xs
xsm
sm
md
lg

รายการคืนความสุขให้คนในชาติ (6 พ.ย.58)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน ช่วงนี้เป็นที่น่ายินดีนะครับ ที่กิจกรรม BIKE FOR DAD ปั่นเพื่อพ่อ ซึ่งเรากำหนดขึ้นในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ยังมีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม โดยมียอดผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมในกรุงเทพฯ เต็มแล้วนะครับ 1 แสนคน ต่างจังหวัดอีกกว่า 2 แสนกว่าคน และต่างประเทศอีกเกือบ 1 หมื่นคน และรวมมีผู้ลงทะเบียนปั่นจักรยานประมาณ 3.5 แสนคนแล้วในขณะนี้

สำหรับความคืบหน้าการเตรียมความพร้อม การกำหนดเส้นทางปั่นจักรยาน หรือเส้นทางสิริมงคลตามสถานที่สำคัญของแต่ละจังหวัด หรือสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในพื้นที่นั้นได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้วนะครับ จากนี้คงต้องปรับปรุงให้มีความปลอดภัย สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้การถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือแสดงออกถึงความรักที่มีต่อพ่อของแผ่นดิน เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ รวมทั้งเพื่อสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำ และน่าประทับใจสู่สายตาชาวโลกร่วมกันอีกครั้งนะครับ เป็นการรณรงค์และปลูกฝังการปฏิบัติตามกฎจราจร และการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยในทุกพื้นที่ด้วย ขอร้องให้ประชาชนทุกท่านช่วยกันดูแลพื้นที่ที่จะทำกิจกรรมให้เกิดความปลอดภัยให้มากที่สุดนะครับ จะต้องไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด

สำหรับวันนี้นั้นมีเรื่องสำคัญที่จะชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบดังนี้นะครับ ในเรื่องของการเลือกตั้ง การเตรียมการเข้าสู่การเลือกตั้ง ในปัจจุบันนั้นกำลังดำเนินการอยู่ เป็นไปตามโรดแมป และขณะนี้มีเสนอแนวทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง การคัดสรรอะไรก็แล้วแต่ สัดส่วนไรก็แล้วแต่ ผมติดตามรายละเอียดตลอดเวลานะครับ ผมให้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยอิสระ โดยผมไม่สนใจว่า พรรคการเมืองใดจะมีการได้เปรียบ เสียเปรียบ ผมสนใจแต่เพียงว่าเราจะทำกันอย่างไรให้เราได้พรรคการเมือง หรือผู้แทนราษฎรที่เป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ และได้รับการยอมรับ ประชาชนมีความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งเรื่องนี้ผมกราบเรียนว่า พี่น้องประชาชนต้องเรียนรู้ และทบทวนบทเรียนที่ผ่านมา ปัญหาอื่นๆ ด้วย ที่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหาอยู่ในเวลานี้ ให้สนใจด้วยนะครับ สิ่งสำคัญต้องรู้เท่าทัน ถ้าเราไม่สนใจเลยมันก็ถูกบิดเบือน ชักจูงในวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นการหาเสียง การเข้าสู่การเลือกตั้งอะไรก็แล้วแต่ เราจะได้คนไม่ดีเข้ามาอีก หมายถึงคนไม่ดีนะครับ คงไม่ใช่ทั้งหมด

ผมยืนยันนะครับ ระยะเวลาในการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งคือ 64 64 เหมือนเดิม จากที่เราต้องทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารประเทศในการแก้ปัญหาที่เป็นเรื่องเร่งด่วน ยังต้องใช้เวลาดำเนินการควบคู่ไปด้วย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ เพราะทุกขั้นตอนเป็นเรื่องสำคัญนะครับ หากเรายังคิดคนละส่วนๆ อยู่ มันไปด้วยกันไม่ได้ อยากจะกราบเรียนว่า ทั้ง 5 สาย ต้องไปพร้อมกัน ในแนวทางเดียวกันทั้งสิ้นแต่ท่านมีอิสระในการแสดงความคิดเห็นกันออกมา แล้วใช้ข้อยุติ หรือ มติของที่ประชุมต่างๆ ในการดำเนินการ เราอย่าทำให้ประเทศเสียหายอีกต่อไปเลย ด้วยคำพูดคำจา แล้วแต่ท่านยังยอมรับในความผิดพลาด ในปัญหาของประเทศเรา ผมเคยพูดไปแล้ว ในที่ประชุมร่วม 5 ฝ่าย เรื่องปิดประเทศอะไรต่างๆ เหล่านั้น ผมเพียงแต่พูดให้ฟังเท่านั้นเอง ถ้าเรายังไม่ร่วมมือกัน มันจะไปสู่ตรงจุดนั้น ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะผม ต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนตกใจ เจตนาต้องการจะเตือนทุกคนว่า หากว่าเรามีการต่อต้านบิดเบือนข้อมูล สร้างความขัดแย้ง บ้านเมืองเกิดความไม่สงบขึ้นมาอีก เราไม่สามารถหลุดพ้นเหตุการณ์เดิมๆ เลือกตั้งไม่ได้ เดินหน้าประเทศก็ไม่ได้

เพราะฉะนั้นตรงนั้นที่เป็นห่วง ผมนั้นอยากจะทำให้ทุกอย่างเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วตามที่โรดแมป เรามีอยู่เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศ และเดินหน้าประเทศไป อนึ่งจะไม่กลับไปสู่ที่เก่า เพราะฉะนั้นการเป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบของไทยนั้น วันนี้เราต้องให้ประชาชนเข้าใจอย่างถ่องแท้ รู้ปัญหา รู้วิธีการแก้ปัญหา รู้ถึงความร่วมมือที่จะทำได้อย่างไร ไม่งั้นเราจะปฏิรูปอะไรไม่ได้เลย สิ่งสำคัญประการแรกคือการปฏิรูปการเมืองของเราเสียก่อน เราจะต้องดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด เพื่อที่จะไปสู่ รวดเร็วที่สุด

เรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมืองนะครับช่วงนี้ กราบขอโทษ ผมอาจจะหงุดหงิดไปบ้าง หรืออาจจะแสดงออกทางสื่อต่างๆ ซึ่งอาจจะแสดงดู ใจร้อน ซึ่งมันเป็นนิสัยผมอยู่แล้ว แต่ผมขอโทษแล้วกันจริงๆ แล้วผมไม่ได้มีอะไรในใจ ซึ่งไม่ว่าจะใครก็ตาม เพียงแต่ว่าปัญหามันเยอะ งานที่กำลังทำอยู่ก็เยอะ มันซับซ้อนกันไปหมดแล้วขณะเดียวกันก็มีการยั่วยุ การให้ข่าวบิดเบือนตามสื่อต่างๆ ซึ่งไม่ค่อยจะเป็นธรรมกับผมมากนัก บางสื่อผมเคยเรียนไปแล้ว ก็ยังไม่ค่อยจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ผมก็ไม่เคยไปละเมิดจรรยาบรรณของสื่อ แต่ท่านก็ต้องระมัดระวังตัวท่านเองด้วย วันนี้ถ้าหากเรายังคงให้ร้ายเรื่อยๆ ผู้คนก็ไม่เข้าใจ แล้วเราจะได้การเมืองที่ดีมาได้อย่างไร

