xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ : คืนความสุขให้คนในชาติ 1 มกราคม 2559

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สวัสดีปีใหม่ครับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน ปีใหม่นี้ผมขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนช่วยกันก้าวข้ามความขัดแย้ง คดีความต่างๆ นั้นก็ขอให้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมดำเนินการเป็นอิสระ และพวกเราทุกคนต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต ขอให้ปีใหม่นั้นเป็นปีแห่งความสุข มีแต่ความสุข ความสมหวัง อนาคตที่สดใส เป็นปีแห่งการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ เสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อจะช่วยกันสร้างสรรค์และพัฒนาบ้านเมืองของเราให้มีความสงบสุขร่มเย็น ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร

รัฐบาลนั้นขอความเข้าใจ ความร่วมมือ จากประชาชนทุกคน ทุกฝ่าย ทุกพวก ที่เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญของชาติ และจากทุกภาคส่วน ร่วมกันขับเคลื่อนประะเทศของเราภายใต้ฟันเฟืองประชารัฐของเรา เพื่อจะสร้างบ้านแปลงเมืองให้เจริญรุดหน้าในทุกๆ ด้าน เพื่อความมีเสถียรภาพ มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ประชาชนทุกคนมีความพึงพอใจมีความสุขนะครับ

ในศักราชใหม่นี้ ผมขอนำเรื่องดีๆ มาฝากพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เพื่อจะเป็นกำลังใจเป็นเครื่องยืนยันว่า ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้นะครับ ทุกคนคงจำมนุษย์เพนกวินได้นะครับ คือ นายเอกชัย วรรณแก้ว ที่แม้จะไร้แขนทั้งสองข้าง แต่เป็นตัวอย่างของการไม่ยอมแพ้ สู้ชีวิต คิดบวก และที่สำคัญก็คือ ไม่ทำตัวให้เป็นภาระของสังคม แต่กลับสร้างสรรค์สังคม และประเทศชาติให้งดงามในขีดความสามารถ และข้อจำกัดด้านร่างกายของตนเองไม่ให้เป็นอุปสรรคนะครับ วันนี้เขาได้พิชิตยอดเขาคิลิมันจาโร ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา มีความสูงกว่า 5,895 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เพื่อวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 88 พรรษา และร้องเพลงสดุดีมหาราชา ด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปีติจนลืมความเหนื่อย และความหนาวไปชั่วขณะหนึ่ง

สิ่งที่คุณเอกชัยฝากบอกสังคมไทย และชาวโลกก็คือ ความสำเร็จครั้งนี้มาจากศรัทธาอันแรงกล้าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และบอกอีกด้วยว่า อย่าเพิ่งท้อแท้ตราบใดที่ยังไม่ได้ลงมือทำนะครับ และการปีนเขาไม่ได้ใช้ร่างกายเป็นหลัก แต่ว่าใช้ใจถ้าใจถึงอย่างอื่นจะตามมาเอง สรุปว่าเป็นพลังในการทำงานของผมต่อไป เพื่อประเทศชาติ และเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยได้หลุดพ้น แม้จะทำในสิ่งที่ยาก หรือยากขึ้น ก็ขอเพียงมีศรัทธา มีความหวัง มีกำลังใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมอบให้กันและกันในเวลานี้ เพื่อจะเป็นพลังขับเคลื่อนในการปฏิรูปประเทศ

เนื่องจากที่ผ่านมานั้น ผมได้เดินทางลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.สงขลา พร้อมคณะ เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานต่างๆ ตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น โครงการรับเบอร์ซิตี้ มูลค่ากว่า 1,670 ล้านบาท และศูนย์อำนวยการการลงทุนโครงการนิคมอุตสาหกรรมยาง ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทีมีการจัดตั้งมานานแล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จสูงสุด และรัฐบาลนี้เข้ามาสานต่อ ผลักดัน ขยายผลการสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบของคอสเตอร์ที่ต้องอาศัยการเชื่อมโยงภาคธุรกิจอื่นๆ ด้วย เริ่มจากในพื้นที่ ขยายสู่จังหวัด ภูมิภาค และทั่วประเทศ และต่างประเทศให้ได้ จึงจะได้เรียกว่าเป็นฐานการผลิตยางพาราที่เต็มรูปแบบ สามารถรองรับการลงทุนจากนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ทั้งภายใน ภายนอกประเทศได้ในอนาคต เราได้ตั้งเป้าไว้ว่า ในปี 2564 เราจะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในโรงงานยางพาราไม่ต่ำกว่า 70 ราย รวมมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท ผลดีที่จะตามมา เช่น การจ้างงานกว่า 7,000 คน การเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราไม่ต่ำกว่า 1-2 แสนตันต่อปี และมูลค่าการผลิต 6,000-14,000 ล้านบาทต่อปี เป็นต้น ทั้งหมดนั้นเป็นวิธีการแก้ปัญหายางอย่างยั่งยืน โดยการใช้ภายในประเทศให้มากขึ้น

