xs
xsm
sm
md
lg

คลังผุดไอเดีย “โมเดลเห็บสยาม” เกาะประเทศศก.โต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยในงานสัมมนา “เศรษฐกิจโลกขยับก้าว...เศรษฐกิจไทยขยับไกล” ว่า กระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะนำ “โมเดลเห็บสยาม” ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเน้นการสร้างพันธมิตรทั้งการค้า การลงทุนกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งไทยและพันธมิตรให้ขยายตัวด้วยกัน เช่น จีน อินเดีย แอฟริกาและอาเซียน เพราะหากเน้นการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ คงไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมของไทย เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว

“โมเดลเศรษฐกิจไทยส่วนตัวมองว่าควรเป็น “เห็บสยามโมเดล” คือเติบโตไปกับประเทศต่างๆ แต่ไม่ทรุดตัวไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจ คือเราจะไปเกาะประเทศที่โตดี หากประเทศเหล่านี้โต เราจะโตตามไปด้วย กินจนเราอ้วน แต่เมื่อเกิดเศรษฐกิจขาลง เราจะย้ายไปโตกับประเทศอื่นแทน คือเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจกับทุกประเทศ ไม่ใช่เป็นคู่แข่ง”

นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับระดับโลกคือ ฟิชท์ เรทติ้งส์ และสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ ประเมินว่าเศรษฐกิจของไทยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งมากทั้งด้านการเงิน ฐานะการคลัง ทุนสำรองระหว่างประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัด กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และอื่นๆ แต่มีปัญหาอย่างเดียวคือเรื่องของการเมืองที่จะเป็นตัวปัญหาด้านเศรษฐกิจของไทย

ขณะที่การศึกษาวิจัยเรื่องต่างๆ พบว่า สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจของไทยยังอยู่ในภาวะซบเซา ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายการปราบปรามเงินนอกระบบ การคอร์รัปชันและธุรกิจผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด จนทำให้เงินที่ผิดกฎหมายหายจากระบบปีละหลายแสนล้านบาท เช่น มีการศึกษาพบว่าในอดีตมีเงินนอกระบบปีละ 280,000-450,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นทั้งเงินหวย เงินท่อน้ำเลี้ยงนักการเมืองและเงินจากธุรกิจผิดกฎหมาย รวมถึงยังมีเงินเรื่องของการให้สินบนหรือเงินใต้โต๊ะที่ต้องให้นักการเมืองปีละ 200,000-300,000 ล้านบาท

“ที่ผ่านมาเงินนอกระบบที่มาจากธุรกิจผิดกฎหมายและเงินใต้โต๊ะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะในอดีตมีการใช้เงินนอกระบบหรือเงินที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงนักการเมืองกันง่ายและมาก ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะสามารถปราบปรามเงินเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่กระทบเศรษฐกิจไทยมากนัก แต่ผลดีที่ตามมาคือการทำธุรกิจและการบริหารประเทศมีความโปร่งใสมากขึ้น เห็นได้จากการจัดอันดับเรื่องการแก้ปัญหาคอร์รัปชันในไทยดีขึ้นต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากนัก มาจากการลงทุนในประเทศและการบริโภคในประเทศลดน้อยลง แต่เป็นข้อมูลที่สวนทางกับเรื่องของเงินเก็บของประชาชนที่มีเพิ่มขึ้น และเงินเก็บที่มีมากขึ้นส่วนหนึ่งคนไทยก็นำไปใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนการลงทุนนั้นแม้จะมีน้อยลง แต่สวนทางกับกำไรของ บจ.ที่มีเพิ่มขึ้น แต่เงินจำนวนมากนักลงทุนไทยนำไปลงทุนในต่างประเทศมากกว่าที่มีเงินไหลเข้ามาลงทุนในไทย

สำหรับในส่วนของเศรษฐกิจในประเทศนั้น กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหญ่ตามนโยบายของรัฐ เช่น การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การช่วยเหลือผู้สูงอายุ การช่วยเหลือผู้ยากจน ปฏิรูปด้านภาษี ระบบการเงินและอื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น