MGR Online - “ชัยวัฒน์” พร้อมพวกมอบตัว หลังถูกออกหมายจับคดี “บิลลี่” ถูกฆ่า กังขาดีเอสไอเร่งทำคดี แถมเสนอให้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ออกหมายจับทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ทั้งที่ไม่ใช่ศาลอาญา พร้อมฉะสื่อสร้างเรื่องทำให้เสียหายกลายเป็นผู้ร้าย ลั่นในฐานะผู้พิทักษ์ป่าไม้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการใหญ่แค่ไหนจะสอยให้ร่วงทุกรายแน่นอน ด้านอธิบดีดีเอสไอยันมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมัดผู้ต้องหาแน่น
วันนี้ (12 พ.ย.) เวลา 10.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมด้วย นายบุญแทน บุษราคำ, นายธนเสฏฐ์ หรือนายไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหา 1-4 ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเข้ามอบตัว โดยเจ้าหน้าที่นำหมายจับมาแจ้งกับผู้ต้องหาทั้ง 4 แล้วนำตัวขึ้นไปยังห้องสอบสวนทันที
นายชัยวัฒน์เปิดเผยก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า วันนี้จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดูหลักฐานว่ามีอะไรบ้างถึงเร่งรีบสอบสวนภายใน 6 เดือน เพื่อขอศาลอาญาคดีทุจริตออกหมายจับในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิต ทั้งๆ ที่ศาลอาญาทุจริตฯ ชื่อก็บอกอยู่ว่ามีอำนาจสอบสวนคดีทุจริต ไม่ใช่คดีอาญา ทั้งนี้ หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนได้เห็นหลักฐานดีเอ็นเอและหัวกะโหลก ตนจะเปิดเผยทุกเรื่องว่าเป็นอย่างไร
“ผมและลูกน้องพร้อมจะสู้ ไม่คิดหนีไปไหน เพราะครอบครัวทุกคนอยู่ที่นี่ ผมเป็นข้าราชการรักเกียรติ รักศักดิ์ศรี จะให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ ผมกับลูกน้องทุ่มเทรักษาป่ามาตลอดชีวิต รักสถาบัน แต่ต้องมายืนอยู่ตรงนี้เพราะข่าวที่สื่อสร้างเรื่องราวทำให้ผมได้รับความเสียหาย ทุกคนยังไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ ข่าวที่นำเสนอออกไปทำให้ผม ครอบครัว และสถาบัน กลายเป็นผู้ร้ายในโลกโซเซียลฯ ผมในฐานะผู้พิทักษ์ป่าไม้ ไม่ว่าจะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ใหญ่แค่ไหน ถ้าผมยังยืนอยู่ ผมสอยร่วงทุกคนแน่นอน” นายชัยวัฒน์กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า วันนี้นายชัยวัตน์พร้อมพวก 4 รายเดินทางเข้ามอบตัวหลังทางดีเอสไอขอศาลอนุมัติหมายจับ และอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยทางดีเอสไอดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาตลอด ทั้งพยานบุคคลที่สอบไปแล้วกว่า 100 ปาก พยานนิติวิทยาศาสตร์ พยานวัตถุ ภาพจากกล้องวงจรปิด พยานหลักฐานทางเทคนิค และบันทึกการใช้โทรศัพท์ รวมทั้งสำนวนคดีจาก ป.ป.ท. พบว่านายชัยวัฒน์มีการจับกุมนายบิลลี่ไป แต่ไม่มีหลักฐานในการปล่อยตัว และนายบิลลี่ได้หายตัวไป
“นอกจากนี้ นายชัยวัตน์ยังมีข้อพิพาทกับกลุ่มกะเหรี่ยงในพื้นที่ และเป็นคู่กรณีขัดแย้งกันมาตลอด ทั้งปัญหาที่อยู่อาศัย ปัญหาผู้นำชุมชนที่ถูกยิง และยังมีข้อมูลจากศาลปกครองที่มีคำสั่งให้ชดใช้บ้านเสียหายกะเหรี่ยงที่ถูกเผา สำหรับประเด็นการสอบสวนจะเน้นการเชื่อมโยงหลักฐานที่มีทั้งหมด แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ส่วนจะมีการออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ใดอีกหรือไม่ต้องดูพยานหลักฐาน ขอยืนยันว่าดีเอสไอไม่ได้กลั่นแกล้งผู้ใด แต่เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนและพยานหลักฐานที่มี”
ต่อมาเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมพวกรวม 4 ราย นัดมอบตัวพนักงานสอบสวนตามหมายจับและได้แจ้งข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาไม่ได้ใช้สิทธิขอยื่นปล่อยตัวชั่วคราวจึงต้องนำตัวไปฝากขังศาลระหว่างสอบสวนพร้อมคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาจะยื่นประกันตัวให้ศาลเป็นผู้พิจารณา นอกจากนี้ ผู้ต้องหาได้กระทำผิดต่อหน้าที่ราชการ ตาม ม.157 จึงต้องขออนุมัติหมายจับศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแม้จะเป็นคดีอาญา
“ส่วนการออกหมายเรียก หรือหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มเติมจะต้องสอบปากคำผู้ต้องหาให้ครบถ้วนก่อน อีกทั้งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจุดใน จ.เพชรบุรี เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมแต่ยังไม่ทราบรายละเอียด” พ.ต.ท.ปกรณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนใช้เวลาในการสอบปากคำนายชัยวัฒน์พร้อมพวก ประมาณ 4 ชั่วโมง ก่อนควบคุมตัวขึ้นรถตู้ 2 คัน ไปขออำนาจศาลฯ ฝากขังผัดแรก โดยนายชัยวัฒน์กับพวกมีสีหน้าเรียบเฉย ยกมือไหว้ บอกเพียงสั้นๆ ว่าจะไปขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล