“สรรเสริญ” โร่แจงหลังม็อบยางเริ่มชุมนุม บอกเมื่อวันศุกร์นายกฯ ประชุมกันแล้ว รับซื้อยางแผ่นดิบชั้น 3 อยู่ที่ 3 โลร้อยเศษ ๆ ไม่ต่ำลงกว่านี้ พร้อมให้ 8 กระทรวงช่วยรับซื้อ รีบชงบอร์ดการยางฯ เข้า ครม. วอนอย่าชุมนุมกดดัน เดินขบวน ปิดถนน ไม่รับปากว่าราคาจะไม่ตก บอกได้แค่ว่ารัฐบาลจริงใจ ปราม สสส. เกียร์ว่าง ถึงมาตรา 44 ยังทำงานได้ เหน็บเอาเงินไปทำงานมูลนิธิอื่น สังคมสงสัย
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงปัญหาราคายางพาราตกต่ำ จนเกษตรกรทางภาคใต้เริ่มออกมาชุมนุม ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีความเป็นห่วงเรื่องปัญหายาง และได้ติดตามปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา มีการประชุมกันกับตัวแทนทุกฝ่ายที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้ข้อยุติที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่าเป็นแนวทางที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างชัดเจน แม้อาจไม่ทำให้เป็นที่ถูกใจทั้งหมดได้ แต่ถือว่าช่วยทำให้ปัญหาทั้งหลายผ่อนจากหนักเป็นเบา
โดยข้อยุติในวันนั้นคือ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรับซื้อยางตกลงกันจะซื้อยางไม่ให้ราคาต่ำกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งปัจจุบันราคายางแผ่นดิบชั้น 3 อยู่ที่กิโลกรัมละ 34 บาท โดยจะยังไม่พูดถึงข้อกฎหมาย และจะยกระดับราคาให้สูงขึ้นเท่าที่ทำได้ในเวลาที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน จากวันนี้ถึงวันที่ปิดกรีดยางคือ อีก 3 เดือน ประมาณการณ์กันว่าจะมียางออกสู่ตลาดประมาณ 8 แสนตัน ซึ่งกลุ่มที่ซื้อยางทุกส่วนยอมรับในกฎกติกาว่าจะแบ่งสันปันส่วนกันซื้อยางให้หมด ไม่ให้มียางตกค้าง นอกจากนี้ ในส่วนของ 16 มาตรการของรัฐบาลชุดนี้จะยังดำเนินต่อไป แล้วเรามั่นใจว่าทุกส่วนที่เกี่ยวข้องจะนำเรื่องนี้ไปชี้แจงให้เกษตรกรที่เกี่ยวข้องรับทราบ
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า การยกราคาให้สูงตามที่มีการเรียกร้องกันนั้นยาก เพราะทุกคนทราบดีว่าราคายางโลกตก ปริมาณล้นตลาด จึงอยากให้คุยด้วยเหตุผล ไม่อยากเห็นการกดดันรัฐบาลแล้วทำผิดกฎหมาย เพราะปัจจุบันการชุมนุมกระทำไม่ได้ แต่รัฐบาลไม่อยากพูดเรื่องกฎหมายเพราะมันเป็นยาแรง เกษตรกรกำลังเดือดร้อนอยู่ จะบั่นทอนความรู้สึกเขา แต่เรียนไว้ว่าไม่อยากให้ทำเลย หากจะรวมกันประชุมเพื่อสรุปข้อมูลทั้งหลายแล้วรายงานมาให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐเรายินดีรับฟัง แต่หากจะปิดถนน เดินขบวนมา กทม. ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง
ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าที่นายกฯ ได้ติดตามและฝากคือ เรื่องบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่ขณะนี้ยังไม่เสร็จ นายกฯ สั่งการเร่งรัดให้ส่วนที่เกี่ยวข้องให้เอาเข้าที่ประชุม ครม. ให้ได้ หากวันที่ 12 ม.ค. ไม่ทันก็นำเข้าสัปดาห์หน้า ซึ่งถ้าบอร์ดเรียบร้อยกลไกทั้งหลายจะเดินไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ หลังจากตกลงกันแล้วเมื่อวันที่ 7 ม.ค. จะมีส่วนต่าง ๆ ไปไล่ตรวจสอบว่ามีผู้รับซื้อคนใดไม่ปฏิบัติตามกติกาหรือไม่ ถ้ามีจะติดต่อเป็นรายบุคคลเป็นการเตือน ถ้ายังประพฤติอยู่ต้องว่ากันด้วยกฎหมาย แต่จะยังไม่พูดถึงมาตรา 44 เพราะยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องควบคุมอยู่ คือ พ.ร.บ. ควบคุมยาง พ.ศ. 2542 กับกฎหมายควบคุมสินค้า ทั้งนี้ เชื่อว่าอย่างน้อยมาตรการดังกล่าวจะไม่ทำให้ราคายางตกไปกว่านี้
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกฯ มีคำสั่งไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คมนาคม มหาดไทย ศึกษาธิการ สาธารณสุข กลาโหม อุตสาหกรรม พาณิชย์ เกษตรและสหกรณ์ จากนั้นจะต้องรวบรวมความต้องการว่าจะช่วยรับซื้อยางในความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวงอย่างไร เพือให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แล้วส่งสำเนามาให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวบรวมภายในเวลา 12.00 น. วันที่ 11 ม.ค. นี้ โดยนายกฯ ให้แต่ละกระทรวงใช้งบประมาณตัวเองในการรับซื้อ และมีความเป็นไปได้ว่าจะรายงานเข้าที่ประชุม ครม. วันที่ 12 ม.ค. นี้เลย ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และวิงวอนว่าอย่าทำในลักษณะที่กดดันรัฐบาล เพราะการกดดันไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หากคุยด้วยเหตุผลยอมรับว่าราคาไปแค่ไหนอย่างไร ทำอย่างไรไม่ให้ราคาทรุดไปกว่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรเป็นหลักประกันว่าราคาจะไม่ตกกว่านี้ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ความจริงใจ รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาทุกเรื่อง เกษตรกรทุกกลุ่มรัฐบาลรับมาหมด อะไรที่เป็นปัญหาของเกษตรกรเราพยายามลงไปให้ถึงต้นตอจริง ๆ รับฟังว่ามันทำได้แค่ไหน หากอุดหนุนแค่พึงพอใจประเดี๋ยวประด๋าวถือว่าไม่ถูกต้อง
พล.ต.สรรเสริญ ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กรมสวนสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้น สิ่งที่เขาทำได้คือต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน รอให้มีการตรวจสอบ กฎ กติกาตรงไหน ที่ยังมีปัญหา ได้มีการแก้ไข เสร็จแล้วโครงการทั้งหลายเดินต่อไป และกรรมการ สสส. ที่เหลือก็เดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ ไม่ใช่หมายความทั้ง 7 คน ถูกมาตรา 44 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แล้วบอร์ด สสส. เดินต่อไม่ได้ ในมุมมองของบางคนบอกว่าเสียดุล เรารับทราบปัญหา แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนทุจริต ตัวท่านอาจเป็นกรรมการ สสส. อาจเป็นกรรมการในสมาคม มูลนิธิอื่น แล้วเอาเงิน สสส. ไปทำ สังคมอาจตั้งข้อสังสัย ดังนั้น กฎ กติกา อะไรที่ทำให้แคลบแคลงสงสัย กำลังแก้ไข แต่เมื่อมีเรื่องนี้มา เพื่อทำให้สังคมสบายใจก่อน