“อภิรดี” ชูยุทธศาสตร์ “พาณิชย์ 4.0” ขับเคลื่อนการทำงานก้าวเข้าสู่ปีที่ 97 เตรียมส่งเสริมและผลักดันธุรกิจบริการให้เป็นรายได้ใหม่ของประเทศ พร้อมมุ่งส่งเสริมพัฒนาเกษตรกรไทยไปสู่เกษตรกร 4.0 ตั้งเป้าผลักดันให้เป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ที่ไม่เพียงแค่ผลิต แต่ต้องค้าขายเป็นด้วย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้ปรับแผนและยุทธศาสตร์การทำงานของกระทรวงฯ เพื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 97 หลังจากที่จะครบรอบวันสถาปนาเป็นปีที่ 96 ในวันที่ 20 ส.ค. 2559 นี้ โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์การทำงานใหม่สอดคล้องกับร่างยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ซึ่งจะมีการปรับบทบาทใหม่ของกระทรวงเพื่อมุ่งไปสู่ “พาณิชย์ 4.0” ด้วยวิสัยทัศน์ “ฉับไว โปร่งใส มองไกล ใกล้ชิดประชาชน” เพื่อให้กระทรวงฯ มีความรวดเร็วในการทำงาน และทำงานใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะนำร่องนโยบาย “พาณิชย์ 4.0” โดยมุ่งการพัฒนาการค้าบริการ เพราะในช่วงที่การค้าสินค้าของโลกอยู่ในภาวะซบเซา แต่การค้าบริการกลับขยายตัวได้สูง สอดคล้องกับการคาดการณ์ของ IMF ที่ระบุว่า ปี 2559 มูลค่าการค้าบริการโลกจะขยายตัวร้อยละ 2.5 เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตัวเลขการส่งออกบริการของไทยช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2559 ที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 8.1 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.9 และภาคบริการของไทยยังมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 60.8 ของจีดีพีประเทศ
สำหรับแผนการส่งเสริมธุรกิจบริการ จะแบ่งธุรกิจบริการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มบริการสนับสนุน เช่น บริการธุรกิจ วิศวกร สถาปนิก การวิจัยและพัฒนา ลอจิสติกส์ เพราะเป็นบริการที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการในภาคการผลิต กลุ่มบริการที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น การท่องเที่ยว การนันทนาการ ก่อสร้าง และสุขภาพ และกลุ่มบริการยุคใหม่ ที่เน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างมูลค่าการผลิตและการค้าสินค้าและบริการของไทย รวมทั้งการจัดทำแผนธุรกิจใหม่ๆ
“กระทรวงฯ ได้วางแผนที่จะรวบรวมปัญหา อุปสรรคด้านกฎระเบียบ แนวทางการพัฒนาธุรกิจบริการและการสร้างศักยภาพผู้ประกอบการ โดยมีแผนที่จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กชอป) ร่วมกับผู้ประกอบการภาคบริการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ขัดขวางการเติบโตของภาคบริการของไทย และร่วมกันจัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมธุรกิจบริการของประเทศต่อไป” นางอภิรดีกล่าว
นางอภิรดีกล่าวว่า ในภาคการเกษตร กระทรวงฯ มีแผนที่จะผลักดันเกษตรกรไทยสู่เกษตรกร 4.0 โดยมีแผนที่จะพัฒนาความสามารถในการประกอบการด้านการค้าแก่เกษตรกรไทยในระยะยาว โดยมุ่งเป้าพัฒนาเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการที่ทันสมัย หรือที่เรียกว่าเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ที่รู้จักใช้กลไกตลาดมาทำการผลิตในลักษณะทำน้อยได้มาก และยังจะเร่งสร้างตลาดชุมชน หมู่บ้านทำมาค้าขาย และ Farm Outlet ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นช่องทางให้เกษตรกรได้มีที่ทำมาค้าขายและเป็นผู้ประกอบการตามที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ เพราะลำพังแต่จะมุ่งหาตลาดต่างประเทศเพียงอย่างเดียว เป็นความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงจำเป็นต้องสร้างสมดุลของเศรษฐกิจการค้าด้วยการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจท้องถิ่นไปพร้อมๆ กัน
นอกจากนี้ ยังได้มีแผนที่จะใช้ประโยชน์จากสถาบันสินค้าเกษตรนวัตกรรม เพื่อเป็นกลไกในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างตลาดสินค้าเกษตรนวัตกรรมและการนำงานวิจัยไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นการช่วยยกระดับสินค้าเกษตรไทยให้เป็นสินค้านวัตกรรมที่มีมูลค่าเพิ่ม โดยล่าสุดได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว และอยู่ระหว่างการจัดตั้งให้เป็นรูปธรรม
สำหรับภารกิจเร่งด่วนอื่นๆ จะเน้นการแก้ไขปัญหาการส่งออก การใช้เวทีเจรจาการค้าระหว่างประเทศในการขยายความร่วมมือทางการค้า การสร้างและพัฒนา SMEs ให้เป็นนักรบเศรษฐกิจใหม่ การแก้ไขปัญหาคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าที่ค้างอยู่ การผลักดัน MOC One Stop Service การขับเคลื่อนนโยบาย One Roof ในส่วนภูมิภาค การปรับปรุงกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ การดูแลค่าครองชีพ การดูแลราคาสินค้าเกษตร การพัฒนาสินค้าที่เน้นความต้องการของตลาด และการสร้างตลาดชุมชน เป็นต้น