เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2559 ที่อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน กทม. มีการจัดสัมมนาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ “ความสัมพันธ์สื่อมวลชนไทย - ลาว” ระหว่างผู้แทนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและผู้แทนสมาคมนักข่าวแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเป็นแนวทางในการเสริมสร้างความร่วมมือในระดับสื่อมวลชนของทั้ง 2 ประเทศ อันจะนำไปสู่การส่งเสริมความเข้าใจในระดับประชาชน และยังมีส่วนสนับสนุนบทบาทซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรอบภูมิภาคอาเซียน
นายวันชัย วงศ์มีชัย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงความสัมพันธ์ในระดับสื่อมวลชนไทยและลาวนั้นว่ามีความผูกพันแน่นแฟ้นกันมาหลายสิบปีแล้ว ซึ่งผู้บริหารสมาคมวิชาชีพสื่อมวลชนทั้งสองประเทศต่างเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการทำงานอย่างสร้างสรรค์ร่วมกันด้วย ถึงแม้สื่อมวลชนทั้งสองประเทศจะผูกพันกันมาช้านาน แต่ก็ยังมีความไม่เข้าใจบางประการที่อาจจะนำไปสู่การเผยแพร่ข่าวที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ดังนั้น จึงได้พยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี และความเข้าใจระหว่างกันให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้น
ขณะที่นายสะหวันคอน ราชมนตรี รองรัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว และประธานสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ สปป.ลาว กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้มาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยในส่วนตนนั้นเห็นว่า ไทยและลาวเองก็เป็นมิตรประเทศใกล้ชิดอยู่แล้ว ซึ่งสื่อมวลชนเองก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกัน
พร้อมกันนี้ ในโอกาสที่ สปป.ลาว ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งตลอดปี 2559 นี้ จะมีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง รองรัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวฯ สปป.ลาว ได้ขอให้สื่อมวลชนไทย ร่วมมือกับสื่อมวลชนลาว ในการเผยแพร่ข้อมูล และผลสัมฤทธิ์ของการประชุมออกสู่สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
นายสะหวันคอนกล่าวถึง สิ่งที่ สปป.ลาวได้ให้ความสำคัญในวาระการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปีนี้ว่า ด้วยชาติอาเซียนต่างมีจุดแข็งในเรื่องมีวัฒนธรรม มีความศิวิไลซ์ร่วมกัน จึงพยายามสร้างอาเซียนให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาค และเพิ่มการท่องเที่ยวระหว่างกันเองในภูมิภาคด้วย
ด้านนายกวี จงกิจถาวร สื่อมวลชนอาวุโส ที่ปรึกษา และอดีตนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าการเป็นประธานอาเซียนของ สปป.ลาวในปีนี้ เป็นช่วงเวลาสำคัญเพราะสถานการณ์ของโลก และภูมิภาคกำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการแข่งขันการเข้ามามีอิทธิพลของมหาอำนาจอย่างจีน กับสหรัฐฯ ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สปป.ลาว ก็ได้แสดงบทบาทประธานอาเซียนได้อย่างน่าชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นการออกแถลงการณ์ต่อกรณีคาบสมุทรเกาหลี ความพยายามแก้ไขข้อพิพาททะเลจีนใต้ และความตั้งใจที่จะปฏิบัติตามกฏบัตรอาเซียน
นายกวียังกล่าวชื่นชมวิสัยทัศน์ 2030 ที่ประกาศออกมาในช่วงการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเสริมสร้างเสถียรภาพความมั่นคงทางการเมือง และสังคม หรือการตั้งเป้าว่าจะหลุดพ้นการเป็นประเทศยากจนขึ้นเป็นประเทศรายได้ระดับกลางในปี 2020 ซึ่งการเปลี่ยนผ่านของลาวในเรื่องนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ชาติอาเซียนอื่นๆ หรือแม้แต่การให้ความสำคัญแก่การพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเรื่องนี้แม้แต่ประเทศไทยเองก็ยังต้องดูลาวเป็นตัวอย่าง
