MGR Online - สตช.จับมือแบงก์กรุงไทย ชำระค่าปรับจราจรที่เคาน์เตอร์ธนาคาร 1,200 สาขาทั่วประเทศ เริ่ม 1 ก.ย. เตรียมขยายบริการชำระผ่านตู้เอทีเอ็ม 5 ก.ย.นี้
วันนี้ (30 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยนายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) แถลงความร่วมมือการรับชำระค่าปรับจราจรผ่านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ได้รับใบสั่งไม่ต้องไปชำระที่สถานีตำรวจ โดยผู้ที่ได้รับใบสั่งที่มาจากกล้องของกองบังคับการตำรวจจราจร กองบังคับการตำรวจทางหลวง และสถานีตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถนำบาร์โค้ดที่ระบุในใบสั่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ ไปชำระได้ที่เคาน์เตอร์บริการของธนาคาร 1,200 สาขาทั่วประเทศ และ KTB netbank จากนั้นจะมีการขยายบริการการชำระค่าปรับผ่านเครื่องเอทีเอ็ม 9,000 เครื่อง วันที่ 5 ก.ย. ก่อนเดินหน้าขยายบริการรับชำระใบสั่งทุกประเภท ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ภายในเดือน ม.ค. 2560
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดให้การชำระค่าปรับต้องไปที่สถานีตำรวจ กองบังคับการตำรวจจราจร หรือกองบังคับการตำรวจทางหลวงเท่านั้น จึงมีการปรับแก้กฎหมายให้สามารถชำระค่าปรับผ่านธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ตามนโยบายอีเพย์เมนต์ (e-payment) ของรัฐบาล เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาการเดินทางของประชาชน โดยเชื่อว่าจะลดการกระทบกระทั่งระหว่างประชาชนกับตำรวจ
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า นอกจากนี้มีแผนจะนำกล้องบันทึกภาพติดรถยนต์ไปติดตั้งที่รถไฟฟ้าเพื่อตรวจจับรถยนต์ที่จอดในที่ห้ามจอด หรือจอดกีดขวางเส้นทางจราจรในพื้นที่แออัด หากพบผู้ฝ่าฝืนตำรวจจะออกใบสั่งออนไลน์ เชื่อว่าวิธีดังกล่าวจะเป็นการลดจำนวนรถยนต์สวมทะเบียนปลอม และเป็นพื้นที่ตัวอย่างก่อนนำไปใช้จริงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รูปแบบใบสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี 3 รูปแบบ คือ ใบสั่งแบบเล่ม, ใบสั่งผ่านกล้องรูปแบบเดิม และใบสั่งผ่านกล้องรูปแบบใหม่ ซึ่งจะมีแถบบาร์โค้ด ส่วนการชำระค่าปรับรูปแบบใบสั่งแบบเล่มผ่านช่องทางธนาคาร อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 พร้อมขยายช่องทางการชำระเงินไปยังตัวแทนรับชำระเงิน รวมถึงการชำระด้วยบัตรเดบิต และบัตรเครดิตผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