เรื่องการรณรงค์ใส่เสื้อสีนู้นสีนี้ ผมก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งสิ้น เห็นประชาชนก็ร่วมมือกันดี ก็ไม่ได้ขยายความขัดแย้งกันต่อไป ถ้าทุกคนไม่กดดันกันไปกันมา เจ้าหน้าที่ก็ไม่ต้องบังคับใช้กฎหมาย ผมว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ดี เป็นการแสดงให้เห็นว่าทุกคนก็เริ่มไปสู่กระบวนการปรองดองในชั้นต้นแล้ว เรื่องการแสดงสัญลักษณ์ต่างๆ หลายอย่าง การเคลื่อนไหวของกลุ่มนู้กลุ่มนี้ อยากจะให้รัฐสนใจ ให้ผมใช้กฎหมายพิเศษอะไรต่างๆ เหล่านี้ ประชาชนก็ช่วยกันดูแลได้ไหม ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายอะไรทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ก็สบายใจ บ้านเมืองก็สงบ มีเสถียรภาพ แต่ขณะเดียวกันก็มีหลายคนต้องการจะให้มีการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจะเกิดภาพความรุนแรงเกิดขึ้น ให้มองเห็นว่ารัฐบาลนั้นไม่เป็นธรรม สิ่งต่างๆ เหล่านี้มันเป็นสิ่งที่บิดเบือน ทำให้ต่างประเทศเขาไม่เข้าใจเราอีก และเราจะอยู่กันอย่างไร เพราะฉะนั้นถ้าหากท่านจะช่วยผม ช่วยบ้านเมือง ช่วยประเทศ ถ้าใครพบผู้ใดกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายปกติ หรือคำสั่ง คสช.เหล่านี้ก็ต้องอธิบายกัน ขอร้องกันว่าอย่าทำเลยนะครับ มันยกเว้นกันไม่ได้หรอกกฎหมาย หลายคนบอกว่า กฎหมายไม่เป็นธรรม ก็มันเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติไง เราจะต้องดำเนินการให้เรียบร้อยที่สุด บ้านเมืองจะต้องเดินไปได้ ไม่อย่างนั้นเลือกตั้งไม่ได้อีกนั่นแหละ

เพราะฉะนั้นกรณีที่เคลื่อนไหว ไม่ว่าจะในเรื่องของความเดือดร้อน หรืออะไรต่างๆ ก็ตาม เคยบอกแล้วเข้ามาในช่องทางที่ถูกต้อง เราจะแก้ไขให้ แต่ถ้าไม่ถูกต้อง วันหน้าต้องถูกดำเนินคดี เพราะเรามี พ.ร.บ.ควบคุมฝูงชนอยู่ด้วย พ.ร.บ.การชุมนุม เรียกว่าควบคุมฝูงชนก็ไม่ดีอีก จริงๆ แล้วคือ พ.ร.บ.การชุมนุมนะครับ มันมีกฎหมายอยู่ ขอให้ระมัดระวังด้วย การเคลื่อนไหวเรื่องความเดือดร้อน การเคลื่อนไหวเรื่องล็อตเตอรี มันมีปัญหาหมด รัฐบาลกำลังทำอยู่ ปัญหาคือว่าไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย ไม่ได้อยู่ที่ คสช. ไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่อะไรทั้งสิ้น อยู่ที่ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือเข้าใจ พอนึกถึงประโยชน์กันอย่างเดียว มันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้นั่นแหละ เริ่มตรงโน้นได้ ตรงนี้ก็เกิดขึ้นมาใหม่ อันนี้เป็นสิ่งที่เป็นปัญหากับล็อตเตอรีมายาวนาน ก็แก้ไปแล้ว ทุกคนพอใจ พอไปสักระยะหนึ่งเอาอีกแล้ว กลับมาในเรื่องของคนกลางเข้ามาอีกแล้ว มาขาย 79 บาทหรือไง ไอ้คนขายก็ขายไป 80 ได้เท่านั้น ผมไม่ทราบว่าจะรีดเลือดรีดเนื้อกันไปถึงไหน สำหรับคนที่มีสตางค์

เพราะฉะนั้นผู้ที่มีรายได้น้อยที่ต้องขายล็อตเตอรีก็ต้องเรียนรู้ว่า เราจะทำอย่างไร ไม่ใช่เรียกร้องบนถนน ปิดถนนแบบนี้มันผิดกฎหมายทั้งสิ้นนะครับ กีดขวางการจราจรทำให้คนอื่นเดือดร้อน ละเมิดสิทธิผู้อื่น และเกิดการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารปลุกระดม ปลุกปั่น หมิ่นประมาท ผิดกฎหมายทั้งหมดเลย เพราะฉะนั้น กฎหมาย ผมบอกแล้วว่า เป็นกฎหมายเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นคนจนคนรวย คนรายได้มากรายได้น้อย อย่างที่กล่าวอ้างกันว่า รังแกคนจนอีกหรือเปล่า ผมทำเพื่อคนทุกคนในประเทศไทยนะครับ

สำหรับเรื่องการออกคำสั่ง คสช. สัปดาห์ที่แล้ว คุ้มครองการทำงานของเจ้าหน้าที่ มาตรา 44 เรื่องการบริหารจัดการข้าวคงเหลือ อันนี้คงต้องอธิบายซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้ง ทางผมก็อธิบายแล้วขั้นต้น ท่านรองวิษณุก็อธิบายแล้ว แต่ยังมีคนบิดเบือนอยู่ ไม่เกี่ยวกับการนิรโทษล่วงหน้าอะไรซักอย่าง เป็นเรื่องการตรวจสอบการระบายข้าว ซึ่งมันจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย เมื่อทำไปแล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สบายใจ เขาตรวจสอบตามข้อเท็จจริง โดยบริสุทธิ์ใจ มันต้องเดินหน้าตามนั้น มันจะได้ไม่ต้องเกรงกลัวต่อการข่มขู่อะไรก็ตาม หรือกลัวถูกฟ้องร้องอะไรภายหลัง เพราะเจตนาบริสุทธิ์ในการทำงาน แต่หากเจ้าหน้าที่ทำงานไม่บริสุทธิ์ใจ เจตนาไม่บริสุทธิ์จริง ยังถูกฟ้องได้เหมือนเดิมนะ เพราะฉะนั้น เข้าใจซะด้วยอย่าบิดเบือน เพราะตอนนี้หลายคนถูกขู่ โดยใครไม่ทราบ เพราะถ้ามีกลับมามีอำนาจทางการเมืองอีก ให้ระมัดระวังให้ดีละกัน ข้าราชการ ผมคิดว่า สังคมจะเข้าใจตรงนี้ ไม่งั้นเราไม่ชัดเจนซักเรื่อง

ส่วนเรื่องอื่นๆ เรื่องความขัดแย้งอื่น ไม่ว่าจะเป็นสื่อต่างๆ ผมไม่เคยขัดแย้ง ผมพูดหลายครั้งแล้ว เมื่อเช้าวานนี้ ผมก็พูดไปอีกครั้ง ผมจำเป็นต้องบอกว่า เออ ถ้ามันผิดกฎหมายอีก จำเป็นต้องดำเนินการนะครับ สื่อก็พยายามจับภาพว่า ผมหงุดหงิดกับสื่อ ละเมิดสื่อ ควบคุมสื่อ ผมไปควบคุมอะไรท่าน ไอ้ที่ท่านเขียนกันทุกวันนี่้ เพราะผมควบคุมหรือไง ก็ไม่ควบคุมไง ถึงเขียนได้อย่างนี้ ผมก็ได้แต่เพียงบอกว่าระมัดระวัง วันหน้าอาจจะมีปัญหาในเรื่องของการทำงาน ในเรื่องของกฎหมายทางคดี มันมีอยู่ไม่กี่คนหรอก ไม่กี่ท่าน ไม่กี่สำนักพิมพ์หรอก มันเดือดร้อนกันไปทั้งหมดนะ มันทำให้ประเทศชาติวุ่นวายไปหมด ที่ดีๆ ก็เยอะกว่าอยู่แล้ว ก็ขอบคุณนะครับ ที่ดีๆ ที่ช่วยขยายที่ดีๆ ให้กับรัฐบาล และให้ประชาชนได้เรียนรู้ในปัญหาในความคืบหน้าในการทำงานของรัฐบาล บางสื่อ บางสำนักพิมพ์ก็ต่อต้านทุกเรื่องไปเหมือนกัน คือเหมือนกับว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลตลอด นั่นก็อย่างที่บอก จะเสนอทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เลย นี่ก็สิ่งที่รัฐบาลติดตามประเมินดูอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าผมดูคนเดียว

ในด้านเศรษฐกิจ ในมุมมองของรัฐบาลนี้ที่มีต่อมิตรประเทศ หรือมิตรประเทศมองเรา เราก็จะมุ่งเน้นเรื่องหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ Partnership เราจะไม่พยายามมุ่งที่จะแข่งขันกันอย่างเดียว เราจะมุ่งไปที่ความร่วมมือ สร้างความเข้มแข็งไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ในเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กำลังเร่งทุกเรื่อง การลดขั้นตอนต่างๆ ที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไร ละเว้น ไม่ใช่ ลดขั้นตอนก็คือลดเวลา บางทีใช้คำพูดอาจจะไม่ถูก ลดระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย เพื่อจะให้มันรวดเร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นก็ติดขัดทั้งหมด ระเบียบ คำสั่ง เงื่อนไขต่างๆ มันมีอยู่แล้ว ของเดิม มันทำให้เดินหน้าไปไม่ได้ ทั้งๆ ที่เป็นการกระทำโดยสุจริต ไม่ต้องเรียนรู้กับคำว่าทำโดยสุจริต กับไม่สุจริต หลายๆ คนอาจจะไม่เข้าใจคำนี้นะ หลายๆ โครงการรัฐบาลนี้ก็พยายามที่จะเริ่มต้นให้ได้ และส่งต่อให้รัฐบาลต่อไปดำเนินการ คนละเรื่องกัน เรื่องทุจริตก็บอกมา สอบสวนกันไป แต่ต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ ประชาชนก็อย่าขัดแย้ง อย่าโต้แย้งกันมากนักในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อโดยรวม มันจะเพิ่มพูนด้านเศรษฐกิจด้วย การลงทุน จ่ายเงิน งบประมาณของรัฐ นักลงทุน ก็จะขับเคลื่อนไปได้ มันก็จะมีผลดีต่อธุรกิจต่อเนื่อง เชื่อมโยงต่างๆ ทั้งหมด ประชาชนก็จะมีรายได้มากขึ้น รายได้ก็ดีขึ้น วันนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่าไม่เห็นได้สตางค์เพิ่มเลย จะได้ยังไงล่ะ มันยังเริ่มไม่ได้เลย ในเรื่องของใหม่ๆ มีทั้งดำเนิการไปแล้ว ติดขั้นตอนนั้น ขั้นตอนโน้น ไปไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าทุกคนอยากได้ มีรายได้ที่ดีขึ้น มีอาชีพที่ดีขึ้นกว่าเดิม ก็ต้องติดตามผลงานรัฐบาล และสนับสนุนในสิ่งที่ควรสนับสนุน

แนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นนะครับ จากการที่เรามีโครงการประชารัฐลงไป ทำให้ในชุมชนในพื้นที่มีเงินออกมาหมุนเวียน ในการใช้จ่ายบ้างนะครับ แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนักหรอกนะครับ ถ้าพูดถึงประชาชนที่มีรายได้น้อยนะครับ บ้านเรายังมีคนที่มีรายได้น้อยอยู่เป็นจำนวนมากนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรนะครับ 40 ล้านคน ประเทศเรามีอยู่ 70 มั้ง แล้วประมาณซัก 30 ล้าน นี่เป็นภาคการเกษตร 10 ล้านก็เป็นภาคอื่นๆ เพราะฉะนั้นรายได้น้อยก็ประมาณ 40 ล้านอยู่แล้ว ทำยังไงเขาจะไปได้ จะพอเพียงได้ในขณะนี้นะครับเศรษฐกิจในประเทศดีขึ้น แต่การส่งออกยังชะลอตัว เพราะเรากำลังดำเนินการในเรื่องของการสร้างนวัตกรรม พัฒนา ปรับปรุง โรงงานต่างๆ ให้ทันสมัยขึ้น สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำได้วัน สองวัน หรือเดือนสองเดือนนะครับ ผมเร่งรัดภายในปี 58 -59 ให้เร็วที่สุดโดยมีมาตรการในการที่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ เพื่อจะเร่งรัดให้เกิดขึ้นให้ได้ จะได้ไปส่งเสริมอาชีพรายได้ นอกจากการเกษตรเพียงอย่างเดียวนะครับ มูลค่าสินค้าของเราในปัจจุบันนั้นยังคงน้อยอยู่ เนื่องจากการแข่งขันของเรานั้นค่อนข้างกระทำได้อย่างจำกัดนะครับ แต่ก็ถือว่าดีกว่าหลายประเทศนะครับ เรื่องการส่งออกนี่ เรามีการติดลบตัวเลขที่น้อยกว่าประเทศอื่นๆ หลายประเทศด้วยกัน

เพราะงั้นเราจำเป็นต้องเร่งการพัฒนานะครับ ในระหว่างนี้ก็ต้องอดทนกัน แล้วก็ร่วมมือกันให้ได้ ด้วยการที่จะเพิ่มมูลค่าการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการวิจัยพัฒนาวันนี้ก็เห็นตื่นตัวกันมากแล้วนะครับ หลายอย่างก็นำสู่ภาคการผลิต นำมาสู่การใช้งาน รัฐบาลนี้ก็พยายามที่จะดำเนินงานอย่างเต็มที่นะครับแล้วก็มีรายการที่จะส่งเสริมนวัตกรรม ใหม่ๆ สู่การผลิตหลายรายการด้วยกัน

ภาคเอกชนขอให้มีความร่วมมือกับภาครัฐให้มากขึ้นนะครับ ผมเห็นรายการบางรายการในสื่อโทรทัศน์ มีการจัดรายการนวัตกรรมใหม่ๆ มาแข่งขันกัน ผมคิดว่าเป็นโครงการที่ดีนะครับ เพราะฉะนั้นประชาชนจะได้ตื่นตัว หลายคนก็คิดโน่นคิดนี่ออกมา แล้วมาประกวดประขันกัน อะไรที่ดีก็น่าจะนำไปสู่การผลิตได้นะครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น สินค้าโอทอป ต่างๆ เหล่านี้ มีการพัฒนาตามลำดับ วันนี้มีรายได้สูงขึ้น เป็นจำนวนมากนะครับ

รัฐบาลกำลังเร่งทุกเรื่อง ก็อย่าไปฟังคนพยายามต่อต้านทั้งหมดนะครับ เขาอาจจะไม่ต้องการให้ประชาชนเข้มแข็งก็ได้ ไม่อยากเห็นประเทศเดินหน้าเพราะว่าจะได้ชี้นำได้หรือเปล่า ทำนองนี้นะครับ ขอให้ไปเปรียบเทียบกันให้ดี อย่าเอาประเด็นทุกประเด็นมาพูดให้เสียหายมีวาทกรรม ที่ผ่านมาไม่เห็นพูดเลยว่าผิดพลาดตรงไหน มีปัญหาตรงไหน ไม่เคยพูดแล้วจะทำยังไง ไม่เคยพูดอีก ตอนนี้ก็มาพูดกันเรื่องเลือกตั้ง เรื่องการเข้าสู่เป็น ส.ส.อะไรต่างๆ เหล่านี้ แต่ไม่เคยเห็นพูดว่า จะแก้ปัญหาที่ผมแก้นี้อย่างไร เหมือนที่ผมพูดเลยนะครับ ขอให้พี่น้องไปพิจารณาดูแล้วกันนะครับ เราจำเป็นต้องมีการบรรเทาความเดือดร้อนด้วย ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชด้วย ปลูกพืชเพิ่มเติม เลี้ยงสัตว์เพิ่มเติมเช่นในสวนยาง เหล่านี้นะครับ เพื่อเป็นการเสริมรายได้ ไม่ใช่ยางอย่างเดียว บางครั้งอาจจะจำเป็นที่จะต้องหยุดการผลิตยางไปก่อน เพราะราคาตก แต่อย่างน้อยก็มีสัตว์ที่เลี้ยงไว ขาย ไว้รับประทาน หรือปลูกพืชที่แซมในสวนยาง เมื่อวานนี้หรือยังไงนี่ ผมเห็นในทีวี โทรทัศน์นะครับว่า มีหลายสวนยางด้วยกัน ที่ทำสวนยางในลักษณะสวนผสม มีการปลูกพืชอื่นไปด้วย เขาบอกเขาอยู่ได้ ถึงจะไม่กรีดยางเลย เขาก็อยู่ได้ เพราะมีพืชอื่นๆ ที่ใช้รับประทานได้ ส่วนใหญ่ของเรานั้นจะมุ่งเน้นเรื่องของปริมาณเป็นหลักนะครับ คุณภาพรองลงมา

ดังนั้นปริมาณมันก็มากไปเรื่อยๆ ถ้าหารว่าเราแซมด้วยพืชอื่นไปด้วย หรือว่าการเลี้ยงสัตว์ไปด้วย สิ่งที่จะเกินดีมานด์ไป ก็ไม่มากนักใช่ไหม แต่ขณะเดียวกันต้องมีรายได้ให้กินอยู่ในแต่ละวันในการดำรงชีวิตไป หรือขายได้บ้าง แบ่งสันปันส่วนกัน รับประทานบ้างตามแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนะครับ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง วันนี้หลายมาตรการที่ออกไปไม่ว่าจะเป็นข้าว ยางน้ำ อะไรต่างๆ มีมาตรการทั้งเร่งด่วน ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาเร่งด่วนนะครับ แล้วมาด้วยมาตรการ สร้างความเข้มแข็ง ในเรื่องของการโซนนิ่งพื้นที่ ด้วยความสมัครใจ ในเรื่องของการให้ความรู้อบรมต่างๆ มีมาตรการทยอยมาตามลำดับ แต่หลายคนก็เอามาตรการมาทีละมาตรการมาตีเอา ว่าทำไมเหมือนเดิมซิ แบบนี้ก็ทำเหมือนเดิม ท่านไม่ไปดูตรงอื่นเขาล่ะ ว่าเรื่องยางทำมากี่อย่างแล้ว หรือข้าวทำมากี่อย่างแล้ว และมีหลายอย่างไหมที่สร้างความเข้มแข็ง เพราะงั้นก็ไปเทียบเอาแล้วกันนะครับ

ประเด็นเรื่องไออียูนะครับ รัฐบาลไทยยืนยันเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่น ชัดเจน ในการแก้ไขปัญหาไออียู และการค้ามนุษย์ภาคประมง ในที่สุดวันนี้ รัฐบาลให้ความเห็นชอบไปแล้ว เอกสาร 3 ฉบับ มันมีความสำคัญมากต่อการพลิกโฉมการทำประมงของไทย เพื่อให้ได้มาตรฐานสากล ได้แก่เรื่องการออกพระราชกำหนดการประมง ที่จะทำให้ทุกส่วนราชการของไทยนั้น สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และ 2 คือ แผนบริหารจัดการประมงทะเล 3 คือแผนระดับชาติ ในการแก้ไขและป้องกันปัญหาไออียู ผมย้ำว่า รัฐบาลนี้ทำงานอย่างหนักโดยตลอด และจะเดินหน้าเพื่อเร่งแก้ปัญหาไออียู และปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคประมง รวมความถึงโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมเร็วที่สุด

หลายเรื่องที่เริ่มทำ เช่น การพัฒนาระบบติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวัง การติดตั้งระบบติดตามเรือ (วีเอ็มเอส) พัฒนาระบบฐานข้อมูลระหว่างทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาไออียู การตรวจตามท่า การตรวจเรือประมงเข้า-ออกท่า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น ก็พยายามทำให้กระบวนการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวภาคประมงนั้น สามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ง่ายขึ้น ทุกคนต้องร่วมมือกันหมด เพราะฉะนั้น ผมเชื่อว่าเราจะเห็นพัฒนาการดีขึ้นได้ชัดเจน ภายในระยะเวลา 3-6 เดือนข้างหน้า และเรา ประมาณต้นปีหน้า จะมีผู้แทนจากอียูมาเยือนไทยอีกครั้ง เพื่อจะพูดคุยเรื่องนี้ มาติดตามความก้าวหน้าก็จะเป็นโอกาสที่ดี ที่จะแลกเปลี่ยนความเห็น ข้อมูล และการเรียนรู้จากประสบการณ์ซึ่งกันและกันนะครับ โดยต่างฝ่ายต่างตั้งอยู่บนหลักการความเป็นมิตรที่เคารพในอธิปไตยของกันและกัน ไทยกับอียูมีเป้าหมายเดียวกันอยู่แล้ว คือการเร่งแก้ปัญหาไออียู เพื่อให้เราสามารถทำการประมงอย่างยั่งยืนได้ และเพื่อเร่งขจัดปัญหาที่ยังมีคนไทยบางกลุ่มไม่ใช่ทุกราย ก็ยังมีการทำผิดกฎหมายไทย และลักลอบการใช้แรงงาน อันนี้มีการจับกุมอยู่เรื่อยๆ นะครับ น้อยลงไป วันนี้ต้องดูแลทั้งเหยื่อค้ามนุษย์ในภาพรวมด้วย รัฐบาลไทยกำลังเร่งส่งทีมไปตรวจสอบเรือที่บางลำยังอยู่ในทะเลเลย หลายเดือนก็ไม่กลับมา เพราะว่ามันมีเรือประมงบางลำผิดกฎหมาย และไปตระเวนอยู่ตามท้องทะเลลึก หรือท้องทะเลน่านน้ำเสรี และไปรับซื้อปลา ไปขายปลา แต่ใช้คนไทย อันนี้แหละครับที่ทำให้เราเกิดปัญหาด้วย

เพราะฉะนั้นเมื่อไม่เข้าประเทศไทย เดี๋ยวต้องไปหาทางที่ไปตรวจสอบที่ท่าต่างประเทศที่เอาเรือไปเทียบ และขายปลาที่นู้นด้วย อันนี้ให้กระทรวงต่างประเทศได้ดำเนินการจัดคนไปเฝ้าดูแล เพื่อแสดงให้เห็นว่า เราตั้งใจทำจริงๆ นะครับ และในโรงงานอุตสาหกรรมจะเข้าไปสุ่มตรวจว่า ไปรับอาหารมาจากที่ไหน การตรวจสอบทำได้ทั้งระบบได้หรือไม่ว่า เอาปลามาจากไหน ไม่อย่างนั้นมีปัญหามาตลอด เพราะฉะนั้นทั้ง 2 เรื่อง การทำประมงผิดกฎหมาย หรือการค้ามนุษย์นั้น รัฐบาลนี้จะไม่ละเว้นโดยเด็ดขาด ทั้งเจ้าของเรือ ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนะครับ ไม่อยากให้มองเรื่องการแก้ปัญหานี้เป็นการทำเพื่อไอยูยูอย่างเดียว หรือว่าระยะสั้น ทำให้คนนู้นคนนี้พอใจ ไม่พอใจ ขอไปที ไม่ใช่เลยนะครับ

เพราะฉะนั้นปัญหาไอยูยู และปัญหาค้ามนุษย์ในภาคประมงมีอันตรายร้ายแรงกับประเทศไทย เพราะเป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน ต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด และสำคัญที่สุดคือ การอนุรักษ์ทรัพยากรประมงของเรานั้นให้มีการขยายพันธุ์ต่อไปในพื้นที่ที่เป็นน่านน้ำของเราเอง และต้องดูแลประมงพื้นบ้านให้สามารถอยู่รอดได้ ไม่อย่างนั้นเรือที่ผิดกฎหมายด้วย และใช้อุปกรณ์ที่ผิดกฎหมายเข้าไป สัตว์น้ำไม่มีโอกาสที่จะเพิ่มพูนมากขึ้น เพาะพันธุ์อะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ไม่ได้ทั้งหมดเลย ขณะนี้ปลาในเขตบ้านเราน้อยลงเต็มทีแล้ว แต่หลังจากที่เรามีมาตรการออกมาเหล่านี้ก็ทราบว่า ประมงชายฝั่ง ประมงพื้นบ้านก็มีรายได้มากขึ้น ปลาตัวโตขึ้น เพราะว่าปลาตัวเล็กเราไม่ถูกจับ มันทำให้โตขึ้นมาให้จับ โดยใช้เครื่องมือที่มันถูกกฎหมาย

เพราะฉะนั้นขอให้สบายใจได้นะครับ ใครที่ถูกกฎหมาย และตกอยู่ในสภาพลำบาก รัฐบาลมีมาตราการช่วยเหลือท่านอย่างแน่นอน เริ่มจากมาตราการ ติดตามอีกทีก็แล้วกัน บางทีไม่ค่อยฟัง ทำไปแล้วก็ไม่ค่อยประชาสัมพันธ์ อย่างน้อยก็ปากต่อปากช่วยกันหน่อยนะครับ สมาคมประมงต่างๆ

เรื่องเรือประมง 2 สัญชาติ อย่าให้มีอีกนะครับ จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดให้ถึงที่สุดนะครับ ผู้ทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ แล้วก็เหยื่อจะได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายทั้งสิ้น แล้วไม่อยากให้คนเหล่านี้มีที่ยืนในสังคมไทย ผู้ที่ทุจริต หลอกลวง ผิดกฎหมาย ค้ามนุษย์เหล่านี้ อย่าให้มีที่ยืนในสังคมไทย ผมว่าสังคมโลก เขาก็ไม่ยอมรับด้วย ท่านอาจจะรวยจริง แต่คนอื่นเดือดร้อนประเทศชาติเดือดร้อน สังคมเดือดร้อน ช่วยกันตรวจสอบด้วยนะครับ

ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มีเรื่องสำคัญก็คือผมได้ให้การต้อนรับนายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ผมก็ได้กล่าวแสดงความยินดีทางการเมืองของศรีลังกา ซึ่งมีหลายอย่างคล้ายคลึงกัน ในเรื่องของกระบวนการปรองดองแห่งชาติของเขาด้วย แต่เหตุการณ์ของเค้ามันมีหลายอย่างด้วย ของเราก็มีเรื่องของการเมืองเป็นหลัก

ในขณะนี้ต่างฝ่ายต่างก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เห็นชอบร่วมกันหลาย ๆ เรื่อง เราพยายามจะเดินหน้าด้วยกันไป ผมก็เล่าให้ฟังว่า ไทยกำลังเดินหน้าเช่นกัน เรื่องการเลือกตั้งทั่วไป ดำเนินการตามโรดแมป การสร้างระบบประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ แล้วก็การสร้างสังคมที่มีการปรองดอง ได้ขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเขาด้วย

