นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เนื่องในวาระครบรอบ 96 ปี ของการสถาปนากระทรวงพาณิชย์ ในวันที่ 20 สิงหาคม ศกนี้ จึงถือเป็นโอกาสดีในการประกาศนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ช่วงต่อไป ซึ่งจะมุ่งเน้นวิสัยทัศน์ "ฉับไว โปร่งใส มองไกล ใกล้ชิดประชาชน" โดยจะพัฒนาเทคโนโลยีและระบบการทำงาน ปรับระบบข้อมูลให้ทันสมัย ให้บริการที่ฉับไว และมีประสิทธิภาพผ่านเครือข่ายของกระทรวง ทั้งในส่วนกลาง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั่วโลก พร้อมยึดมั่นการทำงานด้วยธรรมาภิบาลและนโยบาย Zero Corruption ให้ความสำคัญในการสร้างตลาดแก่ผลผลิตภาคการเกษตรที่นำนวัตกรรมขั้นสูงมาประยุกต์ใช้ พัฒนาเกษตรกรให้มีความสามารถทางการค้าในระยะยาว หรือ Smart farmer and entrepreneur 4.0 ส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจบริการและขยายตลาดการค้าภาคบริการให้เป็นบ่อเกิดแห่งรายได้เช่นเดียวกับภาคการส่งออก การให้ความสำคัญในการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ การพัฒนาความร่วมมือกับอาเซียนทางการค้าและการลงทุนทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก การดำเนินการเชิงรุกเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรและปัญหาปากท้องของประชาชน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นการค้าระหว่างประเทศ ว่า จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการเร่งรัดและแก้ไขปัญหาการส่งออก ใช้เวทีเจรจาการค้าระหว่างประเทศในการขยายความร่วมมือทางการค้าแบบหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ รวมทั้งจะสร้างและพัฒนา SMEs ให้เป็นนักรบเศรษฐกิจใหม่ (Startup) แก้ไขปัญหาคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าที่คั่งค้าง และปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยและเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ
สำหรับการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจระดับท้องถิ่นและชุมชน จะเร่งพัฒนาตลาดชุมชนอย่างต่อเนื่อง และดูแลค่าครองชีพ พร้อมทั้งใช้เครือข่ายของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศเป็นกลไกขับเคลื่อนการตลาดนำการผลิตสินค้า (Demand Driven) ควบคู่ไปกับการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นการค้าระหว่างประเทศ ว่า จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการเร่งรัดและแก้ไขปัญหาการส่งออก ใช้เวทีเจรจาการค้าระหว่างประเทศในการขยายความร่วมมือทางการค้าแบบหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ รวมทั้งจะสร้างและพัฒนา SMEs ให้เป็นนักรบเศรษฐกิจใหม่ (Startup) แก้ไขปัญหาคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าที่คั่งค้าง และปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยและเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ
สำหรับการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจระดับท้องถิ่นและชุมชน จะเร่งพัฒนาตลาดชุมชนอย่างต่อเนื่อง และดูแลค่าครองชีพ พร้อมทั้งใช้เครือข่ายของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศเป็นกลไกขับเคลื่อนการตลาดนำการผลิตสินค้า (Demand Driven) ควบคู่ไปกับการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด