การประชุมคณะอนุกรรมการพบปะและช่วยเหลือบุคคลด้อยโอกาส ในคณะกรรมการดำเนินโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน โดยมีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 พร้อมด้วยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพบปะและช่วยเหลือบุคคลด้อยโอกาส พล.อ.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงาม สนช.และคณะทำงานคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับรางวัลคนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดิน ประจำปี 2559 เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาการถอด น.พ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ออกจากผู้สมควรได้รับรางวัลคนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดิน หลังตกเป็นข่าวว่าประพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม พล.อ.ยุทธศิลป์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลจริง เกี่ยวกับบุคคลที่ต้องทำความดีเป็นจิตอาสาเกิน 9 ปีตามคุณสมบัติ ซึ่งนพ.เปรมศักดิ์ อยู่ในรอบการคัดเลือกของปี 2559 ด้วย โดยคณะอนุกรรมการก็ได้ดูผลงานของ นพ.เปรมศักดิ์ อย่างรอบด้าน ทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ตกยาก และยากไร้ในด้านการตรวจรักษาพยาบาล และสุขภาพจิตในชนบทห่างไกล และเป็นผู้ดำเนินการโครงการต่างๆ อาทิ โครงการบ้านไผ่ไม่ทอดถิ่นกัน โครงการไอซียู หรือโครงการเยี่ยมบ้านยามบ่าย เป็นต้น ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่ นพ.เปรมได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลคนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดินในปีนี้
ขณะที่ นายวัลลภ กล่าวว่า ในกรณีนี้ต้องแยกเป็น 2 เหตุการณ์ เพราะในภาพที่ปรากฏเป็นข่าวดูเหมือนเป็นพิธีหมั้นหมาย โดยเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นข่าวหรือไม่ แม้เรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่การการไปผูกข้อไม้ข้อมือกับเด็กสาวก็ต้องย้อนไปดูประวัติว่า นพ.เปรมศักดิ์ มีภรรยาหรือไม่ และถ้าเคยมีแล้วมีการหย่าร้างกันแล้วหรือไม่ 2.ภาพที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีการเปลืองเสื้อผ้าของสื่อมวลชน ซึ่งต้องไปหาข้อเท็จจริง และเรื่องนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่รางวัลนี้มีความสำคัญมาก บุคคลที่จะได้รับรางวัลดังกล่าว จะต้องไม่มีตำหนิ ไร้ข้อกังขา ดังนั้นเบื้องต้นคณะอนุกรรมการฯ จึงต้องขอระงับการให้รางวัลแก่ นพ.เปรมศักดิ์ออกไปก่อนในปีนี้ แล้วเลือกบุคคลที่ได้รับคะแนนในลำดับรองมารับรางวัลแทน แต่ทั้งนี้รายชื่อของ นพ.เปรมศักดิ์ ยังอยู่ในกลุ่มที่ยังสามารถนำกลับมาคัดเลือกได้อีก เมื่อสามารถพิสูจน์ตัวเองได้แล้ว
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม พล.อ.ยุทธศิลป์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลจริง เกี่ยวกับบุคคลที่ต้องทำความดีเป็นจิตอาสาเกิน 9 ปีตามคุณสมบัติ ซึ่งนพ.เปรมศักดิ์ อยู่ในรอบการคัดเลือกของปี 2559 ด้วย โดยคณะอนุกรรมการก็ได้ดูผลงานของ นพ.เปรมศักดิ์ อย่างรอบด้าน ทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ตกยาก และยากไร้ในด้านการตรวจรักษาพยาบาล และสุขภาพจิตในชนบทห่างไกล และเป็นผู้ดำเนินการโครงการต่างๆ อาทิ โครงการบ้านไผ่ไม่ทอดถิ่นกัน โครงการไอซียู หรือโครงการเยี่ยมบ้านยามบ่าย เป็นต้น ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่ นพ.เปรมได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลคนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดินในปีนี้
ขณะที่ นายวัลลภ กล่าวว่า ในกรณีนี้ต้องแยกเป็น 2 เหตุการณ์ เพราะในภาพที่ปรากฏเป็นข่าวดูเหมือนเป็นพิธีหมั้นหมาย โดยเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นข่าวหรือไม่ แม้เรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่การการไปผูกข้อไม้ข้อมือกับเด็กสาวก็ต้องย้อนไปดูประวัติว่า นพ.เปรมศักดิ์ มีภรรยาหรือไม่ และถ้าเคยมีแล้วมีการหย่าร้างกันแล้วหรือไม่ 2.ภาพที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีการเปลืองเสื้อผ้าของสื่อมวลชน ซึ่งต้องไปหาข้อเท็จจริง และเรื่องนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่รางวัลนี้มีความสำคัญมาก บุคคลที่จะได้รับรางวัลดังกล่าว จะต้องไม่มีตำหนิ ไร้ข้อกังขา ดังนั้นเบื้องต้นคณะอนุกรรมการฯ จึงต้องขอระงับการให้รางวัลแก่ นพ.เปรมศักดิ์ออกไปก่อนในปีนี้ แล้วเลือกบุคคลที่ได้รับคะแนนในลำดับรองมารับรางวัลแทน แต่ทั้งนี้รายชื่อของ นพ.เปรมศักดิ์ ยังอยู่ในกลุ่มที่ยังสามารถนำกลับมาคัดเลือกได้อีก เมื่อสามารถพิสูจน์ตัวเองได้แล้ว