ภาพงานวิวาห์กับเจ้าสาวนักเรียนชั้นม. 5 ทำให้ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย ดังกระหึ่มอีกครั้ง แค่เพียงชั่วข้ามวัน นักการเมืองที่ดูเหมือนจะกลับเนื้อกลับตัวแล้วรายนี้ต้อง “ดับ” วูบในทันที เพราะพฤติกรรมถ่อยและเถื่อนในการคุกคามสื่อมวลชน
นพ.เปรมศักดิ์เคยเป็นหนึ่งในลูกสมุนหัวโจกที่ปกป้องนายทักษิณ ชินวัตร แต่ก่อนที่พรรคไทยรักไทยจะล่มสลาย ได้แยกตัวออกไปถอยห่างจาก “ทักษิณ” และเปลี่ยนจุดยืนใหม่ กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย เคยโจมตีพฤติกรรมคนเสื้อแดง
หลังถอนตัวจากเวทีการเมืองระดับชาติ นพ.เปรมศักดิ์โดดลงสนามการเมืองท้องถิ่น ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ข่าวคราวเงียบหายไปนาน เพิ่งจะเป็นข่าว เมื่อมีภาพการแต่งงานกับเจ้าสาวนักเรียนชั้นม. 5 และมีธนบัตรก้อนโตเป็นเงิน
สินสอดภาพการแต่งงานที่สื่อมวลชนนำเสนอ ทำให้นพ.เปรมศักดิ์เกิดความฉุนเฉียว และเมื่อสื่อมวลชนติดตามทำข่าว
นพ.เปรมศักดิ์ได้แสดงความเกรี้ยวกราด สั่งกักขังหน่วงเหนี่ยวสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่ และสั่งลูกน้องจับนักข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์เดลินิวส์แก้ผ้า สั่งถ่ายรูปไว้ พร้อมพูดจาต่อว่าสื่อมวลชนที่ถูกกักตัวอยู่
ไม่รู้นพ.เปรมศักดิ์อับอายขายขี้หน้าอะไรนักหนากับการแต่งงานกับนักเรียน ชั้นม. 5 จึงแสดงสันดานดิบ ใช้อำนาจดุจอันธพาลคุกคามสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่ ซึ่งแม้แต่รัฐบาลทหารยังไม่เคยแสดงความเถื่อนขั้นนี้
ไม่เพียงองค์กรสื่อมวลชนเท่านั้นที่ลุกขึ้นมารุมประณามพฤติกรรมของนพ.เปรมศักดิ์ แต่ทุกภาคส่วนของสังคมก็ยอมรับไม่ได้กับพฤติการณ์ความชั่วร้าย และเรียกร้องให้สื่อที่ถูกย่ำยีดำเนินคดีถึงที่สุด
มาตรการทางสังคม การร่วมกันรุมประณาม ไม่เพียงพอที่จะลงโทษนักการเมืองสำนึกต่ำได้แล้ว
ภาพลักษณ์ที่ซุ่มสร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้นพ.เปรมศักดิ์เป็นนักการเมืองที่ดูดีขึ้นมา โดยมีความรักชาติ รักสถาบัน รักถิ่น และช่วยเหลือสังคม จนกำลังจะได้รับรางวัล “คนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดิน” จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ความเถื่อนที่นำออกมาคุกคามสื่อมวลชน ทำให้นพ.เปรมศักดิ์พังพินาศ
สนช.กำลังทบทวนการมอบรางวัล สังคมกลับมาทบทวนพฤติกรรมนพ.เปรมศักดิ์ เพราะภาพลักษณ์ใหม่ที่สร้างไว้ดูดีนั้น อาจเป็นเพียงความจอมปลอม
เพราะจริงๆ แล้ว นพ.เปรมศักดิ์ก็ยังเป็นนักการเมืองที่กำพืดไม่เคยเปลี่ยน แต่สร้างภาพหลอกสังคมให้ดูเหมือนว่า เป็นนักการเมืองที่กลับตัวเป็นคนดีแล้วเท่านั้น
องค์กรวิชาชีพสื่อได้แสดงจุดยืน ออกแถลงการณ์ประณามพฤติกรรมนพ.เปรมศักดิ์ไปแล้ว แต่ละภาคส่วนของสังคมก็ลุกฮือเรียกร้องให้จัดการกับนักการเมืองที่มีจิตใจต่ำแล้ว ไม่เว้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่พร้อมจะดำเนินคดีกับนักการเมืองคลั่งอำนาจรายนี้
