xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ : คืนความสุขให้คนในชาติ 23 ตุลาคม 2558

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันปิยมหาราช เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่นานัปการ และทรงเป็นที่รักของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า

พระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์นั้น นอกจากการเลิกทาส การปฏิรูประบบราชการ และระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ อาทิ การประปา การไฟฟ้า การสร้างถนน และทางรถไฟแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราทุกคนควรจดจำ อันเป็นมรดกอันดีงาม ก็คือพระองค์ทรงให้ความสำคัญในการเลือกผู้ใหญ่บ้าน โดยคนในหมู่บ้านเองเป็นผู้สมัคร ต้องเป็นคนที่ไม่เคยกระทำความผิด เรื่องยาเสพติด การพนัน บุกรุกป่า เป็นต้น ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญและเอาจริงเอาจังกับการเลือกตั้ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ระดับล่าง ทั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านถือว่าเป็นผู้นำที่เล็กที่สุดในการปกครองส่วนภูมิภาคในปัจจุบัน และมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุดนะครับ

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งอาจขจัดปัญหาในการปกครองไม่ได้ทั้งหมด แต่การเลือกให้คนดีมีคุณธรรมได้เป็นผู้ปกครองต่างหากนั้น จะช่วยให้ปัญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไข ในโอกาสนี้ผมขอให้พี่น้องชาวไทยทุกท่านได้ร่วมกันน้อมจิตอธิษฐาน และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการรู้รักสามัคคี มุ่งมั่น ปรองดอง และร่วมสร้างอนาคตของชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน โดยการปฏิรูปประเทศ เดินหน้าประเทศไทยในบทบาทและหน้าที่ของตนอย่างเหมาะสมต่อไปนะครับ ตามแนวทางพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 88พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2558 นี้ รัฐบาลร่วมกับประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมใจกันสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารอีกครั้ง เพื่อรวมพลังความรู้รักสามัคคี และแสดงความจงรักภักดีแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติปั่นเพื่อแม่ BIKE FOR DADในวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป โดยกำหนดระยะทางในการปั่นจักรยาน 29 กิโลเมตรเท่ากันทั่วประเทศ ปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมการในทุกๆ ด้าน

สำหรับผู้ที่มีความสนใจจะเข้าร่วมกิจกรรม สามารถลงทะเบียนและติดตามข้อมูลข่าวสารในรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.bikefordad2015.com ตั้งแต่วันที่ 2- 15 พฤศจิกายน 2558 หรือสอบถามได้ที่ สายด่วน 1122 ขอให้พี่น้องได้เตรียมร่างกายและจักรยานให้พร้อมที่จะเข้าร่วมกิจกรรม รัฐบาลก็เป็นห่วงในเรื่องนี้ ขอให้ระมัดระวังตนเองในการฝึกซ้อม หากใครที่มีโรคประจำตัว ก็ต้องมีการตรวจสุขภาพร่างกายให้พร้อม ระมัดระวังอุบัติเหตุจากการฝึกซ้อม ให้เกิดความปลอดภัย อย่าให้มีอันตรายเกิดขึ้น

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงรับสั่งมาว่า อยากให้ทุกคนปลอดภัยและมีความสุข

สำหรับวันนี้ มีเรื่องสำคัญให้พี่น้องทราบดังต่อไปนี้ ในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในปัจจุบันรัฐบาลและ คสช. ได้ทำไปหลายส่วนแล้ว ทั้งการเกษตร อุตสาหกรรม การค้า และการลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะนี้เราจะเน้นเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้ขาย วัสดุก่อสร้าง การจ้างงานและเป็นการสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอีกด้วย ปัญหาสำคัญเวลานี้ คือทุกคนมีหนี้้ หนี้ครัวเรือน เราจะทำอย่างไร หนี้เหล่านี้ ที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้จะไม่สูญ และสามารถผ่อนชำระได้ กำลังหามาตรการอื่นๆ มาเพิ่มเติม ในเรื่องของการเงินการคลัง เรื่องหนี้สินอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ รัฐบาลพยายามจะแก้ไขให้ก่อน โดยไม่ให้ใครเดือดร้อน

ทั้งนี้ หน่วยงานก็ต้องไปหามาตรการแก้ไขให้ได้ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย พื้นที่ก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง แรงงาน ก็จะหยุดหมด ทั้งนี้เราไม่ได้ทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับใครทั้งสิ้น ในเมื่อมีผู้ประกอบการเข้ามาตามกฎกติกา ตามกฎหมาย ก็ไม่อยากให้ทุกคนได้นึกตำหนิเป็นเรื่องๆ ทำไมไม่มองภาพรวมกันว่า ขณะนี้เราต้องมองว่าใครจะได้ ใครจะเสีย ทุจริตหรือไม่ มันเป็นคนละเรื่องกับการทำงานของรัฐบาลเวลานี้ ไม่ใช่ว่าพอจะเริ่มทำอะไรก็ทำไม่ได้ เพราะเกรงทุจริต เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ ก็ไม่กล้าทำ เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ก็จะมองว่ารัฐบาลไม่ได้แก้ไขอะไรทั้งสิ้น รัฐบาลสั่งไปโดยไม่มีมาตรการป้องกันแก้ไขก็ไม่ได้ สำคัญที่สุดก็คือ ทุกคนต้องรู้ตัวเองดี มีสติ รู้ขีดความสามารถของตนเอง ทุกคนต้องไม่สร้างภาระหนี้โดยไม่จำเป็นอีก เอาเงินมาเตรียมการสู่อนาคตจะดีกว่านะ การมีหนี้ครัวเรือนของประชาชนที่ผ่านมานั้น เนื่องจากไม่ได้มีการแก้ไขทั้งระบบ เสรีภาพก็เกินขีดจำกัดไป และไม่ได้มีการสอนให้คนรู้จักพอเพียง รายได้น้อย ใช้น้อย ไม่ใช้ของแพง ที่ผ่านมานั้นมักจะเป็นหนี้บัตรเครดิตคนละจำนวนมาก สาเหตุอันหนึ่งก็คือลูกหลานอาจจะมีความต้องการที่ไม่จำเป็น ไม่เหมาะสมกับรายได้ของพ่อแม่ ทำให้เกิดการเป็นหนี้นอกระบบขึ้น ซึ่งเป็นการควบคุมได้ยาก เราต้องให้ความรู้ในการจัดทำบัญชีครัวเรือน ไม่ใช่เฉพาะภาคการเกษตรอย่างเดียว ว่าเราจะใช้จ่ายอย่างไร โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย จะได้รู้ว่าอะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็นที่ใช้ไปทุกเดือนๆ ลูกหลานจะได้เข้าใจด้วย รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย แต่ก็ต้องดูภาพอื่นๆด้วยตามความเหมาะสม เราต้องพยายามแก้ไขปัญหาหนี้สิน หากจะเกิดหนี้ขึ้นมา ต้องเป็นหนี้ที่ทำให้เกิดมูลค่า เป็นทรัพย์สมบัติที่ยั่งยืนได้ ให้ลูกให้หลานในอนาคต เช่น บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ที่ดินเหล่านี้ ต้องช่วยระมัดระวังการใช้จ่าย มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ใช่ทุกคนมีเงินก็ไม่ใช้เงินอีก คนไม่มีก็ไม่ใช้อยู่แล้ว เศรษฐกิจมันก็แย่ไปหมด ทุกคนต้องช่วยชาติในเวลานี้ มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย เศรษฐกิจมันจะหมุนเวียนมากขึ้น

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวมนั้น หลายอย่างยังทรงตัว หลายอย่างเริ่มดีขึ้น บางอย่างยังแย่อยู่ เพราะมีผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และเราอาจจะไม่มีความเข้มแข็งที่เพียงพอในอดีตที่ผ่านมา เราต้องช่วยกันทำให้เศรษฐกิจเราเข้มแข็งขึ้น สร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างการลงทุนให้เกิดขึ้นในประเทศให้ได้ มันจะทำให้เศรษฐกิจในปีหน้านั้นน่าจะดีขึ้น

วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้สึกว่า ตัวเองได้อะไรจากการที่ได้รัฐบาลนี้เข้ามา เพราะมันยังไม่ได้รายได้เพิ่ม ยังไม่ได้เงิน ไม่ได้อะไรต่างๆ ที่มันเคยได้มาง่ายๆ คงต้องเข้าใจกันนะครับ ใช้เวลากันด้วยในการที่จะแก้ปัญหาทั้งระบบให้ได้ หากระบบเศรษฐกิจเราเข้มแข็ง สร้างความเชื่อมโยงกันให้ได้ มันจะเพิ่มห่วงโซ่คุณค่าทำให้มีการหมุนเวียน ทำให้เศรษฐกิจเล็ก กลาง ใหญ่ดีขึ้น และมีการลงทุนเพื่ออนาคตอีกด้วย ผลประโยชน์โดยรวมมันจะเกิดกับประเทศ มีรายได้ที่มากขึ้นมาดูแลประชาชนอีกมากมาย ในเรื่องของสวัสดิการต่างๆ ที่เราใช้งบประมาณจำนวนมากในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องจัดทำโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้สำเร็จในลักษณะประชารัฐ อันนี้ฝ่ายเศรษฐกิจเราได้ชี้แจงให้ทราบไปแล้ว

ในเรื่องของการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีการผลิตข้าว ยาง หรือผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ที่สำคัญ เราต้องเน้นการปรับปรุงการปฏิรูปทั้งระบบนะครับ ตั้งแต่ลดต้นทางถึงปลายทาง ซึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ในกระบวนการที่มีความก้าวหน้ามาตามลำดับ ทั้งนี้ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ร่วมมือกัน สิ่งที่น่ายินดีในช่วงนี้คือเรื่องยาง ได้ข้อสรุปว่า เราจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ลดต้นทุน ทำทุกอย่างให้อยู่ในกรอบกฎหมายหมาย ทำพันธสัญญาต่าง ๆ ที่เราทำไว้กับต่างประเทศด้วย มีสนับสนุนการปลูกพืชเสริม มีการเลี้ยงสัตว์เพิ่ม เพื่อจะเพิ่มรายได้ ให้กับชาวสวนยาง และต้องมีการดูแลผู้กรีดยางอย่างชัดเจน

เราได้มีการตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีการเรียกร้องและทำให้เกิดความวุ่นวายอีกต่อไป จากนายกสมาคมต่าง ๆ หรือผู้ที่มีบทบาทในเรื่องของการขับเคลื่อนเรื่องยาง เราจะร่วมมือกันในคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ที่เรียกว่า กยท. ที่มีแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ ตาม พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ซึ่งทางเกษตรกรชาวสวนยางอยากได้มานานแล้ว รัฐบาลนี้ ก็ออกมาเรียบร้อยแล้ว ต้องขอบคุณชาวสวนยางที่เกี่ยวข้อง ผู้นำสมาคม ผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ทั้งหมด ขอความร่วมมือในเรื่องของการทำให้ยางนั้นสามารถใช้ในประเทศได้มากขึ้น มีราคาสูงขึ้น ใช้ผลิต เราไม่อยากจะส่งออกอย่างเดียวได้อีกต่อไปแล้ว

วันนี้ มีหลายอย่างเ ช่น การทำสนามฟุตซอล การทำพื้นยางต่าง ๆ วันนี้ มีหลายบริษัทเกิดขึ้นมาใหม่ และรับซื้อยางมากขึ้น ขอให้มีการติดตาม และมีการเชื่อมโยงมากขึ้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดู ว่าจะใช้ได้มากขึ้นอย่างไร อีกเรื่องคือ การทำถนนหนทาง ก็ต้องเลือกดูว่าตรงไหนจำเป็น ไม่จำเป็น เพราะราคาสูงขึ้น แต่คงต้องทำใหื้เกิดความเชื่อมั่นขึ้นว่า ยางนั้นจะเป็นพื้นทางเกษตรที่จะสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและประเทศชาติในอนาคตอย่างยั่งยืน

เรื่องน้ำ ผู้ใช้น้ำอุปโภคบริโภค หรือใช้น้ำเพื่อการเกษตร ยังคงต้องระมัดระวังอย่างที่สุดในการจะเพาะปลูกพืชในฤดูกาลใหม่ ก็ขอให้ฟังข้อมูลและคำชี้แจงจากทางราชการ เพราะหากเกิดความเสียหายแล้ว รัฐบาลอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ เว้นในปัจจุบันได้มีโครงการในเรื่องของการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชด้วยความสมัครใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง และในทั้งหมดอีก 77 จังหวัดทั้งหมด รัฐก็จะดูแล สนับสนุนให้ ได้อนุมัติโครงการไปแล้วส่วนหนึ่ง ก็อยากให้ทุกคนช่วยกัน ขณะนี้อยากให้มีการเก็บน้ำไว้ในไร่นา ร่องสวน ผมเห็นหลายสวนผลไม้เขาขุดร่องสวนเพิ่มขึ้น มีน้ำเก็บไว้เต็มเลย เขาเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ในปีหน้า อยากให้ทุกสวน ทุกนา ทุกไร่ ได้ทำอย่างนี้ มีการขุดลอกแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ไม่ต้องรอรัฐบาลมากนัก บางอย่างก็ช่วยตัวเองได้ เก็บน้ำไว้ในไร่นา เก็บน้ำไว้ให้มากที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำท่วมในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาก็มีน้ำแล้งอยู่ด้วยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก่อนจะระบายน้ำทิ้งทั้งหมด ก็ขอให้ทุกคนคำนึงว่า หากฝนไม่ตก น้ำแล้ง จะเอาน้ำจากที่ไหน รัฐบาลก็หาให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐ และหน่วยงาน จะต้องมีการกำกับดูแลการระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วม ให้สามารถไปเก็บกักไว้ให้ได้มากที่สุด ผมก็อยากเห็นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เอกชน และรัฐ ภายใต้แนวทางประชารัฐ เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้ถูกจุด ให้ใช้การพูดคุย รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ ให้มีการเจรจากันทุกฝ่าย อะไรที่ร่วมมือกันได้ก็ร่วมกันเถอะ อะไรยังไม่ได้ ก็ไปหาทางออกมา ถ้าเริ่มอะไรไม่ได้เลยก็เป็นปัญหาไปในอนาคตด้วย ไม่มีวันจบสิ้น ก็ขอให้การเสนอแนะหรือการจะแสวงหาข้อมูลนั้น ขอให้เข้ามาในช่องทางที่ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ก็ขอร้องบทบาทของผู้แทน แกนนำต่างๆ เหล่านั้น ที่ต้องการรักษาผลประโยชน์ของกลุ่ม ก็เป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย แต่ในฐานะคนไทยก็ต้องตระหนักรู้ถึงผลกระทบกับส่วนรวมด้วย แบบนี้จึงจะเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง คือทุกคนได้ประโยชน์เท่าเทียมกัน ตามสัดส่วนของแต่ละคน แต่ละอาชีพ ทุกคนต้องรู้สิทธิ และมีคำว่าหน้าที่ของตนอยู่ด้วยในกฎหมายในรัฐธรรมนูญหลายๆ อย่าง ต้องกำหนดคำว่าหน้าที่ไปด้วยของคนไทยทุกคน ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการเคารพสิทธิของผู้อื่นด้วย หน้าที่ สิทธิ เสรีภาพ ต้องมาพร้อมกัน เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลต้องปรับรูปแบบของการทำงานให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น ประเมินผล ตรวจสอบ ผู้บัญชาการทุกระดับชั้นลงไป อย่าทำงานในลักษณะที่ล่าช้า และไม่เป็นไปตามนโยบาย ทุกคนต้องทุ่มเทเสียสละ เหน็ดเหนื่อยบ้างก็ต้องยอมช่วงนี้

ฉะนั้นการปรับรูปแบบการทำงานในเชิงรุกมากขึ้นนั้น เราจะต้องมีแผนงานไว้ล่วงหน้า มีแผนเผชิญเหตุ เผชิญสถานการณ์ และหลายเรื่องเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้วตามหลักวิชาการ ทุกท่านต้องลงพื้นที่ ไม่ต้องรอให้ประชาชนเดือดร้อน ก็ขอให้ติดตามจากทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ โซเชียลมีเดียอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน และตรวจสอบ แก้ไข ถ้าเป็นเรื่องจริง แล้วก็หาทางเสนอเข้ามาตามช่องทางการสื่อสารระหว่างภาครัฐเอกชน ประชาชน

ที่สำคัญในปัจจุบันก็คือศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งมีผู้แทนกระทรวงในการปฏิบัติงานอยู่ด้วย ในบางช่วงก็จำเป็นต้องปฏิบัติงานหลายกระทรวงด้วยกัน บางช่วงอาจจะลดลงไปบ้าง เพื่อจะรับเรื่องราวร้องทุกข์ แล้วก็ต่อยอด ให้การบริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว

วันนี้ผมให้นโยบายไปแล้วกับฝ่ายความมั่นคง ว่า สถานีตำรวจเอง ก็อาจจะต้องสามารถเชื่อมโยงกับศูนย์ดำรงธรรมให้ได้ จะได้สมกับเป็นทั้งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และโรงพักเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง อันนี้ก็อยู่ในแผนเรื่องการปฏิรูปตำรวจ ระยะที่ 1 ของ คสช.และรัฐบาลนี้อยู่แล้ว และยังมีอีกหลายอย่างที่เราจะต้องดำเนินการก่อนกรกฎาคม 60

เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องการสร้างความเข้าใจเรื่องการซื้อรถบัสโดยสารประจำทาง เอ็นจีวี ในปัจจุบันเรามีข้อมูลอยู่ว่า รถโดยสารประจำทางส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่เก่ามาก และไม่ปลอดภัย ได้กำหนดการจัดหาเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ระยะแรก คือการจัดหาเร่งด่วนทันที แต่ต้องโปร่งใส เพื่อให้ทดแทนรถที่มีสภาพทรุดโทรม อาจจะต้องจำเป็นจัดซื้อสำเร็จรูป หลายคนก็บอกว่าไม่เห็นจำเป็น เพราะเราเร่งด่วนนะ จำนวนแรกไม่กี่คันหรอก เรื่องการทุจริต/ไม่ทุจริต ก็ไปว่ากัน ระยะที่ 2 เราก็จะเอาส่วนที่เหลือมาใช้ใน 2 อย่างด้วยกัน คือ ในเรื่องของรถไฟฟ้า ถ้าทำได้ อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของผู้ประกอบการในประเทศจะต้องผลิตขึ้นมาเอง สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างผู้ประกอบการรายใหม่ขึ้นมา และก็ต้องมีราคาที่ถูกลง นี่เขาเรียกว่าการสร้างความเข้มแข็งเป็นระยะๆ ทำอย่างใดอย่างหนึ่งทีเดียวมันก็คงไม่ได้ ความพร้อมมันยังไม่พร้อมกันอยู่

การดำเนินการเกี่ยวข้องอื่นๆ ที่จะเกี่ยวข้องเรื่องนี้ เรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐาน การสัญจรไปมาของประชาชนนั้น เราต้องนึกถึงทั้งคนที่มีสตางค์ และไม่มีสตางค์ด้วย เราต้องให้เกิดความยั่งยืน ได้แก่ การปรับเส้นทางเดินรถของภาครัฐและเอกชน เพราะว่าวันนี้มันต้องมีแผนการพัฒนาระบบขนส่งให้ได้ ทั้งในเมือง นอกเมือง ต่างจังหวัด ภูมิภาค อะไรก็แล้วแต่ รวมทั้งจะต้องมีการพิจารณาปรับโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้า รถไฟ รถประจำทาง ในอนาคต ให้สอดคล้องกันในทุกภาคส่วน ทั้ง กทม. ปริมณฑล ภูมิภาค ตามที่กล่าวไปแล้ว ตามแผนงานวันนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา วิจัยและดำเนินการให้รวดเร็วขึ้น

สำหรับเรื่องการใช้รถเมล์นั้น ผมมีแนวคิดว่า วันหน้าเราอาจต้องใช้รถไฟฟ้าที่เป็นรถเมล์ เพื่อจะทำให้เกิดการประหยัดพลังงานมากขึ้น เหมือนต่างประเทศเขาทำ หลายประเทศใช้อยู่ โดยเฉพาะทางด้านยุโรป ที่เราจะเห็นในภาพในทีวีคือมีสายไฟอยู่ข้างบน ข้างถนน และยื่นออกบนถนน จะสูงจากระดับหลังคาของรถ และรถเมล์เหล่านี้จะเชื่อมโยงต่อพลังงานจากสายไฟเหล่านี้ และเคลื่อนที่ไปด้วย โดยวันนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นรางทั้งหมดนะครับ เป็นรถล้อ ซึ่งน่าจะใช้ได้ในถนน ในเส้นทางที่ไม่แออัด ปริมณฑล ผมเป็นห่วงประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีทางเลือก เพราะไม่สามารถจะใช้บริการรถไฟฟ้า หรือรถไฟความเร็ว ปานกลาง ความเร็วสูงอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมีราคาสูงในปัจจุบันได้ จนกว่าจะมีรายได้ที่เพียงพอ ต้องดูแลคนทุกภาคส่วน

รวมทั้งวันนี้หากเราจะมีการผลิตเองในระยะเวลาต่อไปนะครับ ให้มีการศึกษาวิจัยไว้ล่วงหน้า ในเรื่องของการผลิตรถไฟฟ้า ผลิตแบตเตอรี รวมทั้งมอเตอร์ขับเคลื่อนในประเทศเอง สิ่งเหล่านี้มันราคาสูงทั้งสิ้น ถ้าเราทำเองได้มันจะถูกลง แต่ปัญหาว่าเรามีความพร้อมในการผลิตหรือยัง เรามีเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ซึ่งเราจะต้องศึกษาเรียนรู้

เพราะฉะนั้นมันอยู่ในขั้นตอนของการวิจัย และพัฒนาไปสู่การผลิต ซึ่งวันนี้หลายๆ อย่าง เราทำอยู่นะครับ ทั้งนี้ประการสำคัญคือ เราจะต้องช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นะครับ ที่จะเกิดขึ้นจากการใช้รถ การจราจรที่เป็นปัญหาอยู่สำหรับโลก วันนี้เราต้องลดให้ได้ถึงประมาณสัก 30% ในระยะหลายปีต้องทำให้ได้

สำหรับในเรื่องของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนั้น ระยะต่อไปเราต้องยกระดับ ต้องสร้างความเชื่อมโยงกับอาเซียน ก่อนจะขยายผลต่อยอดไปเวทีระหว่างประเทศ ในระหว่างไทย +1 หรือ +2 +3 ประเทศก็แล้วแต่ ด้วยการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีความเข้มแข็ง แข็งแรงมีศักยภาพอยู่แล้ว เช่นสินค้าประเภทอุปโภค-บริโภคคือ อาหารนะครับ เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องที่อยู่อาศัย การค้าชายแดน เขตเศรษฐกิจพิเศษ แบบคลัสเตอร์ และซูเปอร์คลัสเตอร์ ควบคู่ไปกับการสร้างผู้ค้ารายย่อย สร้างธุรกิจใหม่ๆขึ้นมา และให้ผู้ค้ารายใหญ่ร่วมมือ เป็นผู้เปิดตลาดให้ เป็นพี่เลี้ยงให้ สร้างเครือข่ายความเชื่อมโยงกันให้ได้

ในส่วนของการท่องเที่ยว อาเซียนวันนี้ผมได้เชื่อมโยงกับทุกประเทศไปแล้วว่า ทำอย่างไรการท่องเที่ยวนั้นจะต่อเนื่องเชื่อมโยงช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะเราเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้วยกัน ไม่มีคู่แข่งขัน ถ้ามาไทย จะไปลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย จะทำอย่างไร ถ้าคนเขาต้องการในสาขาการท่องเที่ยวที่มันเชื่อมโยงกันได้ โดยจะได้เพิ่มอาชีพรายได้ และทำให้อาเซียนเข้มแข็งไปด้วย แล้วเราก็ต้องเชื่อมโยงความหลากหลายทางวัฒนธรรมในเรื่องของการท่องเที่ยว และเรื่องของการจัดทำโครงสร้างคมนาคมพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยในการที่จะเคลื่อนย้าย เดินทางของนักท่องเที่ยวให้ปลอดภัย

อนึ่ง ในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ก็ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม เรื่อง ทีพีพี ในภาพรวม และมีมุมมองทั้งในแง่บวก และแง่ที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย

สำหรับทีพีพีนั้น เป็นความตกลงเปิดเสรีทางด้านเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทั้งด้านการตลาด การค้า สินค้า การบริการ การลงทุน ตลอดจนการปฏิรูปและสร้างความสอดคล้อง ในกฎระเบียบทางเศรษฐกิจต่างๆ

สำหรับการเข้าเป็นสมาชิกทีพีพีนั้น ก็อาจจะมีทั้งข้อดี และข้อที่เป็นผลกระทบพอสมควร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็ได้มีการเชิญคณะกรรมการร่วม ภาคเอกชน ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ได้ประชุมหารือในเรื่องดังกล่าว โดยทั้ง 3 ส่วน เห็นพ้องตรงกันว่า การเข้าเป็นสมาชิกทีพีพีนั้น มีประโยชน์ และคาดว่าจะส่งผลกระทบในเชิงจิตวิทยาต่อนักลงทุนด้วย แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับว่าเอกชนบางราย ยังมีข้อกังวลอยู่ในประเด็นที่ไทยจะต้องส่งสินค้าไปแข่งขันกับประเทศที่เป็นคู่แข่ง ซึ่งเป็นสินค้าชนิดเดียวกันที่เรียกว่า สินค้าอ่อนไหว อย่างไรก็ตามปัจจุบันประเทศที่สมัครอยู่ในสมาชิกทีพีพี มีอยู่ 12 ประเทศนั้น 9 ประเทศ เป็นประเทศที่ไทยมีความตกลงด้านการค้าเสรีกันอยู่แล้ว แต่ที่ยังไม่มี ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก เท่านั้น