สำหรับมาตรการส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมยางพารา และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างครบวงจรนั้น เราจะต้องเดินหน้า Rubber City ของรัฐบาลให้ได้ผลอย่างจริงจัง โดยเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เราจะแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1. อุตสาหกรรมหลัก เช่น อุตสาหกรรมยางสำหรับรถยนต์ อุตสาหกรรมท่อยาง และทำถุงมือยาง อุตสาหกรรมแปรรูปน้ำยางข้น รวมทั้งอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพารา เป็นต้น 2. คืออุตสาหกรรมสนับสนุน เช่น โครงการนำร่องสวนยางในอนาคต โครงการวิจัยและพัฒนาร่วม การจัดทำศูนย์ข้อมูล ศูนย์แสดงสินค้า ลอจิสติกส์ ตลาดกลาง คลังสินค้า รวมทั้งสถาบันการศึกษา และฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับยางพาราในทุกด้าน ทั้งนี้ เพื่อจะเพิ่มประสิทธิภาพทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมยางพาราของประเทศ รวมไปถึงแผนการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเรื่องของการสร้างถนน ระบบไฟฟ้า ระบบประปา เพื่อจะรองรับการเข้ามาลงทุนของผู้ประกอบการในปีหน้า และในอนาคต เกษตรกรเองก็ต้องเร่งพัฒนาตนเอง ขอให้มีการรวมกลุ่มพัฒนาพันธุ์พืชที่ปลูก วิธีการปลูก การใช้น้ำ การเลี้ยงสัตว์ และการปลูกพืชที่แซมสวนยางไปด้วย ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ได้ไปตรวจเยี่ยมมาแล้ว และเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งคือว่า ไม่มีการบุกรุกป่าในการทำสวนยาง หรือการทำการเกษตรอีกต่อไป ปัจจุบันได้รับการรายงานว่า มีผู้ผลิตล้อรถยนต์รายใหญ่ของจีน 2 บริษัท ให้ความสนใจติดต่อเพื่อจะเข้ามาลงทุนเพื่อผลิตยางคอมปาวด์ เนื่องจากเห็นศักยภาพด้านผลิตและการขนส่ง ที่สำคัญคือนโยบายและทิศทางการส่งเสริมของภาครัฐที่แสดงออกถึงความจริงใจ ชัดเจน ในการที่จะขับเคลื่อนโครงการรับเบอร์ ซิตี้ นอกจากนั้น รัฐบาลยังคงต้องส่งเสริมการสร้างโรงงานขนาดเล็ก ในการแปรรูปยางพาราในท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี การหาแหล่งเงิน และสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟท์โลน สำหรับผู้ประกอบการดังกล่าว เพื่อสร้างความเข้มแข็ง สร้างผู้ประกอบการรายใหม่ขึ้นนะครับ รวมทั้งส่งเสริมการรวมกลุ่มสหกรณ์ ผู้ผลิตยางพารา เพื่อจะป้อนเข้าสู่โรงงานผลิตล้อยาง หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากยางพาราในอนาคต ก็อยากขอข้อมูลโดยเร็วนะครับ ทุกคนต้องเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนผ่านในเรื่องระบบเศรษฐกิจของไทยในอนาคตด้วย

ทั้งนี้ ผมได้ย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หาช่องทาง สร้างแรงจูงใจในการดึงดูดนักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ให้เข้ามาลงทุนในโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพาราแห่งนี้ เราได้มีการพิจารณาสิทธิพิเศษ มาตรการด้านภาษี การพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งทางบก ทางทะเล ตลาดในการส่งออก และด้านแรงงาน รวมทั้งการวิจัย และต่อยอดอุตสาหกรรมยาง เพื่อจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ สำคัญที่สุดเวลานี้เราจะต้องพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืน ครบวงจร โดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เป็นอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อยกระดับฐานะรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่ ในการสร้างงาน สร้างความมั่นคงในอาชีพ

นอกจากนั้นผมและคณะได้เยี่ยมชมโครงการปลูกกล้วยหอมทอง แซมในสวนยางพาราที่บ้านของ นายวิสูตร คันทรักษา สมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด เป็นโครงการที่น่าชื่นชม น่ายินดี น่ายกย่อง และเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมของรัฐบาลในปัจจุบัน ในการที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเกษตรกรโดยความสมัครใจที่จะไม่ยึดติดกับการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยว ที่เรียกว่า เกษตรเชิงเดี่ยว ไม่ว่าจะข้าว ไม่ว่าจะยางอะไรก็แล้วแต่ด้วยความสมัครใจ โดยการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้สูงสุด ไม่ปล่อยให้พื้นที่ว่างเปล่า ใช้พื้นที่ปลูกยางน้อย ใช้ยางพันธุ์ดีที่ให้ปริมาณยางมาก พื้นที่ที่เหลือใช้ในการเลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชอื่น สำหรับไร่นาส่วนผสม ก็สามารถทำได้นะครับ อันนี้ ผมรวมถึงเรื่องสวนยาง สวนผลไม้ แม้กระทั่งการทำนาข้าว