เหลือแต่สื่อมวลชนที่ถูกกระทำจากนพ.เปรมศักดิ์ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ถูกลูกน้องอันธพาลของนพ.เปรมศักดิ์จับแก้ผ้าถ่ายรูปประจานเท่านั้น ที่จะต้องทำหน้าที่ปกป้องสิทธิเสรีภาพศักดิ์ศรีของตัวเอง และแสดงให้ประชาชนเห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย
พฤติกรรมของนพ.เปรมศักดิ์และลูกสมุนต่ำช้าเกินกว่าที่จะให้อภัย และเป็นการคุกคามสื่อมวลชนอย่างรุนแรงเกินกว่าที่จะถูกลงโทษ เพียงแค่การรุมประณาม
แต่จะต้องแจ้งความดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ประกาศตัว พร้อมทำหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว โดยเตรียมข้อหาไว้พร้อม ถ้าสื่อมวลชนที่ถูกคุกคามแจ้งความ
นักการเมืองอย่างนพ.เปรมศักดิ์ปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะแม้จะเป็นเพียงแค่นายกเทศมนตรี ยังบ้าอำนาจ แสดงความเป็นอันธพาลคุกคามสื่อมวลชนหลายค่ายหลายสำนักกลางวันแสกๆ ท่ามกลางสาธารณชน
ถ้าปล่อยให้เติบโตต่อไป ก้าวเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจ จะเป็นภัยต่อสังคมขนาดไหน
สื่อมวลชนมักไม่ค่อยฟ้องนักการเมือง และยอมให้นักการเมืองฟ้องมากกว่า แต่งานนี้คดีของนพ.เปรมศักดิ์ สื่อมวลชนต้องจัดการ
นักการเมืองถ่อยๆ คุกคามย่ำยีแม้แต่สื่อมวลชนปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะจะเป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อประชาชน ปล่อยไว้ก็รกบ้านรกเมือง
“หมอเปรมศักดิ์” ต้องถูกกำจัด และสื่อมวลชนที่ถูกแสดงความป่าเถื่อน ต้องลงมือกำจัดนักการเมืองถ่อยด้วยตัวเอง
นพ.เปรมศักดิ์เคยเป็นหนึ่งในลูกสมุนหัวโจกที่ปกป้องนายทักษิณ ชินวัตร แต่ก่อนที่พรรคไทยรักไทยจะล่มสลาย ได้แยกตัวออกไปถอยห่างจาก “ทักษิณ” และเปลี่ยนจุดยืนใหม่ กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย เคยโจมตีพฤติกรรมคนเสื้อแดง
หลังถอนตัวจากเวทีการเมืองระดับชาติ นพ.เปรมศักดิ์โดดลงสนามการเมืองท้องถิ่น ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ข่าวคราวเงียบหายไปนาน เพิ่งจะเป็นข่าว เมื่อมีภาพการแต่งงานกับเจ้าสาวนักเรียนชั้นม. 5 และมีธนบัตรก้อนโตเป็นเงิน
สินสอดภาพการแต่งงานที่สื่อมวลชนนำเสนอ ทำให้นพ.เปรมศักดิ์เกิดความฉุนเฉียว และเมื่อสื่อมวลชนติดตามทำข่าว
นพ.เปรมศักดิ์ได้แสดงความเกรี้ยวกราด สั่งกักขังหน่วงเหนี่ยวสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่ และสั่งลูกน้องจับนักข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์เดลินิวส์แก้ผ้า สั่งถ่ายรูปไว้ พร้อมพูดจาต่อว่าสื่อมวลชนที่ถูกกักตัวอยู่
ไม่รู้นพ.เปรมศักดิ์อับอายขายขี้หน้าอะไรนักหนากับการแต่งงานกับนักเรียน ชั้นม. 5 จึงแสดงสันดานดิบ ใช้อำนาจดุจอันธพาลคุกคามสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่ ซึ่งแม้แต่รัฐบาลทหารยังไม่เคยแสดงความเถื่อนขั้นนี้
