นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการวิจัย 10 อันดับธุรกิจเด่นปี 2560 จากปัจจัยด้านยอดขาย ต้นทุน กำไรสุทธิ ความนิยม และความสามารถในการรับปัจจัยเสี่ยง จากคะแนนรวม 100 คะแนน พบว่า ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงามได้ถึง 94.1 คะแนน ยังคงอยู่อันดับ 1 มา 6 ปี ติดต่อกัน เนื่องจากกระแสการให้ความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพ และดูแลความงามยังมีอยู่ต่อเนื่อง ประกอบกับการบริการทางการแพทย์และความงามของไทยมีคุณภาพดีราคาไม่แพงได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่นเดียวกับธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวได้ 92.2 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 2 จากอันดับ 3 ในปีที่แล้ว เนื่องจากพฤติกรรมการดูแลรักษาผิวพรรณของทุกช่วงอายุเพิ่มขึ้นอย่างมาก
อันดับ 3 ธุรกิจอีคอมเมอร์ซ 91.1 คะแนน จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ทำให้เลือกซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนช่องทางการขายสินค้าเพิ่มขึ้น
อันดับ 4 เป็นธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอันดับ 5 ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง รองรับโครงการลงทุนภาครัฐ และที่เหลืออีก 5 อันดับ เป็นธุรกิจขนส่งและลอจิสติกส์ ธุรกิจบริการทางการเงิน ธุรกิจโมเดิร์นเทรด ประกันภัย และออแกไนซ์ ธุรกิจซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจการศึกษา และอันดับที่ 10 ธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชี ตามลำดับ
อันดับ 3 ธุรกิจอีคอมเมอร์ซ 91.1 คะแนน จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ทำให้เลือกซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนช่องทางการขายสินค้าเพิ่มขึ้น
อันดับ 4 เป็นธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอันดับ 5 ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง รองรับโครงการลงทุนภาครัฐ และที่เหลืออีก 5 อันดับ เป็นธุรกิจขนส่งและลอจิสติกส์ ธุรกิจบริการทางการเงิน ธุรกิจโมเดิร์นเทรด ประกันภัย และออแกไนซ์ ธุรกิจซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจการศึกษา และอันดับที่ 10 ธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชี ตามลำดับ