ในขณะนี้ประเทศไทยก็อยู่ในระหว่างเจรจาทำความตกลงทางพาณิชย์ ทางการค้า ระดับภูมิภาคหรือที่เรียกว่า RCEP เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างอาเซียน 10 ประเทศ กับคู่ภาคี 6 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ นะครับ นับเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สามารถจะรองรับสินค้าและการบริการของไทยได้ เพราะจำนวนประชากรอาเซียน+6 นั้น มีมากถึง 3,500 ล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลกเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น สรุปแล้วการเข้าเป็นสมาชิกของทีพีพี จะต้องมีการเจรจาต่อรอง ทำข้อตกลงระหว่างประเทศที่เป็นคู่ภาคีด้วยกันก่อน ซึ่งขณะนี้คาดว่าจะใช้ระยะเวลา ประมาณ 1-2 ปี เรายังมีเวลาอยู่ ผมก็ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงข้อมูลที่กระทรวงพาณิชย์ได้นำเสนอ และนำไปพิจารณาให้ครอบคลุมในทุกมิติ ประเทศไทยยังมีเวลาที่จะศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมให้รอบคอบก่อนที่จะมีการตกลงใจใด ๆ เราไม่ได้ปิดกั้นในเรื่องนี้ เรามีเวลาถึงปี 2560 ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย อยากทำให้ทุกอย่างมีความก้าวหน้า ต้องดูแลในมิติอื่นๆ ด้วย

ในเรื่องการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินขององค์กรอิสระ ภายใต้การดูแลของฝ่ายบริหาร ก็เป็นไปตามรายงานข้อเท็จจริงที่หน่วยงานส่งเข้ามา ผมไม่ได้ไปจ้องจับผิดใคร ไม่มีใครมาสั่งให้ผมทำอย่างนั้นได้อยู่แล้ว สิ่งที่ตั้งใจคือ อยากจะเห็นการใช้เงินภาษีของประชาชนให้มีความคุ้มค่า เกิดประโยชน์กับประชาชน และประเทศชาติอย่างมากที่สุด ผมไม่อยากให้กังวลเกิดกว่าเหตุว่าหน่วยงานไหนใช้จ่ายเงินถูกต้อง ตามสิ่งที่ควรจะทำ แต่หากหน่วยงานใดมีการใช้จ่ายไม่เป็นไปตามวัตถประสงค์ หรือตามที่กฎหมายกำหนด ก็ต้องแก้ไขปรับปรุง ทุกกระทรวงกำลังดำเนินการอยู่ ท่านต้องเข้าใจว่าเงินที่รับมานั้นเป็นเงินภาษีจากประชาชน จะได้จากภาษีอะไรก็แล้วแต่ จะเอามาใช้ตามอำเภอใจไม่ได้ ฉะนั้นต้องมีการประเมินผล รายงานผลสัมฤทธิ์ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เปิดเผยให้สื่อมวลชนรับทราบได้ การมีประสิทธิภาพและความโปร่งใสนั้นจำเป็นต้องกำหนดให้เหมาะสม เพราะเป็นการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ทุกบาททุกสตางค์ต้องทำกิจกรรมที่คืนประโยชน์ให้กับสังคมด้วย

ในส่วนของกิจกรรม CSR ที่จะต้องคืนให้แก่เอกชนหรือสังคมนั้น เขาจะแบ่งส่วนหนึ่งที่เป็นประโยชน์ หรือผลกำไรนั้น เพื่อจะดูแลสังคม ในพื้นที่ที่เขาทำงานอยู่ หรืออะไรก็แล้วแต่ เอกชนส่วนใหญ่มักจะมุ่งไปในเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ความจริงแล้ว การคืนประโยชน์ คืนคุณค่ากลับสู่สังคมนั้น จะมีความหมายมากกว่านั้น รวมความไปถึงการส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมการศึกษา เหล่านี้เป็นต้น ก็อยากให้นำมาเชื่อมโยงกันด้วย ในเรื่องของวิสาหกิจชุมชน หรือ Social Business หรือ Social Enterprise อะไรก็แล้วแต่ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานราก สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ทั้งในเรื่องของสิ่งแวดล้อม และในเรื่องการทำให้คนมีรายได้สูงขึ้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่เรียกว่าประชารัฐ ถ้าเราสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนได้ เชื่อมโยงทุกมิติ ก็จะเป็นการคืนประโยชน์ที่ดีมากยิ่งขึ้น ให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับสังคม ให้กับประชาชนได้อีกทางหนึ่ง

ผมขอฝากให้หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่ได้มีโอกาสสนทนา หรือประสานงานกับภาคธุรกิจ เอกชน บริษัทต่างๆ ก็ขอร้องให้มีโครงการจัดทำ CSR ให้มีการพิจารณาในส่วนนี้ด้วย เพื่อจะส่งเสริมการทำงานร่วมกันของเรา

อีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญมาก และต้องเข้าใจกันว่า วันนี้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ที่รัฐบาลและ คสช.ยังต้องใช้อยู่ มีความจำเป็น ทั้งนี้ มีไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพในบ้านเมือง และมีการเปลี่ยนแปลงให้เกิดการปฏิรูปในกรณีที่กฎหมายยังไม่มี หรือกฎหมายยังไม่พร้อม หรือต้องการให้เกิดการบูรณาการ หรือมีการตรวจสอบ ก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นมันจำเป็นต้องมีอยู่ รัฐบาลและ คสช.จำเป็นต้องเข้มงวดกับทุกๆ เรื่องที่มีความสำคัญต่ออนาคตของประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ ในเรื่องของการรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ก็ขอความร่วมมือ อย่าต่อต้านขัดขวางกันเลย ต้องเข้าใจคำว่ารัฏฐาธิปัตย์ ผมอยากให้ทุกคนคิดว่าประเทศชาติต้องมาก่อนเสมอ สิ่งใดที่จำเป็น และที่ผ่านมามันทำไม่ได้ ผมก็ต้องตัดสินใจในการใช้มาตรา 44 ถ้าบ้านเมืองไม่มีปัญหาให้แก่ ไม่มีการไม่เคารพกฎหมาย หรือไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปใดๆ ผมจะเข้ามาทำไมล่ะครับ ก็อยากให้ทุกคนเตือนตัวเองว่า อย่าทำผิดกฎหมาย หรือขัดคำสั่ง คสช. ส่วนใหญ่นั้นมักจะอ้างว่าประชาธิปไตย หรือสิทธิมนุษยชน แต่ไม่ได้ดูหรอกว่ากฎหมายที่ออกมานั้นเขาประกาศเพื่อใคร ไม่ใช่เพื่อผม เพื่อคนอื่น เพราะฉะนั้นในการที่เขาละเมิดสิทธิคนอื่นอย่างนี้ไม่ได้ ท่านก็ผิดละเมิดสิทธิมนุษยชนเหมือนกันนั่นล่ะ เพราะท่านไปละเมิดคนอื่นเขา

