xs
xsm
sm
md
lg

พระใต้ตั้งวงไล่ "พุทธะอิสระ" ประกาศ “อุกเขปนียกรรม” ขับออกจากคณะสงฆ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้งว่า พวกเราจะทำอะไรต่อจากนี้ไป หลังการประชุมปรึกษาหารือกันเป็นการภายในเฉพาะ และอาตมาก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ เล่าให้ฟังอย่างกว้างๆ ว่า การที่รับกิจนิมนต์พิเศษของท่านนายกรัฐมนตรีอยู่แต่เพียงลำพังฝ่ายเดียว ในขณะที่อีกฝ่ายไม่หยุด ไม่เลิก ไม่ลดราวาศอก วิธีแบบนี้ไม่สามารถทำให้ปัญหายุติลงได้ ไม่ยุติแน่นอน ใครก็มองเห็น

"ในส่วนของผู้นิมนต์พิเศษนั้น ก็ควรใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกฝ่าย ควรใช้ทั้งกับฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายต่อต้านทุกกลุ่มเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันในสังคม แต่เมื่อเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงดำเนินการมาถึงวันนี้ คณะสงฆ์และคนทั้งประเทศก็มองเห็นแล้วว่าอะไรเป็นอะไร จะให้พวกเราทำอย่างไร พวกเราไม่มีทางเลือก ไม่มีทางเลือกจริงๆ จะให้นั่งงอมืองอเท้าเพื่อขอความเมตตากรุณาจากฝ่ายรัฐหรือฝ่ายต่อต้านเช่นนั้นหรือ"

พระเมธีธรรมาจารย์ระบุว่า หลังจากการประชุมหารือร่วมกันแล้ว ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนาพร้อมภาคีเครือข่าย จึงมีมติร่วมกันให้เดินหน้าในเรื่องการแสวงหาความเป็นธรรมในการสถาปนา พระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ต่อไป ต้องเดินหน้าต่อไป

ช่วงท้ายพระเมธีธรรมาจารย์ระบุว่า ขอขอบคุณเจ้าคณะพระสังฆาธิการทั่วประเทศ ภาคีเครือข่าย และองค์กรทางพระพุทธศาสนาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่ให้การสนับสนุน ให้กำลังใจ และให้คำมั่นสัญญาต่อกันในความร่วมมือเหมือนที่เคยทำร่วมกันมาแล้ว ถามว่าพวกเราจะทำอะไรต่อจากนี้ไป ถามแบบนี้คงตอบได้ยาก และหลายท่านก็พยายามจะตั้งคำถามแบบนี้ จึงตอบคำถามทำนองนี้ได้ยาก ถ้าจะตอบ ตอบได้แต่เพียงว่าพวกเราทั้งหมดพร้อมที่จะร่วมมือกันเพื่อเดินไปข้างหน้าในการแสวงหาความเป็นธรรมต่อไป

ด้านพระปลัดนรุตม์ชัย อภินนฺโท เลขาธิการองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนา ภาคใต้ ได้ออกจดหมายเปิดผนึก ถึง ท่านพุทธะอิสระ ความว่า ข้าพเจ้า พระปลัดนรุตม์ชัย อภินนฺโท วัดเกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงท่านพุทธะอิสระ และกลุ่มที่หนุนหลังให้เคลื่อนไหวทำลายพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ เพื่อชี้แจงกรณีที่ท่านได้เขียนบทความเผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊ก มีเจตนาเบี่ยงเบนให้คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ว่า พระเถระภาคใต้ 2 รูป คือ พระอธิการฉัตรชัย อธิจิตโต หรือรู้จักในนาม เจ้าชัย ศิษย์บางใหญ่ เจ้าอาวาสวัดบางใหญ่ ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช และพระครูวิรัติธรรมโชติ เจ้าคณะอำเภอเมือง จังหวัดสงขลา หรือชาวบ้านรู้จักท่านในนามหลวงพ่อมีชัย เป็นพระสายธรรมกาย เป็นลิ่วล้อการเมือง ออกมาปกป้องตามใบสั่ง เป็นต้น

ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวเป็นการชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด ให้ผู้คนได้แสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ก้าวร้าว ดูหมิ่น เหยียดหยาม สร้างความเสียหายแก่พระเถระภาคใต้ทั้ง 2 รูป ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ทั้ง 2 รูป ท่านเป็นพระของชาวบ้าน ทำเพื่อพระพุทธศาสนา เป็นพระวิปัสสนาจารย์ หนักในการเจริญพระกรรมฐาน แต่ก็รักในความถูกต้อง ไม่เล่ห์เหลี่ยม ไม่เข้าพวกกับการเมือง แม้ในยามพระสงฆ์และชาวพุทธบาดเจ็บ ล้มตาย จากเหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านไม่เคยทิ้งพระเณร ไม่เคยทิ้งชาวพุทธในพื้นที่ การที่ท่านพุทธะอิสระออกมาพูดให้ร้ายพระสงฆ์ภาคใต้ทั้ง 2 รูป เสมือนหนึ่งว่า บัดนี้ ท่านได้ประกาศตัดขาดจากพระสงฆ์ภาคใต้แล้ว

ในนามเลขาธิการองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนา ภาคใต้ เห็นว่า พุทธะอิสระเป็นภิกษุพาล เที่ยวรุกรานภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักให้ได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว ไม่เว้นแม้พระนวกะ มัชฌิมะ หรือพระเถระผู้เฒ่าปูนชรา จึงเห็นสมควรตัดขาดภิกษุเช่นนี้จากคณะสงฆ์ ขอให้พระสงฆ์ทั่วสังฆมณฑล จงร่วมกันลงทัณฑกรรมตามแนวพุทธวิธีที่ทรงอนุญาต ประกาศอุกเขปนียกรรม ขับไล่ทุมมังกุภิกษุผู้ไร้ยางอายนี้ ออกจากหมู่สงฆ์ ลงโทษให้สมกับที่ได้สร้างความเสียหายให้แก่พระพุทธศาสนา โดยกำหนดจะเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อแจ้งให้รัฐบาลถวายความอุปถัมภ์ ในการที่คณะสงฆ์จะดำเนินการทางพระธรรมวินัย ลงอุกเขปนียกรรม ขับพุทธะอิสระออกจากหมู่สงฆ์ เพื่อนำความเรียบร้อยดีงามคืนสู่พระพุทธศาสนาต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น