ในโอกาสนี้ 2 องค์กรสื่อ นำโดยนายวันชัย วงศ์มีชัย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย.และนายสะหวันคอน ราดซะมนตรี ประธานสมาคมนักข่าวแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้แทนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และผู้แทนสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ลงวันที่ 6 เมษายน 2559 เพื่อกระชับ ส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เพื่อยืนยันว่าทั้งสองสมาคมจะร่วมมือกันในการทำงานในระหว่างปี 2559-2560 โดยบันทึกความเข้าใจของ2องค์กรสื่อ ระบุว่า
ข้อที่ 1 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทั้งสองสมาคม และติดตามความคืบหน้าของกิจกรรมต่างๆที่ได้ร่วมลงนามในการบันทึกข้อตกลงทำความเข้าใจในการพบปะกันครั้งที่ผ่านมาในวันที่ 15 กันยายน 2558 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป ลาว
ข้อที่ 2 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว ยังคงยืนยันที่พัฒนาความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งประสานความร่วมมือด้านการจัดฝึกอบรมเกี่ยวกับสื่อใหม่ (New Media) รวมถึงข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ซึ่งทางผู้แทนจากสมาคมนักข่าวแห่ง สปป ลาวได้กล่าวขอบคุณและแสดงความชื่นชมสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในการจัดอบรมความรู้เรื่องสื่อใหม่ให้กับสื่อมวลชนลาวที่นครหลวงเวียงจันทร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ.2558 ซึ่งได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งทางผู้แทนสมาคมนักข่าวแห่ง สปป ลาว แสดงความต้องการให้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจัดการอบรมในลักษณะดังกล่าวด้วยหลักสูตรที่สูงขึ้นต่อไป
นอกจากนั้นสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยยินดีที่พัฒนาความร่วมมือในการทำงานโดยจะได้มีการจัดฝึกอบรมเรื่องการรายงานข่าวให้กับนักข่าวลาวที่ทำงานอยู่ตามภูมิภาคของประเทศลาวอีกด้วย
ข้อที่ 3 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาวเห็นด้วยที่จะจัดเวทีแลกเปลี่ยนบทเรียนการทำหน้าที่ของบุคคลากรในตำแหน่งบรรณาธิการ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในประเด็นเกี่ยวกับการบริหารงานสื่อมวลชนในยุคดิจิตอล
ข้อที่ 4 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาวเห็นด้วยที่จะต้องมีการปรับปรุงเนื้อหาคู่มือสื่อมวลชนลาว-ไทย และไทย-ลาว โดยทั้งสองสมาคมได้มีการตั้งคณะทำงานปรับปรุงเนื้อหาคู่มือสื่อมวลชนลาว- ไทย และ ไทย-ลาว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อที่ 5 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว มีความเห็นพ้องต้องกันให้มีการประสานความสัมพันธ์กันในภารกิจสื่อระดับนานาชาติ ซึ่งรวมถึงการขับเคลื่อนในฐานะสมาชิกสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์อาเซียน โดยทั้งสองสมาคมแสดงความพร้อมในการปรับปรุง ส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์ ทั้งนี้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว จะร่วมมือกันผ่านทางสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดการประชุมคณะทำงานพัฒนาปรับปรุงการทำงานของสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์อาเซียน (CAJ) ณ นครหลวงเวียงจันทน์ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2559 โดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ยินดีที่จะให้การสนับสนุนในการจัดประชุมตามที่ สมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว ร้องขอ
ข้อที่ 6 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว ยืนยันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระหว่างสองสมาคมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการปรึกษาหารือในรายละเอียดต่างๆ ที่จะเป็นการช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีของนัก
หนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนทั้งสองประเทศ รายละเอียดการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อตกลงที่ได้ลงนามร่วมกันก่อนหน้านี้ และในปี 2560 ทางสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจะเดินทางไป สปป.ลาว
ข้อที่ 7 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาวยืนยันร่วมมือในการส่งเสริมการยกระดับความรู้ด้านวิชาชีพให้แก่นักข่าวนักหนังสือพิมพ์ของทั้งสองประเทศ โดยผ่านหลักสูตรการอบรมทางวิชาชีพ การศึกษาดูงานด้านสื่อมวลชน และการมอบทุนการศึกษาแก่นักข่าวนักหนังสือพิมพ์ทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่จะได้มีการเร่งรัดดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป
นายวันชัย วงศ์มีชัย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงความสัมพันธ์ในระดับสื่อมวลชนไทยและลาวนั้นว่ามีความผูกพันแน่นแฟ้นกันมาหลายสิบปีแล้ว ซึ่งผู้บริหารสมาคมวิชาชีพสื่อมวลชนทั้งสองประเทศต่างเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการทำงานอย่างสร้างสรรค์ร่วมกันด้วย ถึงแม้สื่อมวลชนทั้งสองประเทศจะผูกพันกันมาช้านาน แต่ก็ยังมีความไม่เข้าใจบางประการที่อาจจะนำไปสู่การเผยแพร่ข่าวที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ดังนั้น จึงได้พยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี และความเข้าใจระหว่างกันให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้น
ขณะที่นายสะหวันคอน ราชมนตรี รองรัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว และประธานสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ สปป.ลาว กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้มาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยในส่วนตนนั้นเห็นว่า ไทยและลาวเองก็เป็นมิตรประเทศใกล้ชิดอยู่แล้ว ซึ่งสื่อมวลชนเองก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกัน
พร้อมกันนี้ ในโอกาสที่ สปป.ลาว ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งตลอดปี 2559 นี้ จะมีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง รองรัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวฯ สปป.ลาว ได้ขอให้สื่อมวลชนไทย ร่วมมือกับสื่อมวลชนลาว ในการเผยแพร่ข้อมูล และผลสัมฤทธิ์ของการประชุมออกสู่สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
นายสะหวันคอนกล่าวถึง สิ่งที่ สปป.ลาวได้ให้ความสำคัญในวาระการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปีนี้ว่า ด้วยชาติอาเซียนต่างมีจุดแข็งในเรื่องมีวัฒนธรรม มีความศิวิไลซ์ร่วมกัน จึงพยายามสร้างอาเซียนให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาค และเพิ่มการท่องเที่ยวระหว่างกันเองในภูมิภาคด้วย
ด้านนายกวี จงกิจถาวร สื่อมวลชนอาวุโส ที่ปรึกษา และอดีตนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าการเป็นประธานอาเซียนของ สปป.ลาวในปีนี้ เป็นช่วงเวลาสำคัญเพราะสถานการณ์ของโลก และภูมิภาคกำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการแข่งขันการเข้ามามีอิทธิพลของมหาอำนาจอย่างจีน กับสหรัฐฯ ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สปป.ลาว ก็ได้แสดงบทบาทประธานอาเซียนได้อย่างน่าชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นการออกแถลงการณ์ต่อกรณีคาบสมุทรเกาหลี ความพยายามแก้ไขข้อพิพาททะเลจีนใต้ และความตั้งใจที่จะปฏิบัติตามกฏบัตรอาเซียน
นายกวียังกล่าวชื่นชมวิสัยทัศน์ 2030 ที่ประกาศออกมาในช่วงการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเสริมสร้างเสถียรภาพความมั่นคงทางการเมือง และสังคม หรือการตั้งเป้าว่าจะหลุดพ้นการเป็นประเทศยากจนขึ้นเป็นประเทศรายได้ระดับกลางในปี 2020 ซึ่งการเปลี่ยนผ่านของลาวในเรื่องนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ชาติอาเซียนอื่นๆ หรือแม้แต่การให้ความสำคัญแก่การพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเรื่องนี้แม้แต่ประเทศไทยเองก็ยังต้องดูลาวเป็นตัวอย่าง
ในโอกาสนี้ 2 องค์กรสื่อ นำโดยนายวันชัย วงศ์มีชัย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย.และนายสะหวันคอน ราดซะมนตรี ประธานสมาคมนักข่าวแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้แทนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และผู้แทนสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ลงวันที่ 6 เมษายน 2559 เพื่อกระชับ ส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เพื่อยืนยันว่าทั้งสองสมาคมจะร่วมมือกันในการทำงานในระหว่างปี 2559-2560 โดยบันทึกความเข้าใจของ2องค์กรสื่อ ระบุว่า