เมื่อเรามีรัฐธรรมนูญ เราเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ดี เราก็ไปดำเนินการต่อในช่วงนั้นก็แล้วกันในการใช้ประชาธิปไตยอย่างเหมาะสม ถูกต้อง ก็ขออย่าให้มีเหตุการณ์เช่นในอดีตเกิดขึ้นอีกเลย วันนี้ทุกคนต้องทราบปัญหาของประเทศแล้ว ผมพูดมาหลายครั้งแล้ว ถ้าไม่ฟังก็ไม่รู้จะทำยังไง ท่านต้องเอาปัญหามาแล้วคิดซิว่าเราจะร่วมมือกันยังไง ถ้าผมไม่ใช้ความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา มันก็แก้ไม่ได้อีกเหมือนเดิม คนที่เข้าใจก็ขอให้อธิบายคนที่ไม่เข้าใจด้วย และห้ามปรามคนที่กำลังจะฝ่าฝืน หลีกเลี่ยง แล้วก็ไปอ้างต่างประเทศ อ้างกฎหมายสิทธิมนุษยชน อ้างประชาธิปไตย มันทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไม่สะดวก มีเหตุติดขัดทุกเรื่องเลย

สุดท้ายนี้ผมขอชื่นชมคุณชัด อุบลจินดา ในการเข้าช่วยเหลือสองสามี-ภรรยาชาวนอร์เวย์ที่กำลังจมในโคลน แล้วก็ฝากเป็นข้อคิดถึงเหตุการณ์เหล่านี้ด้วย สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย เราเป็นชนชาติที่มีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เป็นสิ่งที่ดี เป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศด้วย นอกจากคำว่า สยามเมืองยิ้ม แล้วก็มีการบริการด้วยน้ำใสใจจริง ซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบ หรือแสวงหาประโยชน์จากนักท่องเที่ยว ทำให้เกิดความประทับใจบ้านเรา ให้เขามาหลายๆ ครั้ง บอกต่อๆ กันมา ไม่ใช่มาครั้งเดียวแล้วก็ไม่มาอีกเลย เราแสวงหาประโยชน์อย่างที่เกิดๆ ขึ้นมาอยู่มันไม่ถูกต้อง อยากให้เขากลับมาเยือนเราอีก มันจะได้เป็นการเพิ่มพูนรายได้ของประเทศ และของเราเองด้วย อย่าหากินครั้งเดียวนะครับทุกเรื่อง ทุกคนต้องปฏิบัติตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างบรรยากาศความปลอดภัยชีวิต ทรัพย์สิน ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทยให้เขาด้วย ที่ผมประทับใจที่สุดคือที่คุณชัชพูดว่า ทำความดีเอาไว้ไม่ต้องให้ใครเห็น หรือหวังผลใดๆ และฝากถึงลูกหลานให้ช่วยกันรักษาวัฒนธรรมไทย ช่วยเหลือเผื่อแผ่ ทำดีเพื่อส่วนรวม อย่าไปคิดถึงว่า เราจะได้ค่าตอบแทนหรือไม่ หรือเราจะได้ประโยชน์ด้วยหรือไม่ ต้องขอขอบคุณ คุณธีรศักดิ์ ศักดิ์ศรีทวี ที่ช่วยเผยแพร่สิ่งดีๆ ที่คนไทยทำ อันนี้มีหลายคนช่วงต่อจากนั้นมา มีนักศึกษาอีกท่านหนึ่งที่ช่วยเปิดทางให้รถพยาบาลพาคนเจ็บที่ถูกงูกัด งูเห่ากัดไปถึงโรงพยาบาลทั้งๆ ที่การจราจรมันติดขัด เขาบอกแต่เพียงว่า เขาเป็นห่วงว่าเดี๋ยวเขาจะเสียชีวิต การจราจรมันติดมาก เขาไปเปิดทางเคาะบอกทุกคันข้างหน้า บอกให้เปิดทางให้รถพยาบาล จนถึงโรงพยาบาลเรียบร้อย และปลอดภัย นี่เป็นหนึ่งที่ดี ขอให้มีการดูแลตอบแทนชื่นชมคนเหล่านี้ด้วย ให้เขามีกำลังใจในการที่จะทำดีต่อ

