พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย แถลงความร่วมมือการรับชำระค่าปรับจราจรผ่านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ได้รับใบสั่ง ไม่ต้องไปชำระที่สถานีตำรวจ โดยผู้ที่ได้รับใบสั่งที่มาจากกล้องของกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) และสถานีตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถนำบาร์โค้ดที่ระบุใบสั่ง ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ ไปชำระได้ที่เคาน์เตอร์บริการ จำนวนกว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ และ KTB netbank จากนั้นจึงขยายการชำระค่าปรับผ่านเครื่องเอทีเอ็ม 9,000 เครื่อง วันที่ 5 กันยายน ก่อนเดินหน้าขยายบริการรับชำระใบสั่งทุกประเภท ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ภายในเดือนมกราคม 2560 ที่จะถึงนี้
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ความร่วมมือดังกล่าว เป็นการร่วมขับเคลื่อนนโยบาย National e-Payment ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล อีกทั้งเป็นการยกระดับมาตรฐานงานด้านบริการประชาชน โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติและธนาคารกรุงไทย ได้ร่วมกันพัฒนาระบบรองรับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เนื่องจากธนาคารกรุงไทยมีศักยภาพในการติดตั้งระบบการเชื่อมต่อข้อมูลรองรับการชำระเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย มีระบบตรวจสอบการรับส่งเงิน ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด จึงมั่นใจว่า บริการรับชำระค่าปรับจราจรผ่านธนาคารกรุงไทย จะช่วยลดขั้นตอน ระยะเวลา และภาระในการเดินทางของประชาชน และในเฟสต่อไป จะให้บริการรับชำระด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ผ่านตัวแทนรับชำระเงิน (Banking Agent) และเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม ในอนาคต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีแนวคิดจะนำรถโมบายพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะมีอุปกรณ์สแกน ตรวจจับทะเบียนปลอม ประจำท้องที่ละ1คัน พร้อมทั้งจะนำไปปรับไปใช้กับงานด้านความมั่นคง เช่นพื้นที่สามจังหวัดชายแดนนภาคใต้ เบื้องต้นได้มีการหารือเรื่องนี้กับรัฐบาลแล้ว และอยู่ระหว่างการขอสนับสนุนงบประมาณ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ความร่วมมือดังกล่าว เป็นการร่วมขับเคลื่อนนโยบาย National e-Payment ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล อีกทั้งเป็นการยกระดับมาตรฐานงานด้านบริการประชาชน โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติและธนาคารกรุงไทย ได้ร่วมกันพัฒนาระบบรองรับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เนื่องจากธนาคารกรุงไทยมีศักยภาพในการติดตั้งระบบการเชื่อมต่อข้อมูลรองรับการชำระเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย มีระบบตรวจสอบการรับส่งเงิน ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด จึงมั่นใจว่า บริการรับชำระค่าปรับจราจรผ่านธนาคารกรุงไทย จะช่วยลดขั้นตอน ระยะเวลา และภาระในการเดินทางของประชาชน และในเฟสต่อไป จะให้บริการรับชำระด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ผ่านตัวแทนรับชำระเงิน (Banking Agent) และเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม ในอนาคต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีแนวคิดจะนำรถโมบายพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะมีอุปกรณ์สแกน ตรวจจับทะเบียนปลอม ประจำท้องที่ละ1คัน พร้อมทั้งจะนำไปปรับไปใช้กับงานด้านความมั่นคง เช่นพื้นที่สามจังหวัดชายแดนนภาคใต้ เบื้องต้นได้มีการหารือเรื่องนี้กับรัฐบาลแล้ว และอยู่ระหว่างการขอสนับสนุนงบประมาณ