สำหรับกระบวนการปฏิรูปประเทศนั้น ถึงแม้ว่ามันจะมีหลายประเทศทำก็ตาม ปัญหามันหมาจากคนละปัญหา อย่างน้อยมันก็มีความแตกต่างกันพื้นฐานกันอยู่ได้ เรารับเขามาได้ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการประชาธิปไตย ปฏิรูป เรารับเข้ามาเป็นแนวทางพิจารณาได้ แต่ทั้งหมด มันจะต้องเกิดขึ้นโดยคนไทย เพราะว่าคนไทยเป็นผู้ที่เผชิญปัญหาเหล่านี้ ทุคนต้องการจะแก้ไข ทุกคนต้องการจะปฏิรูป พวกเราต้องแสดงออกให้เค้าเห็นว่า ปัญหาบ้านเราเป็นแบบนี้ เราต้องช่วยกันแก้ปัญหา มันอาจมีอะไรแตกต่าง ถ้าทุกคนช่วยกันพูด มันจะไม่กดดันมาที่ผมมาที่ประเทศไทย ขณะนี้มีหลายคนซึ่งมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ที่พยายามขัดขวางทุกเรื่อง แต่ต้องการปรองดอง ต้องการเลือกตั้ง ก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมก็หงุดหงิดอยู่บ้างในบางครั้ง ขอโทษอีกครั้งก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันจะต้องเริ่มจากความร่วมมือทุกภาคส่วนในสังคม

สำหรับเป้าหมายทางเศรษฐกิจของไทยและศรีลังกานั้น เราจะร่วมมือกันในสินค้าและอุตสาหกรรมที่ต่างฝ่ายต่างมีศักยภาพ อาทิเช่น สิ่งทอ อัญมณี ชา ในลักษณะเป็นความร่วมมืออย่างครบวงจร คำว่าครบวงจรของผมก็คือว่า ยกตัวอย่างว่า ถ้าจะขายอะไรสักอย่าง ค้าขายร่วมกัน ถ้าทุกคนต่างแข่งขันกันว่า ลงทุนไปให้มาก แล้วมันจะไปขายใครล่ะ แต่ถ้าเอาวงจรทั้งวงจรมาพิจารณาร่วมกัน เช่น อัญมณี ใครมีวัสดุ ต้นทุน ใครมีช่างฝีมือ ใครมีการตลาด ถ้าบางอย่างมันมาร่วมกันได้ มันก็สามารถที่จะไปลักษณะเป็นการร่วมมือกัน และไม่แข่งขันกัน ร่วมมือกัน ผลประโยชน์ก็มาแบ่งปันกันตามสัดส่วน อย่างนี้เขาถึงเรียกว่าวันนี้มันต้องเดินหน้าประเทศแบบนี้ ถ้าเราไปมุ่งเน้นว่าจะขายของกัน ต่างคนต่างผลิตกันขึ้นมา ตลาดมันไม่ได้หรอก ขีดความสามารถมันต่างกัน วันนี้อัญมณีไทยมีทักษะ มีความชำนาญ ในการแปรรูป ออกแบบต่างๆ แต่วัสดุเราต้องซื้อ หรือต้องเอามาจากต่างประเทศทั้งหมด จะไปร่วมทุนกันตรงไหนก็ว่ามา ลักษณะนี้เขาเรียกว่าเป็นหุ้นส่วน ในการที่จะค้าขายร่วมกัน Partnership การพัฒนาสินค้าประเภทอัญมณีนั้นสำคัญที่สุด วันนี้มีมูลค่าหลายล้านล้านบาท ถ้าเรามีส่วนแบ่งที่เป็นธรรม ร่วมมือกันได้ ลดการแข่งขัน เพิ่มพันธมิตร เพิ่มการตลาดให้มากขึ้น

หลายเรื่องนะ ไทยกับศรีลังกามีศักยภาพส่งเสริมด้านอื่นอีก เช่น การเกษตร และประมง ทั้งในเชิงวิชาการ เชิงพันธมิตร เราคงต้องให้ความรู้ เพิ่มประสบการณ์ให้กับทางศรีลังกาเขาด้วย ในโครงการต่างๆ มีหลายโครงการด้วยกัน ในเชิงวิชาการ ปรึกษา แลกเปลี่ยนข้อมูลงานวิจัย วันนี้ศรีลังกามีความก้าวหน้ามาก ในเรื่องของการวิจัยและพัฒนา เราควรจะร่วมมือกัน อาทิเช่น เรื่องโรคกุ้ง เพื่อจะพัฒนาสินค้าประมงให้มีคุณภาพร่วมกัน ศรีลังกามีปลา มีสัตว์น้ำเยอะแยะ เป็นเกาะ ไทยมีประมงที่เข้มแข็งแต่ไม่มีปลา ฉะนั้นจะร่วมมือกันอย่างไรในวงจรที่ผมว่าเมื่อสักครู่นี้ ในลักษณะการเป็น partnership

เรื่องที่สอง เรื่องการลงทุน ปัจจุบันมีเอกชนไทยหลายรายสนใจเข้าไปลงทุนในศรีลังกาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสาขาสิ่งทอ การก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีขนาดเล็กอยู่ จำนวนน้อยอยู่ เราก็จะเพิ่มในเรื่องเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ให้เกิดผลประโยชน์อย่างเท่าเทียม เราจะส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆ เช่น เชิงพุทธศาสนา มีกล่าวกับผมว่า ประเทศไทยได้รับการยอมรับ ถึงมาตรฐานการท่องเที่ยว และการบริการด้านสุขภาพ ด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย ยา อุตสาหกรรมความงาม รวมทั้งสปาต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมี การกล่าวถึงการมาพักผ่อนเป็นจำนวนมากในประเทศไทย และใช้บริการด้านสุขภาพในไทย ถ้าเราสร้างวงจรตรงนี้ได้ มันจะได้รายได้เพิ่มขึ้นทั้ง 2 ประเทศ จะต้องช่วยเขาด้วยนะครับ

เรื่องการประชุมคณะกรรมการนโยบาย และการพัฒนาการศึกษา ได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งภาคการศึกษา ตลาดแรงงาน กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการบูรณาการงานกัน เพื่อกำหนดนโยบายเรื่องการผลิต และการใช้แรงงานให้เหมาะสม และเพียงพอ เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้แนวคิดอาชีวศึกษา ฝีมือชน คนสร้างชาติ อาทิเช่น ให้สถาบันอาชีวศึกษา ร่วมกับสถานประกอบการเปิดหลักสูตร เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศเฉพาะทาง โดยปีการศึกษา 2559 นำร่องในสาขาวิชาพาณิชย์นาวี ขนส่งระบบราง ปิโตรเคมี แม่พิมพ์ การผลิตไฟฟ้า การท่องเที่ยว และเทคโนโลยีอาหารปลอดภัย สำหรับปี 60 จะเปิดเพิ่มในสาขาปิโตรเลียม ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และโรงแรม โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสม กับศักยภาพการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ด้วย แต่วันนี้ เราอาจต้องนำร่องด้วยการต่อยอดผู้ที่จบมาแล้วไม่มีงานทำ พัฒนาให้สู่แรงงานมีฝีมือ และตรงความต้องการตลาดปีหน้าด้วย เออีซี ทำยังไงจะมีทันที ถ้ารอ 59 60 กว่าจะจบอีกหลายปี

อีกเรื่อง ให้มีความร่วมมือกับมิตรประเทศ ในการที่จะส่งนักศึกษา ปวส. ไปฝึกงานหลักสูตรต่างๆ เพื่อสร้างความพร้อม รองรับการพัฒนาประเทศให้ได้อย่างรวดเร็วตามนโยบายรัฐบาล 3 ให้มีระบบทวิศึกษา ให้กว้างขวางขึ้นในระดับสายสามัญด้วย ควบคู่กับสายอาชีพ พอเรียนจบแล้วจะได้รับทั้ง 2 วุฒิ นะครับ สามารถทำงานได้ทันที โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าเรียน และอุปกรณ์ประจำตัว เป็นต้น อยากเชิญชวนให้มาเรียนสายอาชีวะให้มากขึ้น ขอให้ระมัดระวังในเรื่องการทะเลาะเบาะแว้ง ระหว่างสถาบัน เลิกได้แล้ว ไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น

สำหรับนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้นั้น ผมเห็นว่านักเรียนจำนวนมาก มีปัญหาเรื่องของความสุข เพราะว่าการบ้านเยอะ เรียนในห้องก็ซีเรียสมาก อะไรมาก แต่ขาดทักษะต่างๆ ไปด้วย ทั้งเครียด ทั้งขาดทักษะ ทำงานไม่ได้ อะไรทำนองนี้นะครับ ไม่เรียนรู้ รู้อย่างเดียว เพื่อจะสอบ เอาปริญญา อย่างนี้ไม่ใช่ผมว่าไม่ใช่ ผลสัมฤทธิ์ไม่เท่ากับที่เรียนไป ทำยังไงเด็กไทยจะคิดเป็น อันนี้เป็นโจทย์สำคัญ การศึกษาควรให้มากกว่าความรู้ ต้องให้ผู้เรียนมีทักษะการทำงานร่วมกัน เรียกว่า ทีมเวิร์ค วันนี้ประเทศไทยขาดทีมเวิร์คนะ ทำงานร่วมกันก็ไม่ได้ มีความคิดที่สร้างสรรค์ แสวงหาจุดร่วม จุดต่างเอาไว้ก่อน รู้จักการแก้ปัญหาเร่งด่วน จัดลำดับของปัญหาให้ได้ ทั้งนี้ ทุกคนจะต้องมีความพร้อมเพื่อจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมด้วย จึงจะส่งเสริมการพัฒนาประเทศโดยรวมได้ในทุกมิติ รัฐบาลก็ได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลายอย่างด้วยกัน หนึ่ง ให้ครูรักเด็ก และเด็กรักครู เกิดขึ้นได้หรือยัง สอง ให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกันเอง แต่ให้แข่งขันกับตัวเอง ให้เด็กที่เก่งกว่าช่วยสอนผู้ที่เรียนช้ากว่า อ่อนกว่า และ 3. ให้ครูจัดกิจกรรมให้เด็กทำร่วมกัน เพื่อเห็นคุณค่าของความสามัคคี

สำหรับการดำเนินการของกระทรวงศึกษาฯ ในปัจจุบัน ได้ยึดหลักการสำคัญ คือ หนึ่ง ต้องไม่กระทบเนื้อหาในแต่ละกลุ่ม แต่ละระดับ สอง ใช้ทฤษฎีการศึกษา 4 H คือ Head , Heart , Hand and Help ให้เหมาะสมกับช่วงวัย หรืออาจจะพูดง่ายๆ ว่ามีการเรียนที่ต้องส่งเสริมให้มีสมองดี มีคุณธรรม มีทักษะ มีสุขภาพแข็งแรง เป็นลักษณะสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันและชีวิตในการทำงานต่อไปด้วย และสามมีการประเมินผลการปฏิบัติ สำหรับการพัฒนาในเชิงคุณภาพ ไม่ใช่เชิงปริมาณ เด็กต้องมีส่วนร่วมในการประเมินด้วย ผลงานที่มีต่อเด็ก ต่อโรงเรียน สถานศึกษา ผมสั่งไปแล้ว

ตอนนี้มีโรงเรียนที่พร้อมในเรื่องของลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ มีโรงเรียนพร้อมสมัครใจเข้าร่วม 4,100 โรงเรียนทั่วประเทศ มีเมนู 381 กิจกรรม ทุกโรงเรียนอาจจะมีความพร้อมไม่เท่ากัน แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในกรอบ เพราะจะได้มีการประเมินผลได้ว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร ระยะเริ่มต้นนั้นกระทรวงศึกษาธิการจะส่งสมาร์ทเทรนเนอร์ ช่วยวางแผนการเรียนการสอนและจัดตารางกิจกรรม รวมทั้งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย ใครที่ไม่ได้ฟังผมวันนี้ ใครฟังก็ไปบอกเขาด้วย บางครั้งผมเห็นครูบาง สถานศึกษาบางคนบอกไม่รู้เรื่องมีแต่สั่งลงไป นี่เขาทำให้หมดแล้ว เพียงแต่ท่านต้องขวนขวายบ้าง เขตการศึกษาท่านต้องรับผิดชอบด้วยนะ ไม่งั้น เขตการศึกษาก็เหมือนเดิม ท่านต้องปรับปรุงวิธีการทำงานของท่าน ผมไม่ได้ตำหนิว่าท่านไม่ทำงาน แต่ท่านต้องทำให้ตรงนโยบายของเรา

สำหรับด้านเศรษฐกิจนั้น เรามีการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน อนุมัติขั้นตอนลดเวลาการเข้าร่วมโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐ และเอกชนที่เรียกว่า พีพีพี นะครับ ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ เพื่อผลักดันให้โครงการรวดเร็วขึ้น ที่เรียกว่า พีพีพี ฟาสต์แทรค เป็นการรวบรวมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อลดขั้นตอนการดำเนินการ ลดระยะเวลาจากเดิม ซึ่งกว่าจะผ่านขั้นตอนและดำเนินการได้ใช้เวลาเกือบ 2 ปี วันนี้ เราต้องลดให้ได้เหลือ 9 เดือน ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะมีโครงการลงทุนด้านพื้นฐานที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาโดยมูลค่ารวมกว่า 3.47 แสนล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ปานกลาง

ที่ผ่านมานั้น กองทุนภาคเอกชนในประเทศไทยน้อยมากนะครับ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตด้อยลง เพราะไม่มีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และกระตุ้นการส่งออก ดังนั้นเราจำเป็นต้องปรับโครงสร้างการผลิตให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น สำหรับจำนวนโครงการลงทุนที่เข้าสู่กระบวนการ พีพีพี ฟาสต์แทรคแล้ว มีหลายโครงการ ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้า สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี โครงการรถไฟฟ้า สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง โครงการรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ โครงการโรงงานขยะ อบจ.นนทบุรี โครงการโรงงานขยะเทศบาลนครราชสีมา และโครงการพัฒนาพื้นที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย ศูนย์ธุรกิจพาณิชย์นาวี

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม พีพีพี ฟาสต์แทรค จะไม่รวมถึงกระบวนการตรวจสอบ การคัดเลือกภาคเอกชนเข้าร่วม ทั้งนี้ ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบภายใต้กรอบกฎหมายนะครับ หรือ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ 2556 นะครับ ไม่มีการปรับแก้กฎหมาย หรือกฎระเบียบแต่อย่างใด หลายคนหาว่าแสดงว่าจะทุจริตกันอีก เอื้อประโยชน์อะไรกันอีก ต่อต้านทุกเรื่อง ทุกโครงการไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์นี้ แล้วแต่โครงการที่เหมาะสม จะมุ่งเน้นไปที่โครงสร้างลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน หากเราไม่ใช้วิธีนี้ ให้มันเร็วขึ้น รัฐจะต้องใช้เวลาดำเนินการ และต้องลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลทั้งหมดนะครับ ซึ่งรัฐก็เรายังมีรายได้ ไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้น ต้องเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าร่วมมือ แต่ต้องด้วยการแข่งขันที่เสรี และเป็นธรรมนะครับ

วันนี้ เรามีตัวอย่างโครงการที่ประสานคุณค่า และประโยชน์ของการอนุรักษ์ และพัฒนาอย่างยั่งยืน ในลักษณะกิจการเพื่อสังคม Social Enterprise คือชุมชนริมน้ำจันทบูร จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นชุมชนที่เก่าแก่มีอายุกว่า 150 ปี บ้านพัก พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ของหลวงราชไมตรี เป็นตัวชูโรง ซึ่งเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันของพี่น้องชาวชุมชน ถือหุ้น เป็นเจ้าของร่วมกัน ช่วยกันอนุรักษ์สถาปัตยกรรม ฟื้นฟูย่านประวัติศาสตร์ รักษาสภาพแวดล้อม วิถีชีวิตของชุมชน ครอบคลุมมิติสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม อย่างบูรณาการ และนำเสนอให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สร้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของตน เป็นตัวอย่างความสำเร็จที่ดีในการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ก็อยากให้พี่น้องแต่ละชุมชนทั่วประเทศ มีหลายแห่ง ชุมชนที่มีอะไรที่เป็นของตัวเอง เอกลักษณ์ของตัวเอง ให้ช่วยกันศึกษา และหาจุดแข็งทางด้านวัฒนธรรม ขนมธรรมเนียม ประเพณี งานฝีมือ ภูมิปัญญาท้องถิ่นและประวัติศาสตร์ มาเป็นจุดแข็ง มาเป็น story ในการสร้างเศรษฐกิจของชุมชนแต่ละแห่งต่อไปด้วย

อีก 2 เดือนเท่านั้นเราก็จะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ดังนั้นตลาดคลองผดุงกรุงเกษมของเราได้จัดให้มีงาน OTOP to AEC มรดกของแผ่นดินจากท้องถิ่นสู่สากล ระหว่างวันที่ 3-25 พฤศจิกายน 2558 เพื่อแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอประดับ 3-5 ดาว จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีศักยภาพในการส่งออกต่างประะเทศ มาจัดแสดงและจำหน่ายกว่า 330 รายการ นอกจากนั้นมีการส่งเสริมความรู้ด้านการเจรจาธุรกิจ การตลาด การออกแบบ การเงิน ให้กับผู้ร่วมงานที่สนใจ ทั้งผู้ประกอบการ และผู้มาเยี่ยมชมด้วย รวมความไปถึงผู้ที่อยากทำธุรกิจใหม่ๆ และมีการประเมินสินค้าที่นำมาด้วย ให้คำแนะนำ เพื่อจะพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งให้มีการขยายกิจการมากขึ้น เพิ่มมูลค่ามากขึ้น เน้นคุณภาพ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มีผู้เชี่ยวชาญ มีศูนย์บริการร่วมของกระทรวงมหาดไทยมาให้บริการแก่พี่น้องประชาชนที่เข้าเยี่ยมชมภายในงานอีกด้วย

อย่างเช่นการบริการทำบัตรประชาชนเคลื่อนที่ ใครที่บัตรเก่า บัตรชำรุด มาทำเสียให้เรียบร้อย แป๊บเดียว การแจกแบบแปลนบ้าน การแนะนำวิธีการประเมินที่ดิน ขอเชิญพี่น้องประชาชนทุกท่านมาร่วมกันซื้อหาสินค้าฝีมือคนไทย มาตรฐานโลก หาความรู้ทางธุรกิจและบริการต่างๆ ได้ภายในงาน ถามได้ทุกเรื่อง ถ้าเขาตอบไม่ได้ เขาก็ไปถามคนอื่นให้ หรือส่งต่อให้ใครตอบท่าน

ท้ายที่สุดนี้ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนช่วยกันสืบสาน อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย พาลูกหลานไปเยี่ยมชมนาฏศิลป์ชั้นสูงของชาติ การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ชุดศึกอินทรชิต ตอนพรหมาศ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน ถึง 5 ธันวาคมนี้ ผู้สนใจติดตามรายละเอียดได้ที่ www.khonperformance.com พวกผม พวก ครม.ก็จะไปในรอบแรกด้วย ไปชม ขอเชิญชวนนะครับ มี 50 กว่ารอบ ต้องไปดูให้เป็น ไปดูการแต่งตัว ท่าทาง ซึ่งมันแตกต่างกันออกไป ถ้าดูผิวเผินจะไม่สนุกนะ ก็จะเบื่อกัน ซึ่งไม่ได้ เราเบื่อวัฒนธรรมเราเองไม่ได้ ผมคิดอย่างนั้นนะ

เพราะฉะนั้นจะให้ทุกคนได้เรียนรู้ว่าเราจะทำยังไง เราจะได้เกิดความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ของเรา วัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ซึ่งต่างประเทศเขามาเที่ยวก็เพราะอย่างนี้ แต่คนของเราเองกลับไม่ชอบ อย่างนี้ผมว่าไม่ใช่หลายประเทศเขามีแต่ว่าต้องหาความรู้ให้มากขึ้น เพื่อจะไปบอกเล่า เชิญชวนคนของเขามาเป็นเจ้าบ้านที่ดี ดูแลเรื่องความปลอดภัย ของเราจะเอาแต่เงินอย่างเดียว มันก็คงไม่ใช่นะ ไม่ได้ ผมพูดถึงคนไม่ดีนะ คนที่เอาแต่ประโยชน์ คนดีเยอะกว่าอยู่แล้ว ช่วยกันทำให้คนไม่ดีกลายเป็นคนดีสิครับ ขอบคุณนะครับ วันนี้อาจจะพูดหนักนิดหนักหน่อยไปบ้าง ขอโทษด้วยนะ บางครั้งผมอาจจะขี้โมโหไปบ้างอะไรไปบ้าง ก็ธรรมดา ผมทหารเก่านะ ขอโทษด้วยแล้วกัน ขอให้มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์นี้ ขอให้มีความสุขและปลอดภัย สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น