เรื่องสุดท้ายเรื่องการปลูกจิตสำนึกไทย เราต้องภูมิใจประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของมวยไทย ดนตรีไทย สินค้าไทย วัฒนธรรมแบบไทยๆ ขนบธรรมเนียมประเพณีของเรามีอย่างยาวนานหลายร้อยปี เพราะฉะนั้นอย่าไปหลงเชื่อผู้ที่บ่อนทำลายบิดเบือนให้เข้าใจผิดๆ เข้าใจคำว่าประชาธิปไตยแบบผิดๆ เสรีภาพไร้ขีดจำกัดโดยไม่รู้จักหน้าที่ และสิทธิของคนอื่น อ้างแต่เสรีภาพ สิทธิมนุษยชนเพียงอย่างเดียว เป็นการบ่อนทำลายความมีเสถียรภาพ ทำลายภาพลักษณ์ ทำลายความรัก ความสามัคคีคนในชาติ เสียชื่อเสียงประเทศในองค์กรต่างๆ และในเวทีระหว่างประเทศด้วย ผมไม่เห็นประโยชน์เลย วันหน้าท่านทำให้มันดี หารัฐบาลที่ดีเข้ามา และเรื่องเหล่านี้มันจะไม่เกิดขึ้น วันนี้ผมมาแก้ไข อย่าเพิ่งมาตำหนิว่าอะไรผมนักเลยตอนนี้ ท่านไปดูวันหน้าสิ อย่าไปทำอย่างเช่นที่ผ่านมา เหมือนกับท่านเลือกข้างของท่านนั่นแหละ

เพราะฉะนั้นในเรื่องของการแต่งกายไทย ดนตรีไทย ผมถือว่าสำคัญ และเราต้องรักษาภาพลักษณ์ให้ได้ อย่าหลงลืมกันนะครับ อันนี้มันเป็นความเป็นมาของคนไทย ถ้าเราไม่รู้ว่าเราเป็นไทยมาอย่างไร บรรพบุรุษ สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทำอะไรไว้บ้างในแผ่นดินนี้ ท่านไม่รู้ว่าท่านจะรักประเทศชาติของไทยอย่างไร แล้วท่านก็ไม่ภูมิใจ ท่านก็แตกแยกไม่สามัคคีกันอยู่แบบนี้ แต่ก่อนโบราณผ่านมาเขารวมพลทุกพื้นที่จนกว่าจะเป็นประเทศมาได้ เสียเลือดเนื้อไปเท่าไหร่ และวันนี้ท่านจะมาทำลายในสิ่งที่เป็นหนึ่งเดียวของเราให้มันแตกแยกออกไปด้วยอะไรก็แล้วแต่ ด้วยการเมือง ด้วยผลประโยชน์ ที่มันไม่ถูกต้อง ถ้าถูกต้องผมไม่ไปว่าท่านอยู่แล้ว

ฉะนั้นในส่วนหนึ่งที่เราต้องระมัดระวังคือวัฒนธรรมต่างประเทศ คือเราก็ห้ามไม่ได้อีก เพราะเราเป็นประชาธิปไตยไง มีเสรี เลือกเอาแล้วกันว่าอะไรดี อะไรไม่ดี อะไรที่มันจะทำให้วัฒนธรรมเราเสียหาย ก็ต้องช่วยกันรักษาไว้อย่าให้มันสูญหายไป อย่าไปเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่งั้นมันจะไม่มีเสาหลักของประเทศเลย ถ้าลืมไปทั้งหมด สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราต้องรักษาไว้ ประวัติศาสตร์จะสอนให้เรารู้ว่าเราเป็นอยู่อย่างไรในปัจจุบัน และอนาคต วันหน้าเราก็สร้างประวัติศาสตร์ วันนี้เพื่อลูกหลานเราภูมิใจในวันหน้า สร้างสิ่งดีๆ ถ้าท่านทำสิ่งที่ไม่ดี วันหน้าเขาจะจารึกไว้ว่าท่านแต่ละคนทำความดี หรือไม่มีอย่างไร ลูกหลานวันหน้าเขาก็ไม่เคารพนับถือ ช่วยกันรักษาไว้ อย่าหลงลืมกันไป เข้าใจกัน ให้เวลาผมในการทำหน้าที่ แล้วเราจะต้องขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ถ้าเราไม่มีเสถียรภาพ ไม่ปลอดภัย การเมืองก็ไม่แน่นอน มันก็เป็นปัญหาอีก มันจะไปแน่นอนได้อย่างไร ถ้ามันยังไม่เรียบร้อยในเรื่องของรัฐธรรมนูญ ในเรื่องของการปฏิรูปประเทศในการสร้างความปรองดอง มันยังไม่ชัดเจน ท่านต้องช่วยให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น

ผมก็บอกไว้แล้วว่า กรกฎาคม 60 มันจะต้องเลือกตั้ง ท่านก็ต้องนำไปอยู่ตรงนั้นรวมกับผมด้วยไม่ใช่ให้ผมนำคนเดียว ทุกอย่างเลย เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา กฎหมาย การต่างประเทศ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เกษตรกรรม เกษตรกร ต่างๆ ดูแลรายได้น้อย แก้ปัญหาเรื่องหนี้สิน แก้ปัญหาเรื่องทุจริต ทำเป็นร้อยเรื่อง ถ้าท่านไม่ช่วยผม วันหน้าเราก็อยู่กันแบบนี้ ก็ถอยหลังไปเรื่อยๆ แล้วก็ไม่มีใครมาเที่ยวเมืองไทยอีกต่อไปเลย ฝากไว้ด้วย ขอให้มีความสุขในวันสุดสัปดาห์ แล้วก็ปลอดภัยฝากไว้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น