นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) 2 รายการ คือ เนื้อโคขุนโพนยางคำ จ.สกลนคร และปลากุเลาเค็มตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้ปัจจุบันมีสินค้าไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น GI แล้ว 71 สินค้า จาก 51 จังหวัด และกรมทรัพย์สินทางปัญญาอยู่ระหว่างพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียน GI จาก 16 จังหวัด ยังเหลืออีก 10 จังหวัดที่ยังไม่มีการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะเร่งส่งเสริมสร้างความเข้าใจกับจังหวัดที่เหลือต่อไป
สำหรับสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เป็นสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตเฉพาะเจาะจง โดยคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้าจะมีความเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ที่มีการผลิตสินค้านั้น ไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ อากาศ และภูมิปัญญาของชุมชนในท้องถิ่น ส่งผลให้แตกต่างจากสินค้าประเภทเดียวกันที่ผลิตในแหล่งอื่น ซึ่งจุดเด่นนี้และการได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI จะช่วยสร้างความมั่นใจผู้บริโภคว่าเป็นสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตแท้จริง เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า GI และส่งเสริมเศรษฐกิจของท้องถิ่นแหล่งกำเนิดสินค้า
ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาพร้อมเร่งส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสินค้า GI อย่างน้อย 1 สินค้าต่อ 1 จังหวัด ตั้งเป้าให้ครบ 77 จังหวัด ภายในปี 2560 โดยปี 2559-2560 มีแผนที่จะลงพื้นที่ใน 10 จังหวัดที่ยังไม่มีการขึ้นทะเบียน GI หรือยื่นคำขอเพื่อขึ้นทะเบียน GI ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ กาญจนบุรี ระนอง สตูล สมุทรสาคร สระแก้ว สิงห์บุรี นครสวรรค์ และกำแพงเพชร
ขณะที่สินค้าที่มีการขึ้นทะเบียน GI แล้วมีแผนที่จะส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นให้ดีขึ้น ส่งเสริมการตลาดสินค้า GI ไทย และสร้างการรับรู้คุณภาพและชื่อเสียงของสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อให้สินค้า GI ไทยสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงขึ้น เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและท้องถิ่น และยังเป็นการบ่งชี้ให้เห็นความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ส่งผลดีกับสินค้าของไทยอีกด้วย
สำหรับสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เป็นสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตเฉพาะเจาะจง โดยคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้าจะมีความเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ที่มีการผลิตสินค้านั้น ไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ อากาศ และภูมิปัญญาของชุมชนในท้องถิ่น ส่งผลให้แตกต่างจากสินค้าประเภทเดียวกันที่ผลิตในแหล่งอื่น ซึ่งจุดเด่นนี้และการได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI จะช่วยสร้างความมั่นใจผู้บริโภคว่าเป็นสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตแท้จริง เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า GI และส่งเสริมเศรษฐกิจของท้องถิ่นแหล่งกำเนิดสินค้า
ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาพร้อมเร่งส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสินค้า GI อย่างน้อย 1 สินค้าต่อ 1 จังหวัด ตั้งเป้าให้ครบ 77 จังหวัด ภายในปี 2560 โดยปี 2559-2560 มีแผนที่จะลงพื้นที่ใน 10 จังหวัดที่ยังไม่มีการขึ้นทะเบียน GI หรือยื่นคำขอเพื่อขึ้นทะเบียน GI ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ กาญจนบุรี ระนอง สตูล สมุทรสาคร สระแก้ว สิงห์บุรี นครสวรรค์ และกำแพงเพชร
ขณะที่สินค้าที่มีการขึ้นทะเบียน GI แล้วมีแผนที่จะส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นให้ดีขึ้น ส่งเสริมการตลาดสินค้า GI ไทย และสร้างการรับรู้คุณภาพและชื่อเสียงของสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อให้สินค้า GI ไทยสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงขึ้น เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและท้องถิ่น และยังเป็นการบ่งชี้ให้เห็นความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ส่งผลดีกับสินค้าของไทยอีกด้วย