บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด ประเมินดัชนีหุ้นไทยสำหรับสัปดาห์ถัดไป (8-11 ธ.ค.) โดยมองว่าดัชนีมีแนวรับที่ 1,320 และ 1,300 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,345 และ 1,360 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การปรับตัวของตลาดหลังการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขสต๊อกสินค้าภาคค้าส่งเดือน ต.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต และยอดค้าปลีกเดือน พ.ย. ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี SET ปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (อาทิ กลุ่มพลังงาน และธนาคาร) โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,333.57 จุด ลดลง 2.17% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 27.67% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 38,724.80 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 543.93 จุด ลดลง 4.26% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยขยับลงเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัยลบ อาทิ การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด การปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยของดัชนี MSCI กระแสข่าวลือเรื่องสหภาพยุโรปอาจใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อไทย การปรับลดมาตรฐานการบินของไทยโดย FAA และสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของ ECB ที่น้อยกว่าที่ตลาดคาด ประกอบกับนักลงทุนมีการเทขายหุ้น เพื่อปรับโพสิชั่นก่อนช่วงวันหยุดยาว
ทั้งนี้ ดัชนี SET ปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (อาทิ กลุ่มพลังงาน และธนาคาร) โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,333.57 จุด ลดลง 2.17% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 27.67% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 38,724.80 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 543.93 จุด ลดลง 4.26% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยขยับลงเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัยลบ อาทิ การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด การปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยของดัชนี MSCI กระแสข่าวลือเรื่องสหภาพยุโรปอาจใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อไทย การปรับลดมาตรฐานการบินของไทยโดย FAA และสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของ ECB ที่น้อยกว่าที่ตลาดคาด ประกอบกับนักลงทุนมีการเทขายหุ้น เพื่อปรับโพสิชั่นก่อนช่วงวันหยุดยาว