ทั้งนี้ เพื่อจะเอาพืชที่ปลูกแซมไว้ หรือการเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพเสริม เป็นรายได้เสริม ซึ่งจะได้คู่ขนานไปกับรายได้จากพืชผลหลัก ซึ่งต้องรอเวลาในการผลิตออกมา แปรรูปอีกเยอะแยะไปหมด เพราะฉะนั้น บางอย่างจะต้องปลูกพืชที่จำหน่ายได้อย่างรวดเร็วขึ้น ราคาดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชที่เป็นเรียกว่า ปลูกพืชอินทรีย์ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ใช้ยางฆ่าแมลง เหล่านี้ เราจำเป็นต้องเพิ่มการผลิตให้มากขึ้น เพราะความต้องการท้องตลาดมีจำนวนมาก ทั้งกรุงเทพฯ เขตเมือง แม้กระทั่งต่างจังหวัด ในโลกใบนี้ เช่นกัน เขาก็สนใจให้ราคาผลิตผลการเกษตรที่สืบเนื่องจากการไม่ใช้สารเคมีนะครับ เราจะได้ลดความเสี่ยงกับราคาสินค้าเกษตรที่มีความผันผวนตลอดเวลา มีการสร้างความมั่นคงให้กับอาชีพเกษตรกร ไม่ออกไปทำอาชีพอื่น เพราะว่าทุกคนมี ผมเชื่อมั่น ทุกคนมีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็นชาวนา ชาวไร่ ก็เป็นคนไทย เป็นอาชีพสุจริต ทุกคนภูมิใจในการเป็นชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน แต่รายได้น้อยลง เพราะฉะนั้น เราจะทำยังไงให้เขามีชีวิตความเป็นอยู่พอเพียง สมศักดิ์ศรีของเขา

สำหรับคุณวิสูตรนั้น เป็นเกษตรกรประกอบอาชีพสวนยางยาวนาน ไม่ได้เรียนอะไรสูงมากนัก แต่เมื่อประสบปัญหาราคายางตกต่ำ ก็ได้สมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร เพื่อจะร่วมโครงการปลูกกล้วยหอมทอง ตั้งแต่ปี 57 เป็นต้นมา โดยการสนับสนุนของสหกรณ์ ประกอบกับการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเอง ทำให้สามารถจัดแบ่งพื้นที่ที่มีอย่างจำกัดมาเพาะปลูกกล้วยหอมจำนวน 13 ไร่ ได้รับผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ ส่งออกขายไปยังประเทศญี่ปุ่น ได้รับกำไรจากการขายกล้วยหอมทอง คิดเป็นรายได้เสริม 20,000 กว่าบาทต่อไร ยิ่งกว่านั้น ปัจจุบันคุณวิสูตรหันมาทำเกษตรแบบปราดเปรื่อง คือนอกจากจะปลูกกล้วยหอมทองแล้ว ได้แบ่งพื้นที่ทำสวนยางพาราจำนวน 30 ไร่ กรีดยางขายรายวัน มีรายได้ประมาณ 1,100 บาท และมีการปลูกปาล์มน้ำมันขายอีกจำนวน 15 ไร่ มีรายได้เดือนละ 7,000-8,000 บาท เห็นไหมครับถ้าเราแบ่งพื้นที่ทั้งหมดออกมาเป็นส่วนๆๆๆ แล้วทำพืชแต่ละชนิด หรือเลี้่ยงสัตว์ มันจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเอง ไม่อย่างนั้นเราก็ต้องฝากความหวังไว้กับพืชชนิดเดียว ตกก็ตกไปทั้งหมด และทำให้รายได้ลดลง แล้วครอบครัวจะอยู่กินอย่างไร นี่ล่ะเป็นสิ่งที่ผมอยากจะให้พี่น้องชาวเกษตรกรเข้าใจ ไม่ต้องการจะไปบังคับให้ท่านเปลี่ยนพฤติกรรมแม้แต่นิดเดียวนะ เป็นเจตนาของผมที่ต้องการจะให้ทุกคนมีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีพในวันนี้ และในอนาคต

นอกจากนั้น ยังอาจจะแบ่งพื้นที่ปลูกไม้เศรษฐกิจด้วย เพื่อจะให้เป็นร่มเงา รักษาความสมดุลทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในการดำรงชีวิต ดำรงวิชาชีพของตน เท่าที่ทราบไม้ที่ปลูกเป็นไม้มะฮอกกานี ก็ถือว่าเป็นธนาคารให้ลูกหลานวันหน้า มันใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเจริญเติบโตเป็นไม้เนื้อแข็ง มีลายงดงาม ทำเฟอร์นิเจอร์ก็ได้ หรือว่าทำ .. ตอนนี้ที่เขาใช้กันอยู่ก็ทำด้ามปืนพก ทำอะไรต่างๆ เหล่านี้ ที่มันสวยงาม