ข้อที่ 1 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทั้งสองสมาคม และติดตามความคืบหน้าของกิจกรรมต่างๆที่ได้ร่วมลงนามในการบันทึกข้อตกลงทำความเข้าใจในการพบปะกันครั้งที่ผ่านมาในวันที่ 15 กันยายน 2558 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป ลาว
ข้อที่ 2 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว ยังคงยืนยันที่พัฒนาความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งประสานความร่วมมือด้านการจัดฝึกอบรมเกี่ยวกับสื่อใหม่ (New Media) รวมถึงข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ซึ่งทางผู้แทนจากสมาคมนักข่าวแห่ง สปป ลาวได้กล่าวขอบคุณและแสดงความชื่นชมสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในการจัดอบรมความรู้เรื่องสื่อใหม่ให้กับสื่อมวลชนลาวที่นครหลวงเวียงจันทร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ.2558 ซึ่งได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งทางผู้แทนสมาคมนักข่าวแห่ง สปป ลาว แสดงความต้องการให้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจัดการอบรมในลักษณะดังกล่าวด้วยหลักสูตรที่สูงขึ้นต่อไป
นอกจากนั้นสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยยินดีที่พัฒนาความร่วมมือในการทำงานโดยจะได้มีการจัดฝึกอบรมเรื่องการรายงานข่าวให้กับนักข่าวลาวที่ทำงานอยู่ตามภูมิภาคของประเทศลาวอีกด้วย
ข้อที่ 3 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาวเห็นด้วยที่จะจัดเวทีแลกเปลี่ยนบทเรียนการทำหน้าที่ของบุคคลากรในตำแหน่งบรรณาธิการ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในประเด็นเกี่ยวกับการบริหารงานสื่อมวลชนในยุคดิจิตอล
ข้อที่ 4 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาวเห็นด้วยที่จะต้องมีการปรับปรุงเนื้อหาคู่มือสื่อมวลชนลาว-ไทย และไทย-ลาว โดยทั้งสองสมาคมได้มีการตั้งคณะทำงานปรับปรุงเนื้อหาคู่มือสื่อมวลชนลาว- ไทย และ ไทย-ลาว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อที่ 5 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว มีความเห็นพ้องต้องกันให้มีการประสานความสัมพันธ์กันในภารกิจสื่อระดับนานาชาติ ซึ่งรวมถึงการขับเคลื่อนในฐานะสมาชิกสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์อาเซียน โดยทั้งสองสมาคมแสดงความพร้อมในการปรับปรุง ส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์ ทั้งนี้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว จะร่วมมือกันผ่านทางสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดการประชุมคณะทำงานพัฒนาปรับปรุงการทำงานของสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์อาเซียน (CAJ) ณ นครหลวงเวียงจันทน์ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2559 โดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ยินดีที่จะให้การสนับสนุนในการจัดประชุมตามที่ สมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว ร้องขอ
ข้อที่ 6 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว ยืนยันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระหว่างสองสมาคมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการปรึกษาหารือในรายละเอียดต่างๆ ที่จะเป็นการช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีของนัก
หนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนทั้งสองประเทศ รายละเอียดการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อตกลงที่ได้ลงนามร่วมกันก่อนหน้านี้ และในปี 2560 ทางสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจะเดินทางไป สปป.ลาว
ข้อที่ 7 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาวยืนยันร่วมมือในการส่งเสริมการยกระดับความรู้ด้านวิชาชีพให้แก่นักข่าวนักหนังสือพิมพ์ของทั้งสองประเทศ โดยผ่านหลักสูตรการอบรมทางวิชาชีพ การศึกษาดูงานด้านสื่อมวลชน และการมอบทุนการศึกษาแก่นักข่าวนักหนังสือพิมพ์ทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่จะได้มีการเร่งรัดดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป