะพิจารณา และดำเนินการต่างๆ ตนคงไปสั่งการในเรื่องของกฎหมายไม่ได้
ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้นำหมายค้นจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เข้าตรวจค้น ไร่ชัยราชพฤกษ์ ตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเชื่อว่าเป็นของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมีนายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษร พี่ชายนายชัยวัฒน์นำตรวจค้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง พนักงานสอบสวน DSI และ น.ส.พิณนภา หรือมึนอ พฤษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจแทนบุตรสาวโดยชอบธรรม ยื่นคำร้องคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ ร่วมรับฟังการพิจารณาคำร้องฝากขัง ซึ่งศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านกระบวนการขอฝากขัง ศาลพิจารณาคำร้องแล้วจึงอนุญาตได้ ส่วนที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด คนละ 500,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้ ต่อมาศาลได้มีคำสั่งเรื่องการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยพิจารณา คำร้องขอปล่อยชั่วคราวและหลักทรัพย์ที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยื่นซึ่งเป็นเงินสดแล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดยตีราคาประกันคนละ 800,000 บาท
