“บัณฑูร” ชี้ โจทย์ใหญ่รัฐบาลต้องสร้างการอยู่ดีกินดีให้ประชาชน โดยเฉพาะคนฐานรากให้ดีขึ้น เพื่อให้คนกลุ่มนี้มีรายได้และมีความสามารถในการทำมาหากิน มากกว่าการทำนโยบายประชานิยม
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (9 ก.ย.) และวันที่ 12 กันยายน 2557 จะมีการแถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว นโยบายภาครัฐที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ การดูแลคืนความสุขให้กับประชาชน โดยเฉพาะการดูแลคุณภาพชีวิต สร้างการอยู่ดีกินดีให้ประชาชน โดยเฉพาะคนระดับฐานราก เพื่อให้คนกลุ่มนี้มีรายได้และมีความสามารถในการทำมาหากิน มากกว่าการทำนโยบายประชานิยม
นอกจากนี้ รัฐบาลชุดใหม่จะต้องเดินหน้าปฏิรูปภาคต่างๆ ตามที่ประกาศ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ตามกรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งขณะนี้ความมั่นใจของประชาชนและภาคเอกชนที่มีต่อประเทศไทยมีมุมมองดีขึ้น โดยเห็นได้จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส มีมุมมองเสถียรภาพสถาบันการเงินไทยดีขึ้น เพราะภาคเศรษฐกิจของไทยดีขึ้น หลังจากปัญหาทางการเมืองในประเทศยุติลง ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่ขยายตัวร้อยละ 5 จากปีนี้ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.5-2 ขณะที่การปล่อยสินเชื่อปีนี้จะเร่งตัวในช่วงครึ่งหลัง ทำให้ทั้งปีโตร้อยละ 8 และปีหน้าขยายตัวร้อยละ 7-9
นายบัณฑูร กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยได้ลงนามความร่วมมือกับศูนย์สนับสนุนลูกค้าเอสเอ็มอี โตเกียว เมโทร โพลิแทน ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลของกรุงโตเกียว ที่ให้การสนับสนุนและพัฒนาเศรษฐกิจของเอสเอ็มอีในกรุงโตเกียว หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นมีมาตรการสนับสนุนเอสเอ็มอี 10,000 แห่งทั่วประเทศ ออกไปลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ เบื้องต้นตั้งเป้าเอสเอ็มอีจากโตเกียวลงทุนในไทย 50-70 บริษัท มูลค่าลงทุนมากกว่า 3,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันศูนย์สนับสนุนลูกค้าเอสเอ็มอี โตเกียว เมโทร โพลิแทน มีสมาชิกมากกว่า 30,000 บริษัท และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจากจํานวนบริษัททั้งหมดในโตเกียวประมาณ 440,000 เเห่ง