ถ้าหากเรารู้จักว่าเราจะคิดอะไร เราจะทำอะไรใหม่ เราจะทำอะไรที่มีความแตกต่างแต่ไม่มั่นใจ ก็ไปถามเจ้าหน้าที่ เราพร้อมที่จะให้คำแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์เกษตรทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วไป ประจำอำเภอ หรือแม้กระทั่งในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ทั้งหมดจะต้องมีข้อมูลเหล่านี้ให้นะ ผมสั่งไปแล้วว่าอาจจะต้องมีการรวบรวมเล่ม รวบรวมเอกสาร หนังสือ วิธีการ ตัวอย่าง ในการที่จะปลูกพืชแซมอะไรบ้าง ตลาดเป็นอย่างไร เพื่อจะได้เกิดความมั่นใจ กระทรวงพาณิชย์ก็เข้าไปดูแลเรื่องการตลาด กระทรวงเกษตรฯ ด้วย มหาดไทยก็จะเป็นผู้ที่ทำให้เกิดความทั่วถึง ฉะนั้นวันนี้ผมอยากจะกราบเรียนว่า ก็อยากให้แนวทางไว้ดังนี้ว่า ทุกกระทรวงที่เป็นเจ้าภาพ ไม่ว่าจะเกษตรฯ หรือมหาดไทยก็ตาม ควรจะไปทำแปลงตัวอย่างเกิดขึ้นในทุกหมู่บ้าน ตรงไหนที่จะปลูกพืชแซม ตรงไหนที่จะปลูกไม้ยืนต้น หรือเลี้ยงสัตว์อะไรเหล่านี้ ถ้าทำตัวอย่างตามหมู่บ้านเหล่านี้ วันหน้าผมคิดว่าทุกคนก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเอง แต่ถ้าเราไปกำหนดล่วงหน้าไปบังคับเขา ก็เป็นปัญหาหมด คนไทยไม่ชอบการบังคับ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง เราต้องเพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินและทรัพย์สินที่มีอยู่เดิม อย่าไปขาย ถ้าไม่ทำแบบนี้วันหน้าก็ต้องขายที่ดินและต้องไปเช่าเขากลับมาอีก มันเป็นทางเลือกวันนี้ ขอให้ทุกคนพยายามศึกษารายละเอียด มีหลายตัวอย่างในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และทำจนประสบความสำเร็จ บางคนก็จบปริญญาตรี ปริญญาโท วันนี้กลับมาทำการเกษตรกันหมดแล้วหลายราย และร่ำรวย ก็ผมก็บอกว่า ฝากไปดูคนอื่นๆด้วย รวมกลุ่มให้ได้ ไปพัฒนาเกษตรกรรายอื่นๆด้วย ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ผมเห็นจากที่นำมาเสนอให้ผมทราบในงานต่างๆที่ผ่านมา ก็อยากจะฝากให้สื่อทุกสื่อช่วยกันสร้างสรรค์ นำเสนอทางเลือกเหล่านี้ เสนอเป็นข้อมูลให้กับพี่น้องชาวไร่ชาวสวน ถ้าไปมองในจุดอ่อน จุดบกพร่อง เช่น แล้วจะขายให้ใคร ตลาดที่ไหน ก็เขามีเจ้าหน้าที่แนะนำอยู่ วันนี้เราต้องพยายามเชื่อมั่น เชื่อฟัง และนำให้ตัวเองเข้าสู่การพัฒนาตนเองในระบบที่ต้องใช้ความรู้ ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านั้นมาประยุกต์ มาปฏิบัติตามให้เหมาะสมกับตนเอง เช่น การปลูกแตงกวา คุณประคอง เกษตรกรบ้านวังนาแหน ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ สร้างรายได้เดือนละ 2 แสน ถ้าทำนาอย่างเดียวจะได้ไหม 2 แสน เริ่มตั้งแต่ยกร่องขึ้นแปลง วางสายระบบน้ำหยดก็ลงทุนเล็กน้อย คลุมพลาสติกแล้วเจาะหลุม หยอดเมล็ดพันธุ์ ปักไม้ไผ่ขึงตาข่ายให้ต้นแตงกวาเลื้อยขึ้นไป ลงทุน 3-5 หมื่นบาท ปีหนึ่งปลูกได้ 3-4 ครั้ง เฉลี่ยวันละ 1-2 ตัน มีพ่อค้ามารับซื้อถึงหน้าสวน ราคากิโลกรัมละ 10 บาท ต่อไปถ้าสมมุติว่าทำเรื่องการขนส่งเอง ทำการตลาดเอง และสร้างเครือข่ายเอง ผมว่ามันจะทำให้เกษตรกรทั้งกลุ่มแถวนั้น คือไม่จำเป็นต้องเป็นแตงกวาอย่างเดียว อะไรก็ได้ที่มันปลูกแล้วเป็นรายได้ ทั้งหมดเป็นสินค้าที่สามารถที่เผื่อแผ่ แบ่งปัน ค้าขาย แลกเปลี่ยน และตั้งเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ ไปเชื่อมโยงกับขนาดกลาง ขนาดใหญ่ต่อไป เรียกว่าเป็นการพัฒนาตนเองทางด้านการเกษตร

อีกเรื่องหนึ่งคือการเลี้ยงปลาหนังลูกผสมบึกสยามแม่โจ้นะครับ ของเกษตรกร ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ก็เป็นพันธุ์ปลาที่ได้มีการวิจัยพัฒนาขึ้นมานำข้อดีของปลาสวาย และปลาบึกมารวมกัน เป็นที่น่าชื่นชม ในการพัฒนาของแม่โจ้มารวมกันลงทุน 4 เดือน ปลาพันธุ์ใหม่จ่ายค่าอาหารเม็ดเพียง 2,500 บาท รวมค่าพันธุ์ปลาตัวละ 40 บาท รายได้รวม 500 ตัวนั้น เลี้ยงได้ 4 เดือน มากกว่า 30,000 เห็นได้ว่าต้นทุนมันน้อยกว่าการทำการเกษตรแบบเดิมๆ มาก และผลกำไรมันมากขึ้น ลองคิดดูแล้วผมไม่อยากบังคับอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมพูดมาแล้วตลาดยังต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ ทั้งกล้วยหอม ทั้งแตงกวา ทั้งปลาอะไรเหล่านี้ มีอีกหลายอย่าง

ต่อไปคือเรื่องการปลูกดอกดาวเรืองของชาวบ้าน ต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา ใช้พื้นที่เพียง 1 ไร่ สร้างรายได้มากถึง 5 หมื่นบาทต่อเดือน หลายครอบครัวหันมาปลูกดอกดาวเรืองเป็นอาชีพหลักแทนการทำนา จะปลูกเป็นหลักเป็นรองก็ได้ทั้งนั้นนะครับ ทำนาก็ได้และก็เสริมด้วยตรงนี้ หรือจะทำตรงนี้เป็นหลัก และไปทำนาเสริม เพื่อใช้รับประทานก็แล้วแต่ท่าน ตัดสินใจเอาเอง ภายใต้การส่งเสริมขององค์การบริหารส่วนตำบลรำแดง และนักพัฒนาชุมชน ซึ่งจะคอยดูแล และประสานงาน บางครอบครัวก็ทำคู่การทำนา แบ่งแปลงปลูกเป็น 2 แปลง เท่าๆ กัน ปลูกแปลงแรกเก็บผลผลิตได้ และทยอยปลูกแปลงที่ 2 สลับไปสลับมา ใช้ที่เท่าเดิมนะแหละ ไม่ต้องบุกรุก ไม่ต้องขยาย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม ปรับปรุงดินให้ดี สลับหมุนเวียนกันไป ก็จะทำให้ผลผลิตต่อเนื่องนะครับ และมีเวลาในการปรับปรุงดินด้วย ก็มีพ่อค้าแม่ค้ารับถึงที่ ในช่วงเทศกาลงานบุญต่างๆ ราคาอาจพุ่งสูงขึ้นอีก 1 เท่าตัว สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ลองดูนะครับ ปรึกษาดูอยากปลูกอะไร ในเน็ตก็มี เราให้ความรู้ทางไอจีด้วย

ต่อไปฟาร์มเห็ดในเขตหนองจอก กรุงเทพฯ เห็ดนางฟ้าฮังการี เห็ดนางฟ้าภูฐาน และเห็ดโคนญี่ปุ่น ได้เดือนละ 7 หมื่น ถึง 8 หมื่นก้อน นะครับ ก้อนละ 6-8 บาท คูณตัวเลขเอาแล้วกัน

ต่อไปคือการปลูกผักนานาชนิด หลายชนิดนะ นานาชนิด ส่งขายตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท วันนี้ผมให้มีการจัดตั้งตลาดชุมชน ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดกลาง ทุกจังหวัดนะครับ กำลังขยายอยู่แต่ละจังหวัด ถ้าสามารถปลูกกันได้ ขายที่นี่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งส่งพ่อค้าคนกลางไป คัดดีๆ มาขายให้ได้ราคา เพื่อจะเลี้ยงชีพรายวัน ที่เหลือขายส่งไป แล้วแต่ ผมคิดว่า รัฐบาล เจ้าหน้าที่ พยายามอย่างเต็มที่ในการส่งเสริม ขอความร่วมมือให้สนใจร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เราด้วยนะครับ สนใจซึ่งกันและกัน ถ้าทางการให้ความรู้ท่าน ก็สนใจเขาหน่อย ชมเขาบ้าง เขาก็ทำให้ท่านทั้งนั้นแหละ

เพราะฉะนั้น วันนี้ ในส่วนของชาวนาในหมู่บ้านที่อำเภอบึงนาราง จ.พิจิตร นะครับ ได้มาร่วมกันสร้างรายได้เข้าหมู่บ้าน ได้วันละกว่า 200,000 บาท นะครับ อย่างที่ผมกราบเรียนว่าเราจะต้องใช้วิธีการของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือการเกษตรมิติใหม่ 3 3 3 1 นะครับ แต่ไม่จำเป็นต้อง 3 3 3 1 ในบ้านตัวเอง ท่านก็แบ่งพื้นที่เป็นเพื่อนบ้านของท่านอาจจะเป็น 3 แรก 3 ที่สอง และ 3 ที่สาม แล้ว 1 ก็คือบ้านของตัวเอง ก็ว่าไป แล้วมันก็จะเกิดเครือข่ายในกลุ่มของท่าน สร้างความเข้มแข็งกันเอง มีอำนาจใจการต่อรอง อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องคิดไว้แล้ว ต้องทำแล้วตั้งแต่วันนี้

