นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะรักษาการเลขาธิการกกต. กล่าวถึงกรณีสำนักงานมีปัญหาเรื่องงบประมาณ ว่าที่ผ่านมาได้นำเงินสะสมที่เหลือจากการเลือกตั้งไปใช้ในภารกิจต่าง ๆ ทั้งการปรับเงินเดือนพนักงาน การก่อสร้างอาคารสำนักงาน และการจัดทำโครงการต่าง ๆโดยไม่เคยได้รับการจัดสรรงบเหล่านี้จากสำนักงบประมาณเลย ทำให้งบสะสมของร่อยหรอ ซึ่งในปีงบประมาณ 2560 ถ้าไม่ได้รับการจัดสรรงบในจำนวนที่เพียงพอก็จะเกิดผลกระทบกับการทำงานของสำนักงานรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าตอบแทนต่าง ๆ ของพนักงานด้วย เพราะในส่วนค่าตอบแทนของพนักงาน เช่น เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สำนักงบประมาณ ก็ไม่เคยจัดสรรให้กับ กกต.
อย่างไรก็ตาม งบสำรองที่เหลืออยู่ ถ้าถามว่ามันวิกฤติหรือไม่ มันก็วิกฤติ เพราะเรามีเงินสำรองจ่ายในปีงบประมาณ 2559 เหลืออยู่ประมาณ 72 ล้าน ฉะนั้นถ้าหากว่าจำเป็นต้องใช้เงินสำรองนี้ไปในส่วนใดส่วนหนึ่งอีกที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ก็เท่ากับว่าเงินสำรองเราก็จะน้อยลงไปอีก และถ้าไม่ได้รับการจัดสรรมาในปีงบประมาณ 2560ให้เพียงพอกับการเป็นค่าเงินเดือน หรือค่าตอบแทนพนักงานอีก ก็จะทำให้มีปัญหา ไม่เฉพาะกับแค่นี้ด้วยซ้ำไป แต่ในส่วนแผนงานโครงการอื่น ๆ ที่เราเตรียมไว้ก็จะมีผลกระทบไปด้วย ซึ่งตอนนี้ทางสำนักงานก็กำลังเร่งทำแผนคำของบประมาณปี 2560 อยู่ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมพิจารณา เพราะรัฐบาลกำหนดให้ กกต.ต้องเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ 4 มีนาคม 2559 แต่ตัวเลขที่ขอยังไม่ชัดเจน ซึ่งน่าจะไม่ต่างจากที่ขอทุกปี คือประมาณ 5,000 ล้าน และก็ไม่รู้ว่าสำนักงบจะจัดสรรให้เหมือนทุกปีหรือเปล่า คือประมาณไม่เกิน 2 พันล้าน เพราะขณะนี้ กกต.เกิดงบประมาณไม่เพียงพอขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม งบสำรองที่เหลืออยู่ ถ้าถามว่ามันวิกฤติหรือไม่ มันก็วิกฤติ เพราะเรามีเงินสำรองจ่ายในปีงบประมาณ 2559 เหลืออยู่ประมาณ 72 ล้าน ฉะนั้นถ้าหากว่าจำเป็นต้องใช้เงินสำรองนี้ไปในส่วนใดส่วนหนึ่งอีกที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ก็เท่ากับว่าเงินสำรองเราก็จะน้อยลงไปอีก และถ้าไม่ได้รับการจัดสรรมาในปีงบประมาณ 2560ให้เพียงพอกับการเป็นค่าเงินเดือน หรือค่าตอบแทนพนักงานอีก ก็จะทำให้มีปัญหา ไม่เฉพาะกับแค่นี้ด้วยซ้ำไป แต่ในส่วนแผนงานโครงการอื่น ๆ ที่เราเตรียมไว้ก็จะมีผลกระทบไปด้วย ซึ่งตอนนี้ทางสำนักงานก็กำลังเร่งทำแผนคำของบประมาณปี 2560 อยู่ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมพิจารณา เพราะรัฐบาลกำหนดให้ กกต.ต้องเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ 4 มีนาคม 2559 แต่ตัวเลขที่ขอยังไม่ชัดเจน ซึ่งน่าจะไม่ต่างจากที่ขอทุกปี คือประมาณ 5,000 ล้าน และก็ไม่รู้ว่าสำนักงบจะจัดสรรให้เหมือนทุกปีหรือเปล่า คือประมาณไม่เกิน 2 พันล้าน เพราะขณะนี้ กกต.เกิดงบประมาณไม่เพียงพอขึ้นแล้ว