ไม่เพียงองค์กรสื่อมวลชนเท่านั้นที่ลุกขึ้นมารุมประณามพฤติกรรมของนพ.เปรมศักดิ์ แต่ทุกภาคส่วนของสังคมก็ยอมรับไม่ได้กับพฤติการณ์ความชั่วร้าย และเรียกร้องให้สื่อที่ถูกย่ำยีดำเนินคดีถึงที่สุด
มาตรการทางสังคม การร่วมกันรุมประณาม ไม่เพียงพอที่จะลงโทษนักการเมืองสำนึกต่ำได้แล้ว
ภาพลักษณ์ที่ซุ่มสร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้นพ.เปรมศักดิ์เป็นนักการเมืองที่ดูดีขึ้นมา โดยมีความรักชาติ รักสถาบัน รักถิ่น และช่วยเหลือสังคม จนกำลังจะได้รับรางวัล “คนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดิน” จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ความเถื่อนที่นำออกมาคุกคามสื่อมวลชน ทำให้นพ.เปรมศักดิ์พังพินาศ
สนช.กำลังทบทวนการมอบรางวัล สังคมกลับมาทบทวนพฤติกรรมนพ.เปรมศักดิ์ เพราะภาพลักษณ์ใหม่ที่สร้างไว้ดูดีนั้น อาจเป็นเพียงความจอมปลอม
เพราะจริงๆ แล้ว นพ.เปรมศักดิ์ก็ยังเป็นนักการเมืองที่กำพืดไม่เคยเปลี่ยน แต่สร้างภาพหลอกสังคมให้ดูเหมือนว่า เป็นนักการเมืองที่กลับตัวเป็นคนดีแล้วเท่านั้น
องค์กรวิชาชีพสื่อได้แสดงจุดยืน ออกแถลงการณ์ประณามพฤติกรรมนพ.เปรมศักดิ์ไปแล้ว แต่ละภาคส่วนของสังคมก็ลุกฮือเรียกร้องให้จัดการกับนักการเมืองที่มีจิตใจต่ำแล้ว ไม่เว้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่พร้อมจะดำเนินคดีกับนักการเมืองคลั่งอำนาจรายนี้
เหลือแต่สื่อมวลชนที่ถูกกระทำจากนพ.เปรมศักดิ์ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ถูกลูกน้องอันธพาลของนพ.เปรมศักดิ์จับแก้ผ้าถ่ายรูปประจานเท่านั้น ที่จะต้องทำหน้าที่ปกป้องสิทธิเสรีภาพศักดิ์ศรีของตัวเอง และแสดงให้ประชาชนเห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย
พฤติกรรมของนพ.เปรมศักดิ์และลูกสมุนต่ำช้าเกินกว่าที่จะให้อภัย และเป็นการคุกคามสื่อมวลชนอย่างรุนแรงเกินกว่าที่จะถูกลงโทษ เพียงแค่การรุมประณาม
แต่จะต้องแจ้งความดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ประกาศตัว พร้อมทำหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว โดยเตรียมข้อหาไว้พร้อม ถ้าสื่อมวลชนที่ถูกคุกคามแจ้งความ
นักการเมืองอย่างนพ.เปรมศักดิ์ปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะแม้จะเป็นเพียงแค่นายกเทศมนตรี ยังบ้าอำนาจ แสดงความเป็นอันธพาลคุกคามสื่อมวลชนหลายค่ายหลายสำนักกลางวันแสกๆ ท่ามกลางสาธารณชน
ถ้าปล่อยให้เติบโตต่อไป ก้าวเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจ จะเป็นภัยต่อสังคมขนาดไหน
สื่อมวลชนมักไม่ค่อยฟ้องนักการเมือง และยอมให้นักการเมืองฟ้องมากกว่า แต่งานนี้คดีของนพ.เปรมศักดิ์ สื่อมวลชนต้องจัดการ
นักการเมืองถ่อยๆ คุกคามย่ำยีแม้แต่สื่อมวลชนปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะจะเป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อประชาชน ปล่อยไว้ก็รกบ้านรกเมือง
“หมอเปรมศักดิ์” ต้องถูกกำจัด และสื่อมวลชนที่ถูกแสดงความป่าเถื่อน ต้องลงมือกำจัดนักการเมืองถ่อยด้วยตัวเอง