วันนี้ที่ผมฝากไปเมื่อสักครู่นี้ ที่ยกตัวอย่างมา สร้างรายได้เข้าหมู่บ้านโดยรวมวันละกว่า 2 แสน วันละกว่า 2 แสน อาจจะดีกว่าไปทำอย่างอื่นตั้งหลายอย่างที่ต้นทุนสูง ขายได้น้อย ราคาตกต่ำ ทำไมเราจะต้องไปทำสิ่งที่มันเป็นอย่างนั้น แต่ไม่ใช่เลิกนะ ยังต้องทำอยู่ ยังไงเราก็ต้องอยู่ ต้องใช้ ต้องกิน แต่มันต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น

นอกนั้น นายธนนน ธีรวงศ์ไพศาลกุล จบการศึกษาปริญญาตรี กลับมายึดอาชีพทำการเกษตร ตามรอยบรรพบุรุษที่บ้านเกิด ผมเห็นหลายรายแล้ว บางคนก็จบวิศวกรบ้าง จบคุรุศาสตร์ อักษรศาสตร์ อะไรเหล่านี้ หรือจบนิติศาสตร์ ตอนนี้หลายรายกลับมาทำการเกษตร เกษตรแนวใหม่ Smart Farmer อะไรก็แล้วแต่ เพื่อเป็นการสืบสานตามรอยของบรรพบุรุษที่บ้านเกิด และรู้ถึงปัจจัยต่างๆ ในเรื่องของปัญหาภัยแล้ง ราคาข้าวตกต่ำ การใช้ปุ๋ยเคมีที่มีพิษ ก็หันมาปลูกเมลอนปลอดสารพิษในโรงเรือนขนาด 72 ตารางเมตร ก็ไม่ได้ใหญ่มากมายนะ ลงทุนไม่มากนัก ใช้ระบบน้ำหยด ก็สามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก ถ้าจะใช้สารเคมี ถ้าจะใช้ยาฆ่าแมลง นึกถึงคนรับประทานเขาด้วย แล้วถ้าวันหน้าเราปลูกได้ เรารับรองได้ กำหนดมาตรฐานได้ ราคามันสูงไปเองล่ะ ขายต่างประเทศเขาก็ต้องการหมด เขาจะดูว่าของประเทศไทยนี่ดีหรือเปล่า ก็พยายามหน่อยนะ

ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เมล่อนที่ว่านี้ถูกจองไปหมดแล้ว จองล่วงหน้า ยังไม่ออกลูกเลยก็จองแล้ว หรือออกมาเล็กๆ น้อยๆ เขาก็จองหมด แล้วก็ยังมีออร์เดอร์เข้ามาไม่ขาดสายเลยนะ นี่เป็นตัวอย่างเท่านั้นเอง ผมคิดว่าเราทำได้มากกว่านั้น อย่าไปกลัว อย่าไปกลัวการตลาด อย่าไปกลัวว่าไม่มีเงินทุน ก็มารวมกลุ่มกันให้ได้ รัฐบาลก็พร้อมที่จะเข้าไป แต่ถ้าเข้าไปทุกราย ๆ มันคงเป็นไปไม่ได้ ก็สมัครใจมาแล้วกัน ก็ไปเรียนรู้เอาเองจากเพื่อนบ้านที่เขาทำสำเร็จแล้ว ถ้ามันไกล ไปดูลำบาก ผมก็เลยบอกไปทำในพื้นที่ของเราเองสิ อย่างเช่นเมื่อกี้นี้ ตำบล หมู่บ้านไหนก็ตาม เขามี คนในหมู่บ้านแถวนั้นก็ควรจะได้เห็นและทำตัวอย่าง มันก็จะดีไปทั้งหมู่บ้าน นี่เขาเรียกว่าศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน ซึ่งจะต่อเนื่องเชื่อมโยงกับศูนย์การเรียนรู้สำนักงานเกษตร ของกระทรวงเกษตร มันต้องสร้างความเชื่อมโยงแบบนี้ ของประชาชน ของรัฐ แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ฟังสาเหตุซึ่งกันและกัน เราจะได้สร้างความรู้ให้กับพี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศได้ด้วย ให้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพสุจริต มีการพัฒนาตัวเอง เราต้องระวัง โลกเปลี่ยนแปลง อากาศเปลี่ยนแปลง ผมอยากเห็นการแสวงหาความรู้ มากกว่าการใช้ประสบการณ์อย่างเดียว ต้องส่งเสริมการทำงานร่วมกันในรูปแบบของประชารัฐ ผมพูดบ่อย ประชารัฐ เพราะประชาชนเป็นผู้กำหนดอนาคตตนเอง และรัฐเป็นผู้สนับสนุน แต่ละพื้นที่ รัฐบาลมีทุนให้แล้ว ศูนย์บริการประชาชนด้านการเกษตร เป็นสำนักงานส่งเสริมด้านการเกษตรเขต 9 แห่ง สำนักงานเกษตร 77 แห่ง สำนักงานเกษตรอำเภอ 800 กว่าแห่ง และสำนักงานไหนที่ไม่มีสิทธิภาพ หรือไปถามแล้วไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ก็ไปถามท่านผู้ว่าฯ ก่อน จากนั้นเดี๋ยวกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตร ไปดูเอง และท้ายสุด ถ้ายังแก้ไขอะไรไม่ได้ แจ้งมาที่รัฐมนตรีจะได้สั่งการให้

ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเกษตร 36 แห่ง และศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตร 14 แห่ง รวมทั้งสิ้น 1,018 แห่งทั่วประเทศ เริ่มทำแล้วนะครับ บางคนยังไม่ทราบ บอกไม่รู้จะไปเรียนรู้ที่ไหน แต่จริงแล้ว เรียนไปบ้างแล้ว แต่บอกทำไม่ได้ ทำไม่เป็น กลับมาก็ทำแบบเดิม เสียหายแบบเดิม ให้การทำงานทั้งหมดนะครับ ถ่ายทอด เผยแพร่ความรู้ทางวิชาการของเกษตรกร และประชาชน กำลังให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตร ไปดูพื้นที่เพาะปลูก ก็เป็นเรื่องที่พร้อมอยู่แล้ว ที่มันเป็นอย่างที่ว่าอยู่แล้ว แต่มันยังไม่สมบูรณ์ ส่งเสริมให้เป็นตัวอย่าง อย่างที่ผมกล่าวไปเมื่อสักครู่นะครับ ให้สมัครใจให้มาก ข้อสำคัญคือ รวมกลุ่มให้ได้ ประธานกลุ่มน่าจะมีถ้าในพื้นที่เดียวกัน คนเดียวนะ ถ้าพื้นที่เดียวกัน จังหวัดเดียวกัน มีไม่รู้กี่กลุ่ม ไม่รู้จะทำยังไง ถ้ากิจการเดียวกันไม่ใช่ยางมีนายกสมาคมเป็นสิบๆ คน มันไม่ได้หรอกครับ มันเป็นการทำให้สถานภาพในการต่อรองในการกดราคามันลดลง และเป็นช่องทางแสวงหาประโยชน์ด้วยอะไรด้วย ผมไม่อยากพูดต่อไปตรงนี้

สำหรับในการลงพื้นที่ภาคใต้นั้นสรุปว่า ประชารัฐของเรามีความคืบหน้าไปมากนะครับ และเราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม ปัจจัยภายนอก แต่ที่ไม่เปลี่ยนเราต้องถือหลักการที่ว่า ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นผู้ที่มีความพึงพอใจ เป็นผู้ที่มองเห็นอนาคตของครอบครัวตนเอง และของชุมชนด้วย เราจะต้องจัดโครงการลักษณะนี้นะครับ ทั้งอยู่กับที่ทั้งเคลื่อนที่ มีการแลกเปลี่ยนสินค้าของแต่ละชุมชน การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ราคาถูก การเสริมสร้างความรู้เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านการลงทุน อาชีพใหม่ๆ นะครับ บริการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินของรัฐ หรือของพาณิชย์ก็ตาม พร้อมให้คำปรึกษา รวมทั้งการสนับสนุนด้วยการตลาด ความเชื่อมโยง เพิ่มห่วงโซ่คุณค่า มูลค่าราคาผลิตภัณฑ์ วันนี้ทุกอย่างมันต้องสร้างนวัตกรรม และเพื่อการแข่งขัน เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ถ้าเราไม่สร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาจากวัสดุเดิม ราคามันก็ไม่เพิ่มขึ้น ไม่น่าซื้อ ไม่น่าใช้ แม้กระทั่งการออกแบบกล่อง ออกแบบที่ผลิตที่บรรจุภัณฑ์นะครับ สินค้าทั้งหมด ออกแบบไม่สวยไม่ดีมันก็ไม่น่าซื้อ ถึงมันจะดูดีก็ตามข้างใน ใครจะไปเปิดดู เขาดูจากข้างนอกก่อน มีสตอรีของการผลิตมาบ้างก็ได้ ถ้าเรื่องที่มันเป็นเอกลักษณ์

วันนี้อยากให้ร่วมกันนะครับ ทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ รวมความถึงสมาคมกองทุนหมู่บ้าน ธนาคารออมสิน ธนาคารเอสเอ็มอี ธนาคารเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่สำคัญในการลงพื้นที่ครั้งนี้คือได้รับฟังปัญหาที่แท้จริงจากประชาชนในพื้นที่นะครับ ผมคิดว่าท่านน่ารักทุกคน ทุกพื้นที่ทุกภาค ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ เพราะท่านเข้าใจว่าผมเข้ามาทำอะไรให้ท่าน ผมไม่ได้เข้ามาอะไรตักตวงผลประโยชน์อะไรกับท่านเลย ผมมาดูปัญหา และผมจะแก้ปัญหาบางปัญหามันแก้ง่าย บางปัญหามันแก้ยาก ก็ต้องแก้พร้อมกันไปนั่นแหละ แต่มันจะเสร็จไม่เท่ากัน ช่วยกันนะครับ ท่านจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น มันจะได้สัดส่วนสมดุลกับราคาสินค้า สินค้าทางไฮเทค เทคโนโลยีมันราคาสูง แต่ผลผลิตมันต่ำ และเราจะไปซื้อเขาได้ยังไง ทุกคนอยากใช้ไม่ใช่หรอ ท่านต้องทำตรงนี้มันขึ้นมาด้วยให้มันเกิดการสมดุลนะครับ ลูกหลานได้มีความสุข

เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ การพักผ่อนในช่วงปีใหม่ วันหยุดราชการ หยุดงานหลายวัน หลายคนต้องกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ เยี่ยมญาติพี่น้อง บางคนทำงานในกรุงเทพฯ กลับบ้านตัวเอง ภูมิลำเนา ขอให้เฉลิมฉลองในเทศกาลปีใหม่อย่างระมัดระวัง คือการมีความสุข อย่าให้มีความทุกข์ตามมา มีความสุขบางทีมันสุขมากเกินไป มันก็ตามมาด้วยความทุกข์ ฉะนั้นขอให้ทุกคนมีความสุขจากการพักผ่อนในช่วงปีใหม่ กราบผู้ปกครอง บิดา มารดา และขอให้เดินทางกลับอย่างมีสวัสดิภาพ ผู้ขับรถ พลขับ ท่านต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อประชาชนด้วย ขอให้นึกถึงชีวิตผู้โดยสาร แม้กระทั่งคนในครอบครัวตัวเองด้วย อย่าคึกคะนอง อย่าดื่มสุรา เพราะชีวิตคนอื่นเขาจะเสียไปด้วย บาดเจ็บ สูญเสียทรัพย์สิน เสียหาย มันเป็นภาระทั้งสิ้น อย่าให้ช่วงเวลาแห่งความสุขในช่วงปีใหม่ของเราในปีนี้ ซึ่งผมว่ามันเป็นโอกาสที่ดี ผมว่าเห็นหน้าประชาชนมีความสุขมากขึ้น การไปมาสัญจร การซื้อขาย เยอะแยะไปหมด อย่าให้ทุกอย่างเปลี่ยนจากความสุขมาเป็นความเสียใจ ความสูญเสีย คนที่อยู่ก็สูญเสีย เป็นภาระอีกเยอะแยะ ฉะนั้นการที่เราให้เจ้าหน้าที่ออกไปนั้น ผมไม่อยากให้ไปบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียว ถ้าหากทุกคนบังคับตัวเอง แก้ที่ตัวเองก่อน เจ้าหน้าที่ก็ไม่ต้องเหนื่อย เรื่องใช้กฎหมาย ไม่ต้องมีการละเมิดในเรื่องสิทธิของเรียกผลประโยชน์ อยากให้เจ้าหน้าที่ และกฎหมาย เป็นมาตรการเสริม มาตรการหลักนั้น เริ่มจากตัวเองก่อน

วันนี้ผมก็ทำของขวัญจาก คสช.ให้ท่าน ผมก็ได้คาดโทษไว้ มีการลงโทษสำหรับผู้ที่ทำความผิด ในเรื่องที่ทำให้สังคมเดือดร้อน มีการบาดเจ็บสูญเสียในช่วงนี้ คือใช้อำนาจในทางที่สร้างสรรค์ในการลงโทษพลขับ ลงโทษผู้ประกอบการ แล้วก็อะไรที่ต้องเข้ากระบวนการยุติธรรมก็ไปเข้าต่อไป ไม่งั้นไม่เข็ดหลาบ ไม่ระวังตัวเอง สิ่งที่ผมคาดหวังจากคำสั่งผม จะดูแลในเรื่องของอุบัติเหตุ เรื่องของความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ และเรื่องเด็กแว้น และเรื่องการตีกัน การสร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคมโดยรวม ผมต้องการให้ทุกคนเรียนรู้ว่า สิทธิมนุษยชนนั้น หรือว่า สิทธิเสรีภาพ จะต้องไม่ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพ ไปละเมิดชีวิตของคนอื่นเขา นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย ถ้าไม่มีแล้วจะทำอย่างไร มันก็เป็นแบบเดิม กี่ปีสูญเสียไม่รู้เท่าไหร่ เสียเงิน เสียเจ้าหน้าที่ ลงทุนโน่นนี่ ลงทุนง่ายสุดคือตัวของท่านเอง ช่วยกันลงทุน ชีวิตของท่านทั้งนั้น ก็เป็นผลดีต่อโดยรวม ขอให้เดินทางปลอดภัย มีความสุข สดชื่น ผมก็จะเตรียมพร้อมดูแลท่าน ผมคงไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว

ปีหน้าผมก็จะให้รางวัลตัวเองเหมือนกัน ปีหน้าผมจะพูดน้อยลง หงุดหงิดน้อยลง ทะเลาะกับนักข่าวน้อยลง ต้องทำตัวเป็น Good Guy แล้ว เอะอะมา 2 ปีแล้ว ที่ผมดุเดือดมาหน่อย 2 ปี ก็เพราะว่า เป็นช่วงเริ่มต้น ฉะนั้นช่วงปีต่อไป เป็นช่วงการปฏิรูป ผมบอกแล้วทุกอย่างต้องเริ่มจากตัวเองก่อน ผมปฏิรูปตัวผมเองด้วย ฉะนันทุกคนที่ทำให้ผมหงุดหงิด ทำให้ผมต้องพูดเยอะ ปฏิรูปตัวเองด้วยนะ อย่าให้ผมทำคนเดียว

ปลอดภัยนะ มีความสุข ร่วมกันเดินหน้าประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดีกว่ายิ่งๆ ขึ้นดี ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น