นายเชาว์ ทรงอาวุธ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณวงเงินกู้ 15,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรับซื้อยางดิบมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยาง โดยรัฐจะชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3 ในระยะเวลา 10 ปี หรือจำนวนชดเชยดอกเบี้ยประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้เกิดการกู้เงินและรับซื้อยางดิบประมาณ 60,000 ตัน ซึ่งถือเป็นงบประมาณใหม่เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง โดยได้มีการเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนขอรับสิทธิในโครงการดังกล่าวเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคมนี้เป็นต้นไป
ส่วนมาตรการยกระดับราคายางภายในประเทศ รัฐได้ส่งเสริมนโยบายการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐจำนวน 100,000 ตัน ภายในระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่ปี2559 - 2560 โดยมอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทย รับซื้อยางแผ่นดิบจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 45 บาท เพื่อส่งมอบให้บริษัทคู่สัญญานำไปแปรรูปและใช้ในหน่วยงานภาครัฐ โดยล่าสุดได้แจ้งความจำนงการใช้ยางในปี 2559 แล้วจำนวน 76,000 ตัน
สำหรับความคืบหน้าโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง จากภาวะราคายางตกต่ำ จำนวนงบประมาณ 12,750 ล้านบาท โดยจะช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางผู้มีเอกสารสิทธิ์ ประกอบด้วยเจ้าของสวนยาง หรือผู้เช่าและคนกรีดยาง ในสัดส่วนร้อยละ 60 : 40 อัตราไร่ละ 1,500 บาท จำนวน 850,000 ครัวเรือน โดยเกษตรกรที่เป็นเจ้าของ หรือผู้เช่าสวนยางจะได้รับเงินชดเชย 900 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ สำหรับคนกรีดยางจะได้รับเงินชดเชย 600 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ เบื้องต้นมีเกษตรกรยื่นขอใช้สิทธิจำนวน 750,000 ครัวเรือน และได้มีการจ่ายเงินสนับสนุนแล้วกว่า 400,000 ครัวเรือน ซึ่ง กยท. จะเร่งรัดการจ่ายเงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามข้อกำหนดให้ครบ 750,000 ครัวเรือน ภายในวันที่ 25 มีนาคมนี้
ส่วนมาตรการยกระดับราคายางภายในประเทศ รัฐได้ส่งเสริมนโยบายการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐจำนวน 100,000 ตัน ภายในระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่ปี2559 - 2560 โดยมอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทย รับซื้อยางแผ่นดิบจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 45 บาท เพื่อส่งมอบให้บริษัทคู่สัญญานำไปแปรรูปและใช้ในหน่วยงานภาครัฐ โดยล่าสุดได้แจ้งความจำนงการใช้ยางในปี 2559 แล้วจำนวน 76,000 ตัน
สำหรับความคืบหน้าโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง จากภาวะราคายางตกต่ำ จำนวนงบประมาณ 12,750 ล้านบาท โดยจะช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางผู้มีเอกสารสิทธิ์ ประกอบด้วยเจ้าของสวนยาง หรือผู้เช่าและคนกรีดยาง ในสัดส่วนร้อยละ 60 : 40 อัตราไร่ละ 1,500 บาท จำนวน 850,000 ครัวเรือน โดยเกษตรกรที่เป็นเจ้าของ หรือผู้เช่าสวนยางจะได้รับเงินชดเชย 900 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ สำหรับคนกรีดยางจะได้รับเงินชดเชย 600 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ เบื้องต้นมีเกษตรกรยื่นขอใช้สิทธิจำนวน 750,000 ครัวเรือน และได้มีการจ่ายเงินสนับสนุนแล้วกว่า 400,000 ครัวเรือน ซึ่ง กยท. จะเร่งรัดการจ่ายเงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามข้อกำหนดให้ครบ 750,000 ครัวเรือน ภายในวันที่ 25 มีนาคมนี้
